4 เคล็ดลับแต่งหน้าให้ดูอ่อนวัยโดยเริ่มเตรียมผิวจาก แป้งตลับ และรองพื้น ยิ่งตัวเลขของอายุที่เพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนว่าปัญหาของผิวดูจะเพิ่มตามมากขึ้นเท่านั้น ไหนจะปัญหาฝ้า กระจากแสงแดด และสิว รวมถึงริ้วรอยเหี่ยวย่น และสีผิวที่ไม่เท่ากัน ซึ่งถือเป็นปัญหาที่ทำให้เราไม่มั่นใจได้ไม่ใช่น้อยเลแต่ ใช่ว่าเราจะไม่มีทางออกเสมอไปนะคะสาว ๆ เพราะเราเชื่อว่าทุกคนคงมีวิธีการปรนนิบัติผิวในรูปแบบที่แตกต่างกันไปอยู่แล้ว ที่สำคัญหากเรามืออาวุธเป็นไอเท็มเครื่องสำอางค์ดีๆ สักชุดอย่าง
แป้งตลับ และรองพื้น และรู้วิธีการใช้ที่ถูกต้อง รับรองว่าทุกคนจะมีผิวหน้าที่อ่อนเยาว์สมใจอยากแน่นอนค่ะ
1.บำรุงผิวก่อนการแต่งหน้าและเลือกใช้รองพื้นที่ไม่แมทมากเกินไป ขั้นตอนการบำรุงผิวก่อนแต่งเป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ ก่อนที่เราจะลงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์ ก็ควรดูแลให้ผิวพรรณพร้อมเสียก่อน ตัวบำรุงที่สำคัญคือ มอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและความติดทนนานของเมคอัพค่ะ ลงในปริมาณที่พอเหมาะ รอให้ซึมลงสู่ผิวแล้วเลือกใช้รองพื้นที่ให้ Finish Look ไม่แห้งแมท เพราะถ้าผิวไม่ดี และไม่ได้มีลุคที่คิดไว้จริงๆ ว่าอยากจะแต่ง บางครั้งก็อาจจะทำให้ผิวดูแห้งกร้าน หากตกร่องก็ยิ่งเป็นการเน้นย้ำริ้วรอยให้เห็นชัดขึ้นกว่าเดิมอีกแหน่ะ
2.ใช้แปรงคู่กับแป้งผสมรองพื้น เลือกใช้
แป้งพัฟที่ดีที่สุด ที่สีใกล้เคียงกับตัวรองพื้นค่ะ เดี๋ยวนี้แบรนด์คุณภาพส่วนใหญ่ก็มักจะออกไลน์เครื่องสำอางให้มีสีหรือเบอร์ที่เข้ากันอยู่แล้ว ใช้แปรงวนแป้งแล้วเคาะส่วนเกินออก แล้วปัดให้ทั่วใบหน้าเพื่อเซท
รองพื้นคุมมัน ค่ะ พยายามอย่าให้หนามาก เพราะอาจะเกิดคราบ ถ้าต้องการการปกปิดควรจัดการให้เรียบร้อยตั้งแต่ขั้นตอนการลงรองพื้น หรือไม่ก็ใช้วิธีกดพัฟแป้งเพื่อปกปิดเฉพาะจุดเอาค่ะ
3.ปัดบลัชออนหน้าแก้มเหมือนเลือดฝาดธรรมชาติ บลัชออนก็เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่จะส่งผลให้ลุคของเราดูเด็กหรือดูเป็นผู้ใหญ่ค่ะ ถ้าเน้นความเป็นธรรมชาติ ก็ใช้บลัชออนโทนสีแดง – ส้มปัดเบาๆ ด้วยแปรงที่บริเวณหน้าแก้มแล้วเบลนด์ให้กระจายออกไปรอบๆ อย่างเบามือ ทำแบบนี้ใบหน้าจะดูสุขภาพดี มีเลือดฝาดค่ะ แต่ถ้าใครชอบปัดโทนสีชมพู ระวังอย่างใช้สีที่ฉูดฉาดจนเกินไป ลองดูเป็นบลัชออนสีชมพูนม หรือชมพูติดส้มจะเข้ากกับลุคหน้าเด็กมากที่สุดค่ะ
4.เฉดดิ้งและไฮไลท์ไม่ต้องจัดเต็มมากเกินไป ฟังไม่ผิดค่ะ ในลุคหน้าเด็กเราต้องการความเป็น “ธรรมชาติ” เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ได้มีปัญหาเรื่องมุมหน้าที่กังวลมากจริงๆ ก็ลองเฉดดิ้งเฉพาะบริเวณปลายจมูก หัวคิ้ว ขอบไรผม และข้างแก้มค่ะ แล้วสีของเฉดดิ้งก็ไม่ควรต่างกับสีผิวจริงของเรามากด้วย อาจจะใช้เป็นเฉดดิ้งแบบสติ๊กจัดการให้เรียบร้อยพร้อมกับขั้นตอนการลงรองพื้นในกรณีที่ต้องการความติดทน หรือไม่ก็ใช้
แป้งพัฟถูกและดี ที่เข้มกว่าสีผิวจริงปัดแทนก็ได้เช่นกันค่ะ
และทั้งหมดนีก็คือ 4 ขั้นตอนง่าย ๆ ที่สาว ๆ สามารถนำไปปรับใช้กับการแต่งหน้าประจำวันได้เลยนะคะ อย่าปล่อยให้อายุที่เพิ่มมากขึ้นมาสกัดความสวยของเราได้ ลุกไปแต่งหน้าให้ปัง แล้วออกจากบ้านแบบมั่นใจกันดีกว่าค่ะ