ใบหน้าที่สวยใส ขาวสะอาด มีออร่า แลดูสุขภาพดีแบบมีเลือดฝาด เป็นสิ่งที่ผู้หญิงหลายคนพึงปรารถนา แล้วจะมีหนทางไหนที่จะได้เป็นเจ้าของผิวหน้าขาว กระจ่างใสได้อย่างใจนึก อยู่ๆ ดีผิวจะสวยขึ้นมาได้เอง หรือมีความชิมเมอร์เบาๆ ตั้งแต่เกิดเป็นไปไม่ได้แน่นอน แต่เป็นเพราะมีตัวช่วยที่ดีต่างหาก แน่นอนว่าช้อยส์แรกๆ ที่ผู้หญิงอย่างเรานึกถึงนั่นก็คือ “ครีมบำรุง” หรือ “ครีมหน้าใส” นั่นเอง
เหตุผลของผู้หญิงนั้นมีไม่มากมาย ก็เพราะอยากสวย อยากผิวขาว อยากทำให้ตัวเองมีเสน่ห์ชวนมอง ผู้หญิงหลายคนจึงต้องเข้มงวดกับตัวเองอยู่เสมอในเรื่องการดูแลตัวเอง นอกจากรูปร่างที่สมส่วน ฟิตแอนด์เฟิร์ม ใบหน้าก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่ต้องให้ความพิถีพิถันในการบำรุงให้ดูขาว กระจ่างใสเช่นกัน เพราะเป็นเหมือน First Impression แรกที่สามารถดึงดูดและสะกดผู้คนรอบข้างได้เหนือสิ่งอื่นใด
แต่ทว่าการบำรุงผิวหน้านั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน เพราะผิวของแต่ละคนมีความแตกต่างเฉพาะตัว โดยเฉพาะเรื่องสภาพผิว สาวๆ จึงต้องให้ความสำคัญกับการเลือกครีมเป็นพิเศษ ซึ่งครีมแต่ละตัวก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เช่น คนที่เป็นสิวก็จะเลือกครีมรักษาสิว คนที่มีผิวหน้าแห้งก็จะเลือกครีมเพิ่มความชุ่มชื้น ส่วนคนที่หน้าหมองคล้ำก็มักจะเทใจให้ครีมหน้าใส เพิ่มความกระจ่างฉ่ำวาวให้ผิว
นอกเหนือจากนี้ ยังมีเรื่องของลำดับการใช้งานด้วย ต้องทาตัวนี้ก่อน แล้วจึงจะตามด้วยตัวนั้น แบบนี้คงไม่ต้องแปลกใจแล้วว่า นอกจากพร็อพตระกูลเมคอัพที่มีเยอะจนแทบจะล้นหน้ากระจกแล้ว บรรดาสกินแคร์ก็เยอะไม่แพ้กันอีกด้วย และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมผู้หญิงเราจึงหมดเวลาไปกับการสิงอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนออกจากบ้าน!
แต่ก่อนจะตามหาครีมหน้าใสคุณภาพแน่นให้ได้อย่างใจ ตรงตามสเป็คที่ใช่ เราต้องทำความรู้จักกับสภาพผิวของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก เหมือนจะเป็นเรื่องเบสิคนะ แต่เชื่อขนมกินได้เลยว่าที่ผ่านมาสาวๆ หลายคนอาจละเลยเรื่องนี้จนคิดว่าไม่สำคัญ ทำให้ไม่เข้าใจสภาพผิวของตัวเองมากนัก แต่ขอให้เริ่มนับหนึ่งตั้งแต่วันนี้เลย เพราะการที่เรารู้ว่าสภาพผิวของตัวเองเป็นแบบไหนนั้นจะช่วยให้ง่ายต่อเลือกผลิตภัณฑ์ และเทคเจอร์ของเนื้อครีมที่เหมาะกับผิวตัวเองได้ แถมรู้ไปถึงกลไกการทำงานของเนื้อครีมได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วสภาพผิวของเราจะแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ตามนี้เลย
สาวผิวแห้ง > สังเกตได้ง่ายๆ ว่าหลังการทำความสะอาดจะรู้สึกว่าผิวตึงมาก และมักจะมีอาการลอก แห้งแตกเป็นลายทางแผนที่ หรือเป็นขุย แถมยังเกิดริ้วรอยได้ง่ายร่วมด้วย เนื้อครีมที่เหมาะกับสาวผิวแห้งนั้นควรจะมีความเข้มข้น ให้ความชุ่มชื่น และกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี
สาวผิวมัน > จะพบว่าระหว่างวันหรือหลังทำความสะอาดได้สักพัก ใบหน้าจะดูมันเยิ้มเหมือนมีอะไรมาเคลือบผิวอยู่ตลอดเวลา และแน่นอนสาวผิวมันมักจะมีปัญหาสิวอักเสบเรื้อรังแบบไม่หายขาด ดังนั้น เนื้อครีมที่เหมาะกับสาวผิวมันควรจะอยู่ในรูปแบบบางเบา เนื้อเจล หรือปราศจากน้ำมัน
