ผิวชุ่มชื้น ฉ่ำน้ำ สุขภาพดี ใครก็อยากเป็นเจ้าของ เพราะไม่เพียงน่ามอง น่าสัมผัส ยังช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้สาวๆ น่าหลงใหล สะกดใจหนุ่มๆ จนต้องหยุดเหลียวมอง
สาวๆ คนไหนเคยเจอปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้น หยาบกร้าน คงเหนื่อยใจไม่น้อย ลองมาแล้วสารพัดวิธีแต่ก็ไร้ผลลัพธ์แบบจับต้องได้ อย่าเพิ่งท้อเด็ดขาด ท่องไว้เลยว่าปัญหามีไว้ให้แก้ ถ้าไม่อยากปล่อยให้ผิวแย่ไปกว่าเดิมล่ะก็ ทางเลือกที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งที่การันตีมาแล้วว่าสามารถเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวได้ก็คือ การใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ ตัวเลือกนัมเบอร์วันที่จะช่วยล็อกความชุ่มชื้นให้อยู่กับผิวไปนานๆ เพื่อเผยผิวชุ่มชื้น สวย สุขภาพดี แบบที่เขาเรียกว่า… ผิวฉ่ำน้ำ ยังไงล่ะ
ว่าแต่
มอยเจอร์ไรเซอร์ ที่เรากำลังพูดถึงนั้นคืออะไร ได้ยินกันมานานนมว่าช่วยให้ผิวชุ่มชื้นบ้าง แก้ผิวแห้งบ้าง ช่วยให้หน้าใส ผิวสวย ออร่ามาเต็ม ใครไม่ทาถือว่าผิด นอกจากที่ว่ามายังช่วยให้ผิวของเราดูดีขึ้นได้ยังไงบ้าง มาทำความรู้จักกันหน่อยดีกว่า
มอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) คือ ผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้น เป็นสารที่ใช้ทาผิวหนังภายนอกเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ซึ่งส่วนมากจะอยู่ในรูปของเจล ครีม โลชั่น หรือขี้ผึ้ง ก็มีให้เห็นอยู่บ้าง หน้าที่หลักที่สาวๆ ส่วนใหญ่มักเข้าใจต่อๆ กันมาคือมีสรรพคุณในการมอบความชุ่มชื้นให้ผิวโดยตรง แต่ในความเป็นจริงแล้ว หน้าที่หลักและกลไกการทำ
งานคือ การเคลือบผิวเพื่อลดการสูญเสียน้ำ ซึ่งมีส่วนประกอบสำคัญดังนี้
Occlusives > สารที่มีคุณสมบัติในการช่วยไม่ให้น้ำซึมผ่านชั้นผิว หน้าตาเหมือนเป็นฟิล์มบางๆ ที่เคลือบอยู่บนผิว ป้องกันไม่ให้น้ำระเหยออก คอยเก็บน้ำไว้ให้อยู่ในผิว คล้ายเกราะกำบังอ่อนๆ ที่ช่วยปกป้องผิวให้ปลอดภัย ไม่ระคายเคืองอีกด้วย
Humectants > สารที่ช่วยในการเก็บกักน้ำและจับน้ำไว้ไม่ให้ระเหยออกไปจากผิว โดยเจ้าตัวนี้จะดึงน้ำที่อยู่ในชั้นหนังแท้ขึ้นมา และยังสามารถดึงน้ำจากความชื้นที่มีในอากาศมาเก็บกักไว้ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นอยู่ตลอด
Emollients > สารปรับสภาพให้ผิวเนียนเรียบ ผิวนุ่ม โดยสารที่ว่านี้จะลงไปเติมช่องว่างระหว่างเซลล์ ทำให้ผิวเติมเต็มและดูเรียบเนียนขึ้นนั่นเอง
สารประกอบอื่นๆ > นอกจาก 3 ตระกูลดังด้านบน ยังมีสารประกอบอื่นๆ ที่เป็นลูกผสมเพิ่มมาในครีมบำรุง ซึ่งอยู่ในปริมาณที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละสูตรของบริษัทผู้ผลิต เพื่อให้ครีมมีคุณสมบัติอื่นที่ดีเพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากการให้ความชุ่มชื้นเพียงอย่างเดียว เช่น สารกันแดด สารที่ช่วยให้ผิวขาวขึ้น สารช่วยลดเลือนริ้วรอย ฯลฯ
แต่การที่ครีมบำรุงเหล่านี้จะถูกดูดซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ดีนั้น นอกจากสภาพผิวของคุณเองแล้วก็เป็นเรื่องปัจจัยทั้งในตัวครีมบำรุงและปัจจัยอื่นด้วยนะ
มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ดี…ทั้งต่อหน้า และดีต่อใจสาวๆ ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร?
