หากมีสิ่งหนึ่งที่หมู่มวลมนุษยชาติทั่วโลกทำกันมานับตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ สิ่งนั้นก็คือการยืนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วก็ดูความงดงามของดวงดาวครับ การเคลื่อนไหวของดวงดาวนับแสน นับล้านดวง มนุษย์เฝ้ามองดวงดาวเหล่านั้นด้วยความสงสัย แต่ก็เกิดความรู้สึกมหัศจรรย์ใจในความงดงามของธรรมชาติในคราวเดียวกัน จนเกิดเป็นการค้นคว้าทางดาราศาสตร์ต่างๆ มากมายนับตั้งแต่อดีตไปจนถึงปัจจุบัน แต่วันนี้เราจะไม่ได้มาพูดถึงเรื่องดาราศาสตร์ครับ แต่เราจะพูดถึงการดูดาวเพื่อความงามล้วนๆ เพราะนับตั้งแต่มีการสำรวจมาทั่วโลกนั้น แต่ละที่มีความสวยงามในการดูดาวแตกต่างกัน เราจึงขอรวบรวมเอา 5 สถานที่ในโลกสำหรับการดูดาวมาฝากกัน สำหรับเพื่อนๆ ที่เป็นคนที่ชอบดูดาวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เตรียมเที่ยวบินเพื่อบิน ลัดฟ้าไปดูดาวในสถานที่เหล่านี้กันสักครั้งในชีวิตกันเถอะ
1. Aoraki Mackenzie - New Zealand
เริ่มกันที่เกาะใต้ ของประเทศนิวซีแลนด์กันเลยครับ ที่นี่นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติอันสวยงามและบริสุทธิ์แล้ว ยังขึ้นชื่อเรื่องการเป็นจุดดูดาวที่สวยงามมากๆ แห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย จนได้รับการรับรองจาก IDA หรือ International Dark-Sky Association ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรในการปกป้องท้องฟ้าจากแสงรบกวนภายนอก เพื่อให้สถานที่หนึ่งๆ ยังเหมาะกับการเป็นที่ดูดาวอยู่เสมอ ซึ่งที่เกาะใต้แห่งนี้บริเวณ Aoraki Mackenzie, อุทยานแห่งชาติภูเขาคุก ได้รับการปกป้องมาตั้งแต่ช่วงปี 1980s เพื่อลดปริมาณมลพิษทางแสงจากชุมชนเมือง ปกป้องสัตว์ป่า โปรโมทเพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อการดูดาวโดยเฉพาะ รวมไปถึงการปกป้องชนเผ่าเมารี ซึ่งเป็นชนเผ่าดั้งเดิมของที่นี่อีกด้วยครับ โดยการขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานแห่งชาตินั้นทำให้ที่นี่ได้รับการคุ้มครองเป็นพิเศษเพื่อปกป้องจุดดูดาวแห่งนี้ให้สวยงามคงอยู่เพื่อคนรุ่นต่อไป และนอกจากนี้ ภายในอุทยาน The Hillary Deckแห่งนี้ ยังมีกล้องโทรทรรน์ไว้บริการกับนักดูดาวที่มาเยือน หากต้องการดูดาวแบบใกล้ชิดกว่าเดิม เรียกได้ว่า ที่นี่คือสวรรค์ของนักดูดาวเลยก็ว่าได้ครับ
2. Natural Bridges National Monument, United States
ลัดฟ้าไปไกลกันถึงสหรัฐอเมริกากันสักนิด แต่รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอนครับสำหรับคนชอบดูดาว ที่นี่คือ Natural Bridges National Monument มลรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา ย้อนไปในปี 2007 ที่นี่คือสถานที่แห่งแรกที่ได้รับการรับรองจาก IDA ว่าเป็นจุดที่ท้องฟ้ามืด โปร่ง เหมาะสมกับการดูดาวในยามค่ำคืนครับ ชื่อเสียงของสถานที่แห่งนี้ ก็ตามชื่อเลยครับคือ “Natural Bridge” คือการที่หินก่อตัวขึ้นคล้ายรูปสะพานตามธรรมชาติครับ ที่นี่มีทั้งหมด 3 สะพาน เมื่อรวมกับท้องฟ้ามืดที่เต็มไปด้วยดวงดาวแล้ว ก็ทำให้สถานที่แห่งนี้สร้างความประทับใจให้กับนักดูดาวทั่วโลกจนขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในจุดดูดาวที่สวยที่สุดในโลกไปโดยปริยาย และในแต่ละปีก็มีคนมาท่องเที่ยวถึงกว่า 95,000 คนเลยล่ะครับ นอกจากนี้ เขายังว่ากันว่าที่นี่คุณจะสามารถมองเห็นทางช้างเผือกได้ชัดมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย เอาเป็นว่าหากคุณกำลังมองหาที่ดูดาวสวยๆ ก็ลองจองตั๋วเครื่องบิน บินลัดฟ้าไปที่อเมริกาได้เลยครับ!