สาวผิวผสม > บริเวณทีโซนจะมีความมันมากและช่วงหน้าแก้มจะแห้ง ครีมที่เหมาะกับสาวผิวผสมนั้นอาจจะต้องใช้การคอลาบอเรททั้งครีมที่เพิ่มความชุ่มชื้นในส่วนของสาวผิวแห้ง และเนื้อครีมที่บางเบาในส่วนที่มีความมันมากของสาวผิวมัน
สาวผิวแพ้ง่าย > เป็นการต่อยอดมาจากการเป็นสาวผิวแห้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ เป็นสาวที่โชคไม่ดีเอาซะเลย เพราะการมีผิวที่แห้งจนเกินไป เมื่อใช้ครีมบางตัวที่มีความเข้มข้นมากๆ จะเกิดการระคายเคืองได้ง่าย แต่อย่าเพิ่งถอดใจไป เพราะเนื้อครีมที่เหมาะกับสาวผิวแพ้ง่ายควรเน้นไปที่เนื้อครีมให้ความชุ่มชื้น ปราศจากน้ำหอมและแอลกอฮอล์จะดีที่สุด
ครีม (หน้าใส) แบบไหนที่ดี มีแล้วโดนใจ ใครเห็นก็ปลื้ม
1.ส่วนผสม
หลังจากเลือกเนื้อครีมที่แมทซ์กับสภาพผิวของตัวเองแล้ว อันดับถัดมาของการเลือกครีมหน้าใสหรือครีมอื่นๆ นั้นคือส่วนผสมในตัวครีม กฎข้อแรกคือต้องปลอดภัย ไม่มีสารเคมีชนิดรุนแรง ซึ่งอาจสะสมหรือตกค้างจนเป็นอันตรายต่อผิวในอนาคต เช่น สารจำพวกปรอท หรือสเตรียรอยด์ แต่หากถ้าเป็นสารสกัดจากธรรมชาติจะดีต่อคนที่มีผิวระคายเคืองง่ายจากสารเคมีด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูให้แน่ใจว่ามีส่วนผสมที่คุณแพ้ด้วยหรือไม่ เมื่อมีส่วนผสมที่ดี สรรพคุณตรงใจ ผลที่ให้ตามมาคือประสิทธิภาพของเนื้อครีมที่ดีต่อผิว
2.เครื่องหมายการันตี
ไม่ใช่แค่ครีมหน้าใสเท่านั้น แต่ครีมทุกตัวที่คุณพร้อมเปิดทางให้เข้ามาอยู่บนผิวหน้าได้ ต้องมีเครื่องหมายรับรองการจดขึ้นทะเบียนของตัวครีมนั้น หรือเรียกง่ายๆ ว่ามันคือเครื่องหมาย อย. นั่นเอง ถ้าเช็คแล้วว่าชัวร์ก็ช่วยยกระดับความสบายใจในการใช้ครีมแบรนด์นั้นๆ มากยิ่งขึ้น เพราะเปรียบเหมือนการปลดล็อคได้ในทันทีว่าครีมตัวนี้ปลอดภัยจากสารเคมีที่เป็นอันตราย
3.ต้นกำเนิด
เรากำลังพูดถึงสถานที่หรือโรงงานที่ผลิต สาวๆ หลายคนอาจจะไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้มากนัก เพราะส่วนมากจะพุ่งตรงไปที่สรรพคุณและการรองรับเสียมากกว่า และมีสาวๆ อีกไม่น้อยที่ใช้ตามเพื่อนโดยไม่ได้รีเช็คอะไรเลย แต่รู้หรือไม่ว่า ถ้าเรารู้แหล่งผลิตหรือรู้จักโรงงานที่เป็นฐานผลิตของครีมที่เราจะเลือกใช้นั้น จะช่วยเพิ่มความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยได้มากขึ้นไปอีก เพราะเราสามารถเช็คมาตรฐานโรงงานที่ผลิตว่าได้รับการรับรอง หรือผ่านการตรวจสอบว่าได้มาตรฐานหรือไม่
4.ผ่านการทดสอบการแพ้
สาวๆ คนไหนเป็นเจ้าของผิวแพ้ง่าย ระคายเคืองบ่อยต้องให้ความสำคัญกับข้อนี้เป็นพิเศษ เพราะบ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือได้ดีทีเดียว ถ้าเช็คแล้วว่าตัวครีมหน้าใสที่คุณเลือกมีสถาบันด้านผิวหนังรับรอง หรือผ่านการทดสอบการแพ้มาแล้ว คุณจะยิ้มแก้มปริแน่นอน มั่นใจไปได้อีกขั้นว่าส่วนผสมที่มีอยู่ในครีมปลอดภัย และไม่ทำให้ระคายเคืองผิว แต่อย่าลืมเช็คดูให้ดีว่าไม่มีส่วนผสมของตัวที่คุณแพ้อยู่ด้วย
5.รูปโฉม
โปรดักส์หรืออิมเมจภายนอกที่บรรจุเนื้อครีมก็เป็นอีกส่วนที่สำคัญไม่แพ้กัน ให้สังเกตว่าบนตัวโปรดักส์มีการบอกรายละเอียดเกี่ยวกับส่วนผสมของตัวครีมชัดเจน ลักษณะการบรรจุมิดชิด เช่นนี้คุณจะเชื่อมั่นในประสิทธิภาพตัวครีมว่ายังคงสภาพดี ไร้สารเคมีเจือปน ปลอดภัยหายห่วง
ได้รู้กฎของการเลือกครีมที่ใช่ แถมแมทซ์กับสภาพผิวของคุณแล้ว อย่าลืมบอกต่อเพื่อนสาวด้วยนะ จะได้ปลื้มผิวตัวเองไปด้วยกันแบบแพ็คคู่
