แม้ว่าตามสูติบัตรแหล่งผลิตของฮอนด้าจะระบุว่ารถยนต์รุ่น
Honda BR-V ถูกผลิตให้มาเป็นรถยนต์ในกลุ่มครอสโอเวอร์
(Cross over) หรือนัยหนึ่งคือรถยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นจากบน
car platform ที่รวมเอาคุณสมบัติของรถ SUV (Sport Utility
Vehicle) และ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล (passenger vehicle)
โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถ station wagon หรือ hatchback
เข้ามาไว้ด้วยกัน เช่น เบาะที่นั่งสูงสร้างทัศนวิสัยที่ดีใน
การมองเห็น ,ภายในห้องโดยสารสูงโปร่ง,ใช้ระบบขับ
เคลื่อน 4 ล้อ,พื้นใต้ท้องสูงจากถนนมากกว่าปกติ ทำให้
เกิดทางเลือกมากมายสำหรับคนที่ต้องการรถครอบครัว
ที่มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่ารถเก๋งขนาดเล็ก
แต่ด้วยรูปลักษณ์ที่ได้รับการออกแบบมาที่ใกล้เคียงกับ
กลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ หรือ MPV (Multi-Purpose
Vehicle) มากกว่าความแข็งแกร่งในแบบสไตล์ครอส
โอเวอร์ ทำให้เมื่อเข้าสู่ตลาดแล้วผู้บริโภคอดที่จะนำไป
เปรียบเทียบกับรถยนต์กลุ่ม MPV ไม่ได้ ยิ่งระดับราคาที่
ตั้งมามีราคาค่าตัวที่สูงกว่าไม่มาก ทำให้ถูกจับมา
เปรียบเทียบในขณะตัดสินใจซื้อรถยนต์ใหม่อย่างหลีก
เลี่ยงไม่ได้
Honda BR-V เป็นผลผลิตจาก Honda R&D Asia Pacific
หรือ HRAP ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย ฮอนด้าวางยุทธศาสตร์
เพื่อที่จะตอบสนองผู้บริโภคทั่วโลก จึงเน้นสร้างความแข็ง
แกร่งต่อการออกพัฒนาและวิจัยรถในแต่ละภูมิภาค บน
พื้นฐานของการพัฒนารถเพื่อรองรับตลาดในภูมิภาคนั้นๆ
ดังนั้น Honda BR-V จึงเป็นโมเดลที่ 3 ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นจาก
HRAP แห่งนี้
ในทางวิศวกรรมฮอนด้าได้ผลิต BR-V ภายใต้นิยาม Tough
และ Solid โดยใช้พื้นฐานมาจาก Honda Mobilio ซึ่งเป็น
รถยนต์ในกลุ่ม MPV ด้วยการขยายฐานล้อให้ยาวขึ้น โดยทำ
การออกแบบรูปลักษณ์หน้าตา และรูปแบบของรถให้มีความ
แตกต่างตามประเภทรถ ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร
มีจุดเด่นอยู่ตรงที่ออกแบบมาให้ช่วงล่างยกสูงถึง 200
มิลลิเมตร เพื่อรองรับความต้องการของคนเมืองรุ่นใหม่ที่
หันมานิยมใช้รถ SUV มากขึ้น
ความสูงที่เพิ่มขึ้นช่วยยกระดับในเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก
และความปลอดภัย รวมถึงวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยมเวลาขับขี่
แต่ Honda BR-V ก็ยังมาพร้อมกับช่วงล่างที่ดีเยี่ยมทำให้
สมรรถนะการขับขี่นุ่มนวลให้ความรู้สึกเหมือนขับรถเก๋ง
แต่ก็ยังรู้สึกสบายกว่าเมื่อเทียบกับรถกระบะ
รูปลักษณ์ภายนอกของ Honda BR-V ได้รับการออกแบบ
ภายใต้แนวคิด Active Solid Motion ที่สะท้อนความแข็งแกร่ง