3. Jasper National Park, Canada
ไม่ใกล้ไม่ไกลจากจุดดูดาวในข้อที่ 2 มากนัก เรามาต่อกันที่ประเทศแคนาดากันเลยครับ กับอุทยานแห่งชาติแจสเปอร์ ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาร็อกกี้ และเป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศแคนาดาครับ อุทยานแห่งชาติแจสเปอร์ นอกจากจะเป็นอุทยานที่ได้รับการจดทะเบียนขึ้นเป็นมรดกโลกจาก UNESCO แล้ว ยังได้รับการจดทะเบียนเป็นอุทยานแห่งชาติเพื่อการดูดาวจากทางการของแคนาดา ซึ่งมีกฎระเบียบคุ้มครองชัดเจนอีกด้วย ซึ่งกฎระเบียบเหล่านั้นมีขึ้นเพื่อปกป้องสัตว์ป่าที่อ่อนไหวต่อมลพิษทางแสง และเพื่อรักษาสภาพของอุทยานแห่งชาติแจสเปอร์แห่งนี้ให้เหมาะกับการดูดาวสืบไปครับ ซึ่งหากเพื่อนๆ สนใจนั้น ในช่วงเดือนตุลาคมของทุกปีที่นี่จะมีการจัดเทศกาลดูดาวทั้งกลางวันและกลางคืน โดยในช่วงกลางวันจะเป็นการดูศึกษาพระอาทิตย์ และกลางคืนจะเน้นที่การศึกษาดูดาวอันระยิบระยับเต็มท้องฟ้า พร้อมกิจกรรมสนุกๆ ไว้เพื่อคนชอบดูดาวโดยเฉพาะอีกมากมายเลยล่ะครับ
4. Kerry Dark Sky Reserve, Ireland
ข้ามฝั่งมาที่ยุโรปกันบ้างครับ ฝั่งนี้ก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน มาดูกันที่ไอร์แลนด์ครับ กับอุทยานแห่งชาติ Kerry Dark Sky ดูจากชื่อเพื่อนๆ ก็น่าจะพอเดาออกนะครับว่าที่นี่ท้องฟ้ามืด เหมาะที่สุดกับการดูดาวครับ แต่ไม่ใช่แค่ท้องฟ้าเท่านั้นนะครับที่สวย แต่วิวทิวทัศน์โดยรอบยังขึ้นชื่อว่าสวยงามราวกับภาพวาด เพราะอุทยานแห่งชาติที่มีความกว้างมากกว่า 700 ตารางกิโลเมตรแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางระหว่างเทือกเขา Kerry และมหาสมุทรแอตแลนติกครับ ทำให้ภูมิประเทศของที่นี่นั้น มีทั้งน้ำ มีทั้งภูเขา ทำให้นักดูดาวทั่วโลกต่างยกนิ้วให้ที่นี่เป็นหนึ่งในที่ดูดาวที่สวยจริงๆ จนได้รับการรับรองเป็นสถานที่ดูดาวอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2014 นี่เองครับ หากเพื่อนๆ มีโอกาสได้ไปเที่ยวไอร์แลนด์แล้วล่ะก็ ลองหาโอกาสไปดูท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวนับหมื่นๆ ดวงที่นี่นะครับ
5. Kruger National Park, South Africa
ปิดท้ายกันที่ทวีปแอฟริกาครับ ลงมาที่ประเทศแอฟริกาใต้ สถานที่แห่งนี้มีชื่อเสียงมานานแล้วว่าเป็นที่เดินเขา เดินป่าที่มีเส้นทางให้เลือกมากกว่า 9 เส้นทางครับ และมีจุดให้ตั้งแคมป์สัมผัสธรรมชาติที่ยังไม่ถูกปรุงแต่งและรบกวนจากมนุษย์อย่างใกล้ชิดหลายจุดอีกด้วย แต่นี่ไม่ใช่เสน่ห์เพียงอย่างเดียวของอุทยานแห่งชาติแห่งนี้ครับ เพราะด้วยความที่ที่นี่อยู่ห่างไกลความเจริญและชุมชนเมือง ทำให้ที่นี่อยู่ห่างจากมลพิษทางแสงซึ่งจะทำให้ท้องฟ้าที่นี่มืดสนิท เหมาะสมกับการดูดาวครับ ทำให้มีนักดูดาวจำนวนไม่น้อยเดินทางมาตั้งแคมป์ สัมผัสประสบการณ์อันล้ำค่าไม่น้อยเลยในแต่ละปี และถ้าคุณโชคดี บางคนเคยได้เห็นวงแหวนของดาวเสาร์จากที่แห่งนี้เลยทีเดียวครับ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบการดูดาวไม่มากก็น้อยนะครับ และหากเพื่อนๆ กำลังวางแผนทริปดูดาวครั้งหน้า อ็กซ์พีเดีย (Expedia) สามารถช่วยเพื่อนๆ ในเรื่องตั๋วเครื่องบินและที่พัก เพราะที่เว็บนี้มีทุกสายการบินชั้นนำและโรงแรมอีกมากมาย ทำให้เราสามารถเปรียบเทียบราคาง่ายต่อการควบคุมค่าใช้จ่ายได้นะครับ