สาว ๆ ที่เคยผ่านการทานยาปรับฮอร์โมนหรือใครที่เพิ่ง เริ่มการทานยาคุม คงเคยคุ้นหูกับ ยาปรับฮอร์โมน ee30d กันมาบ้างแล้ว ส่วนใครที่ยังไม่เคยทานยาปรับฮอร์โมนตัวไหนมาก่อนเลยอาจจะยังไม่รู้ว่า ยาปรับฮอร์โมนตัวนี้ช่วยในเรื่องใดบ้าง วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงคุณสมบัติและสรรพคุณแบบละเอียดเพื่อให้การเลือกซื้อยาปรับฮอร์โมนครั้งต่อไปจะได้เลือกให้ตรงกับความต้องการมากที่สุดด้วย
ยาปรับฮอร์โมน ee30d คือยาปรับฮอร์โมนชนิดรวมที่มีส่วนผสมในตัวยา 1 เม็ดประกอบด้วยตัวยา 2 ชนิดได้แก่ตัวยา Drospirenone ในปริมาณ 3 มิลลิกรัม และตัวยา Ethinylestradiol ในปริมาณ 0.03 มิลลิกรัม ซึ่งจะมีในรูปแบบยาปรับฮอร์โมนหรือยาคุมชนิดแผง 21 เม็ดที่ทุกเม็ดจะเป็นตัวยาที่มีฮอร์โมนในปริมาณเท่ากันทุกเม็ด
มีสรรพคุณช่วยในเรื่องใดบ้าง
คุณสมบัติอย่างแรกของยาปรับฮอร์โมนหรือที่หลายคนรู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งคือ ยาคุมกำเนิด สรรพคุณข้อแรกเลยก็คือช่วยคุมกำเนิดหรือป้องกันการตั้งครรภ์นั่นเอง และด้วยส่วนประกอบในตัวยาที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนที่สูงจึงทำให้ออกฤทธิ์ช่วยยับยั้งการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่ทาน นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติด้านอื่น ๆ อีกด้วยได้แก่
ช่วยลดการเกิดสิว และรักษาสิวที่เกิดจากผิวหน้ามัน
ลดอาการบวมน้ำจากการที่เซลล์เก็บกักน้ำไว้มากจนเกิดเป็นอาการบวมน้ำ
ลดอาการปวดท้องประจำเดือน
ลดลักษณะของความเป็นเพศชาย เช่น ลดการผลิตของต่อมผลิตไขมันใต้ผิวหนัง ลดขนที่ขึ้นตามร่างกายให้เป็นเส้นเล็กและบางลง
เหมาะกับใครบ้าง?
ผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดด้วย
วิธีการทานยาคุม ผู้ที่ต้องการรักษาสิว
ผู้ที่อยากทานยาคุมแล้วไม่อยากบวมน้ำหรือไม่อยากอ้วน
ผู้ที่ต้องการลดความมันหรือลดการทำ
งานของต่อมผลิตไขมัน ที่ทำให้ผิวมีความมันเยิ้มมากเกินไป หรือผมมีความมันเยิ้ม
วิธีการทานยา
อย่างที่กล่าวมาข้างต้นว่า ยาปรับฮอร์โมน ee30d เป็นยาคุมชนิดแผง 21 เม็ด วิธีการรับประทานยาก็เหมือนกับ
วิธีกินยาคุม 21 เม็ด ทั่วไปคือทานวันละ 1 เม็ดในเวลาเดิม ๆ ทุกวันเพื่อป้องกันการลืมทานยา สำหรับผู้ที่ทานครั้งแรกให้เริ่มทานเม็ดแรกในวันแรกของวันที่มีประจำเดือนและเมื่อหมดแผงให้เว้นไป 7 วันและเริ่มทานแผงใหม่ในวันที่ 8 หากใครที่ไม่เคยทานยาปรับฮอร์โมนมาก่อนอาจมีอาการข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะบ้าง ทางที่ดีควรเลือกช่วงเวลาในการทานยานี้ในช่วงเวลากลางคืนก่อนเข้านอนหรือหลังอาหารเย็นเพื่อไม่ให้ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นนั้นมีผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันนั่นเอง
แม้ว่ายาปรับฮอร์โมนจะเป็นเพียงแค่ฮอร์โมนที่ไม่ได้เป็นตัวยาโดยตรง แต่ก็มีผลต่อฮอร์โมนภายในร่างกาย หากใครที่ไม่แน่ใจว่าจะสามารถทานได้อย่างปลอดภัยต่อสุขภาพของตัวคุณเองหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีโรคประจำตัวอยู่ ก็อาจจะมีอาการแย่ลงเมื่อได้รับยาปรับฮอร์โมน ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ก่อนทาน