ทรงพลัง ในสไตล์รถ SUV ยกสูง ด้านหน้ายังคงเอกลักษณ์
Solid Wing Face ตามสไตล์ Honda ที่ให้ความรู้สึกโฉบเฉี่ยว
ทันสมัย
การออกแบบภายในของ Honda BR-V มาในคอนเซปต์
Premium & Active เพื่อให้รู้สึกถึงความหรูหราและแข็งแกร่ง
ในแบบรถ SUV ด้วยการใช้โทนห้องโดยสารสีดำ ที่สำคัญคือ
ความกว้างขวางของพื้นที่ภายในเพื่อความสะดวกสบายใน
การเดินทาง ซึ่งจะมีทั้งเบาะนั่งแบบ 2 และ 3 แถว ที่ปรับพับ
ได้หลากหลาย และให้พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายพร้อมตอบ
โจทย์การใช้งานได้ในทุกรูปแบบ
Honda BR-V จึงถูกวิศวกรนำมาผสมผสานความสะดวก
สบาย ความแข็งแกร่ง ในยามขับขี่ และความอเนกประสงค์
ทั้งบรรทุกคนและสัมภาระ (Cross over + MPV) เข้ามารวม
ไว้ในคันเดียวกัน
ในช่วงการเข้าสู่ตลาดนั้น ฮอนด้าประเทศไทยตั้งเป้าหมาย
ว่าจะช่วยทำให้เซ็กเมนต์รถอเนกประสงค์มีการเติบโตเพิ่ม
มากขึ้น และส่วนหนึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ตลาดนี้ขยายตัวใน
อนาคต
ในทางการตลาดฮอนด้าจึงวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ให้
Honda BR-V เป็นสปอร์ตครอสโอเวอร์ซับคอมแพ็คต์ ภาย
ใต้คอนเซปต์รถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ ขนาด 5-7 ที่นั่ง
ที่สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และการใช้งานสำหรับคน
รุ่นใหม่ที่ต้องการรถเพียง 1 คัน แต่สามารถใช้งานได้ครอบ
คลุมทุกด้าน อเนกประสงค์ สามารถใช้เดินทางกันเป็น
ครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือใช้งาน
ในเมืองก็สะดวกและคล่องตัว นอกจากนี้ยังตอบความ
ต้องการของผู้ที่ต้องการพื้นที่ด้านหลังที่บรรทุกสัมภาระได้
อย่างเต็มที่ได้เช่นกัน
Honda BR-V มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย เครื่องยนต์รองรับ E85
โดยวางราคาจำหน่ายที่ 750,000 - 820,000 บาท เพื่อให้
เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นสำหรับผู้ซื้อที่กำลังมองหารถในราคา
ระดับ Compact (C-Segment) แต่ให้ฟังก์ชันประโยชน์
ใช้สอยที่มากกว่า
หลายคนมองว่าเป็นกลยุทธ์ของฮอนด้าที่ต้องการแก้เกม
โดยยกระดับ Honda Mobilio ในคราบ Honda BR-V ให้มี
ภาพลักษณ์ใหม่ที่หรูหราและ แข็งแกร่ง ปราดเปรียวขึ้น
กว่าเดิม
Honda BR-V จึงถูกวางให้แข่งขันทั้งเซกเม้นต์ครอสโอเวอร์
และ MPV ไปโดยปริยาย
ในตลาดประเทศไทยคู่แข่งขันทางตรงของ Honda BR-V
คือ Ford EcoSport , Nissan Juk , Nissan Livina และ
Mazda CX3 ส่วนอีกด้านคู่แข่งขันทางอ้อมในเซกเม้นต์
MPV ที่ได้เปรียบด้านราคา คือ Toyota Avanza ,
Suzuki Ertiga
สนับสนุนโดย
นิตยสารแมกเก็ตติ้ง (Magketing)
สามารถดาวน์โหลดนิตยสารฉบับเต็ม...ฟรี...ได้ที่
http://www.ebooks.in.th/ebook/40468/magketing_vol15/