1.เติมเต็มและล็อก
ในตัวครีมควรมีสารเติมเต็มผิว เพราะสารตัวนี้จะช่วยเติมเต็มและกักเก็บความชุ่มชื้นให้อยู่กับผิวได้นานขึ้น ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ยับยั้งไม่ให้เซลล์ผิวผลิตน้ำมันออกมามากจนเกินไป เป็นเหตุให้หน้าเมือกอีกด้วย
2.ธรรมชาติให้ความชุ่มชื้น
นอกเหนือจากความชุ่มชื้นที่มาจากตัวครีมก็ถือว่าดีแล้ว แต่อะไรที่มาจากธรรมชาติก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่ามันก็ดีกว่าใช่ไหมล่ะ เช่น น้ำมันสกัดที่ได้จากพืช ทำให้ไม่ต้องพึ่งน้ำหอมที่ทำให้เกิดการระคายเคืองเพิ่ม เช่น shea butter, cocoa butter,coconut oil, evening primrose oil และ sunflower oil ถ้ามีส่วนผสมตามนี้แล้ว ผิวยังแห้ง ไม่ชุ่มชื้นก็ให้มันรู้ไป
3.Antioxidants
หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของสารต้านอนุมูลอิสระ ไม่ว่าอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพและความสวยความงาม ถ้ามีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระรับรองว่าชนะเลิศ เพราะอนุมูลอิสระคือโมเลกุลที่เป็นตัวต้นเหตุทำให้เซลล์ผิวถูกทำลาย ส่งผลเสียมากมายไม่ว่าจะเป็นการกักเก็บความชุ่มชื้นได้น้อยลง ผิวแห้งเสีย หมองคล้ำ ฯลฯ เพราะฉะนั้น เพื่อการฟื้นฟูให้ผิวกลับมาชุ่มชื้นสุขภาพดี สาวๆ ควรมองหาผลิตภัณฑ์หรือครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระเยอะๆ และจะดีแบบอัพเลเวลขึ้นไปอีกถ้าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สกัดจากธรรมชาติ เช่น ชาเขียว คาโมมายล์ ทับทิม หรือส้ม จะยิ่งเป็นตัวเร่งให้ทุกสภาพผิวสดชื่นและดูมีสุขภาพดี จนรู้สึกได้เลยหลังทา
4.เสริมเกราะป้องกัน
ใครก็รู้ว่าศัตรูตัวร้ายของผิวสวยๆ คือแสงแดดและรังสียูวี ดังนั้น ครีมบำรุงที่ดีนอกจากช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เนียนนุ่มแล้ว จำเป็นต้องมีส่วนผสมของครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 เป็นอย่างน้อย เพราะไม่เพียงผิวจะได้รับการบำรุงดูแลแล้วยังได้รับการปกป้องไปพร้อมๆ กัน
5.ซึมเร็ว สัมผัสไม่สะดุด
ใครว่าครีมบำรุงที่ดีต้องมีเนื้อครีมเข้มข้น เหนียวหนึบ โปรดลืมเรื่องนี้ไปได้เลย เราอยากให้สาวๆ ลองทำความเข้าใจเสียใหม่ เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อการตลาดของบรรดาครีมหลายร้อยแบรนด์ที่อ้างถึงสรรพคุณว่า เนื้อครีมต้องเข้มข้นเหนียวหนึบถึงจะบำรุงได้ลึกถึงชั้นผิวด้านใน หากแต่ครีมบำรุงที่ดีมีคุณภาพนั้น นอกจากอุดมไปด้วยส่วนผสมต่างๆ ตามที่เราบอกไป เหนือสิ่งอื่นใดจำไว้ให้ขึ้นใจเลยว่า ไม่จำเป็นต้องมีเนื้อครีมเข้มข้นจนเหนียวหนึบ แต่ควรมีเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม บางเบาและซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ยิ่งถ้าใช้กับผิวหน้าที่แสนบอบบางด้วยแล้ว หลังทาไม่ควรฝากรอยให้ปวดใจโดยการทิ้งคราบเป็นปื้นๆ ไว้ให้ดูต่างหน้าเด็ดขาด
6.รูปสวยจูบหอม
เนื้อครีมชนะเลิศแล้ว ต้องมาดูกันที่แพ็คเก็จจิ้งเป็นอันดับสุดท้าย เพราะถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้กันซึ่งสามารถบอกถึงคุณภาพของครีมบำรุงที่บรรจุอยู่ภายในได้ดีทีเดียว แพ็คเก็จภายนอกที่สวยงาม ดูดี แค่นี้ยังไม่พอ ต้องสามารถหยิบใช้สะดวกและมิดชิด เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เนื้อครีมคงประสิทธิภาพได้ดีโดยไม่มีสารอื่นๆ เจือปน หรือแบคทีเรียลงไปผสม ทำให้เกิดปัญหาผิวอื่นๆ ตามมา
เพราะอากาศยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ไม่แปลกที่ผิวของเราจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่มาพร้อมปัญหาได้ตลอดเวลาเช่นกัน แต่เชื่อเหลือเกินว่าหลังจากที่สาวๆ ได้อัพเดทข้อมูลแน่นๆ ที่เราคัดมาฝากวันนี้ จะกลายเป็นแรงผลักดันให้ลองเปิดใจปรับเปลี่ยนบรรดาสกินแคร์ทั้งหลายให้เหมาะกับสภาพผิวของเรา เริ่มจากพยายามตัดใจโละตัวที่ไม่ใช่ออกจากชีวิตอย่างเร่งด่วน แล้วมองหาตัวที่ใช่เพื่อการบำรุงที่ตรงจุด ถูกวิธีและมีคุณภาพ เท่านี้ผิวของเราก็จะมีสุขภาพดี แข็งแรง พร้อมต่อสู้กับปัญหาที่จะเข้ามารบกวนได้แบบไร้กังวล