
ปัจจุบัน วงการความงามและผิวพรรณ จับเอาวิตามินจากธรรมชาติซึ่งมีคุณสมบัติในการดูแล บำรุงผิว พร้อมทั้งปกป้องและฟื้นฟูมาสกัดและใส่เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ความงามหลายประเภท ทั้งสกินแคร์บำรุงผิว ไปจนถึงเมคอัพเสริมความงาม โดยเฉพาะวิตามินอี ที่นอกจากจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นอันเป็นคุณสมบัติพื้นฐานแล้วยังมีคุณสมบัติพิเศษในการปกป้องผิวจากแสงแดดและช่วยป้องกันอันตรายที่เกิดต่อผิวจากรังสีอุลตร้าไวโอเลตอีกด้วย
สถาบันโรคผิวหนังหลายแห่งต่างมีผลการวิจัยยืนยันว่าวิตามินอีช่วยป้องกันผิวจากการไหม้เกรียมจากแสงแดด ริ้วรอยเหี่ยวย่น และรอยแผลได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการรับประทาน หรือ การนำวิตามินอีมาทาที่ผิวโดยตรง ทั้งนี้ หากบนผิวหนังเกิดการอักเสบ เกิดแผล หรือแม้แต่ ถูกแสงแดดเผาไหม้ เป็นผลทำให้เกิดการสะสมของอนุมูลอิสระ วิตามินอีจึงทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำดูดซับสารอนุมูลอิสระก่อนที่ผ่านไปทำร้าย ทำลายเนื้อเยื่อต่างๆ ดังนั้น วิตามินอีจึงช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของผนังเซลล์ ช่วยเซลล์ผิวให้แข็งแรงขึ้น ช่วยให้ทนต่อรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ในแสงแดดได้ดีขึ้น จึงทำให้ผู้ผลิตเครื่องสำอางนิยมนำประโยชน์ และสรรพคุณของวิตามินอีมาใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์

ประโยชน์ของการทาครีมที่มีส่วนผสมของ วิตามินE ในการป้องกันและรักษาผิวพรรณ
1. ช่วยลดอัตราการทำลายของแสงแดด ที่ทำให้เกิดรอยแดง
2. ลดอัตราการเกิดมะเร็งผิวหนังจากแสงแดด
3. ช่วยชลอความชราภาพของผิว ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น แตกลาย
4. การให้ความชุ่มชื้นและ ลดความหยาบกร้านของผิวพรรณ


ด้วยสารพัดประโยชน์ของวิตามินอีที่จะช่วยป้องกันผิวจากแสงแดดและบำรุงผิวไปในขณะเดียวกัน สกินแคร์ และเครื่องสำอางชั้นนำต่างๆ จึงจับวิตามินอีมาเป็นส่วนผสมสำคัญเพื่อให้ผิวหน้าของสาวๆเนียนใส ป้องกันการทำร้ายผิวจากแสงแดด และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นนุ่มนวลให้ผิวพรรณอีกด้วย