
ต่อมน้ำเหลือง คือ เนื้อเยื่อขนาดเล็กซึ่งเราไม่สามารถมองเห็นหรือสัมผัสได้ กระจายอยู่ทั่วไปตามร่างกาย แต่ส่วนที่สามารถคลำแล้วพบได้ คือ บริเวณใต้รักแร้ ขาหนีบ ลำคอ เหนือไหปลาร้า ข้อพับบริเวณแขนและเข่า เป็นต้น ซึ่งต่อมเหล่านี้มีหน้าที่เกี่ยวกับการไหลเวียนของน้ำเหลืองเพื่อนำน้ำเหลืองกลับสู่หลอดเลือดดำ และยังทำ
งานร่วมกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายด้วย หากเกิดการติดเชื้อจนลุกลามก็อาจทำให้ต่อมน้ำเหลืองมีอาการอักเสบจนบวมโตขึ้น หากไม่ไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยก็อาจเป็นอันตรายได้ เพราะสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ต่อมเล็กๆ พวกนี้บวมขึ้นมาจากเซลล์มะเร็งนั่นเอง
สาเหตุของอาการบวมโต
เกิดจากการติดเชื้อของเนื้อเยื่อหรืออวัยวะบริเวณต่อมน้ำเหลืองนั้นๆ เช่น หากต่อมน้ำเหลืองที่ลำคอโต มักเกิดจากการมีแผลหรืออักเสบของอวัยวะในช่องปาก เป็นต้น นับเป็นสาเหตุหลักของอาการนี้
เกิดจากการอักเสบของต่อมน้ำเหลืองเนื่องจากร่างกายมีความผิดปกติในภูมิคุ้มกัน เช่น โรคเอดส์ โรคภูมิต้านตนเอง หรือมะเร็งทุกชนิดที่มีการแพร่เชื้อเข้าสู่ต่อมน้ำเหลือง เป็นต้น
การสังเกตและรักษาเบื้องต้น
หากสงสัยว่าตนเองหรือคนใกล้ตัวอาจเป็นโรคนี้ ให้สังเกตในเบื้องต้นได้โดยการดูแผลตามศีรษะ ใบหน้าหรือในหู รวมทั้งอาการอื่นๆ คือ อาการเจ็บคอ ฟันผุ ปวดฟัน ซึ่งอาการเหล่านี้อาจเกิดจากการลุกลามที่รุนแรงขึ้นของการอักเสบ หากพบอาการเหล่านี้การทานยาแก้อักเสบรวมถึงรักษาอาการติดเชื้อแล้วจะทำให้อาการบวมค่อยๆ หายไปเอง อาจใช้วิธีประคบร้อนวันละ 3 ครั้งตรงบริเวณต่อมน้ำเหลืองที่สามารถคลำพบก็ช่วยบรรเทาอาการได้ดี แต่ถ้าหากทำการรักษาในเบื้องต้นแล้วภาวะบวมยังไม่ทุเลาลงควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจให้ละเอียดอีกครั้งโดยการเอกซ์เรย์
ข้อควรระวัง
เนื่องจากอาการของโรคนี้นั้นมีความเกี่ยวข้องกับความเป็นไปได้ในการเกิดมะเร็งชนิดต่างๆ ซึ่งเซลล์มะเร็งหากแพร่เข้าสู่ระบบน้ำเหลืองแล้ว มันสามารถลุกลามและทำให้เกิดอาการอักเสบที่รุนแรงขึ้นได้ เพราะฉะนั้นหากพบว่าผู้ป่วยมีอาการของโรคไม่ควรปล่อยปละละเลย นอกจากการรักษาเบื้องต้นดังที่กล่าวมาแล้วควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียดเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง หากมีอาการอักเสบจากเซลล์มะเร็งจริงจะต้องทำการตัดต่อมน้ำเหลืองส่วนนั้นออกเช่นเดียวกับการตัดเนื้องอกเพื่อหยุดยั้งการแพร่กระจายของมะเร็ง ก่อนมันจะลุกลามไปยังส่วนอื่นๆของร่างกายจนคุมไม่อยู่และรักษาไม่ได้ในที่สุด
ทั้งนี้การป้องกันคือทางเลือกที่ดีที่สุด เราควรรักษาความสะอาดของช่องปากรวมถึงร่างกายส่วนอื่นอยู่เสมอ สร้างเสริมภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรงด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์และหมั่นออกกำลังกาย เพียงเท่านี้โรคร้ายต่างๆ ก็จะไม่มาทำให้คุณต้องกังวลอีกต่อไป
ที่มา... healthydeejung.com