เราเป็นคนชอบพล่าม เม้าท์เยอะ ก๋วยเตี๋ยวชามนี้น้ำอาจเยอะกว่าเส้นนะคะ แหะๆๆ
เมื่อเช้า จขกท ไม่ได้ตื่นสายนะคะ แต่รถติดมากกกก เรานั่ง ปอ.519 เพือไปยังอาคารมาลีนนท์ (ไปหาแบร์รี่) บริเวณแยกลำสาหัส จะเลี้ยวไปศรีนครินทร์ ติดไม่ขยับเขยื้อนเลยค่ะ แม้แต่นิด เราอดรนทนไม่ไหว เลยลงจากรถ กะเปลี่ยนเส้นทางไปทางรามคำแหงแทน
โอ้วว
แม่เจ้า เหมือนกันเด๊ะๆ เลยแว้นมอเตอร์ไซด์ พี่คะไปเดอะมอล์รามค่ะ (กะว่า ถึงเดอะมอลรามรถอาจไม่ติดแล้วค่อยต่อแท็กซี่ไปต่อ) พี่วินพาไปเดอะมอลบางกะปิซะงั้น ถามว่าทำไม จขกท ไม่ท้วงตอนแรก นึกว่าพี่วินจะพาไปทางลัด
ก็เลย เลยตามเลย อ่ะนั่งเรือก็ได้ เราเคยนั่งเรือคลองแสนแสบครั้งนี้ครั้งที่ 2 ค่ะ ยอมรับว่ากลัว ทั้งที่ก็ว่ายน้ำเป็นนะ ครั้งแรกที่เราขึ้น ไม่น่ากลัวเท่าครั้งนี้เลย
ครั้งนี้นะ คนเยอะมาก ตรงท่าที่เราขึ้น คนยังไม่เท่าไหร่ ที่นั่งเต็มเลย เราก็ยืน แต่พอไปป้ายที่ 2 ที่ 3 คนเริ่มแน่นขึ้น แน่นขึ้น จนคนยืนเต็มไปหมด ไม่มีที่ว่างแล้วค่ะ เราเห็นเรือที่สวนมา มีป้ายเขียนว่า บรรทุกน้ำหนักได้ 80 คน แต่ที่เราคาดคะเนโดยสายตา มันเกินมากค่ะ เรือที่เราขึ้น มันน่าจะเกิน 80 ไปมากโขแล้ว คือมันแน่น จนคนที่ยืนนี่หัวโผล่ออกออกเรือแล้วอ่ะ คนขับก็ยังจอดทุกป้ายนะ และคนลงเรือ ก็ยังลงมาอีก คือเห็นคนเยอะขนาดนี้แล้วยังกล้าลงมาอีกเน้อ.....
คนเริ่มไปอออยู่ด้านซ้าย (ตอนนั้นท่าเรือจะเป็นช่วงด้านซ้ายค่ะ) จนกระเป๋าเรือบอกให้ขยับๆๆ เราอยู่ชิดริมด้านขวาค่ะ พอขยับกันไปขยับกันมา เริ่มมาด้านขวาซะเยอะแล้วเรารู้สึกมันเอียง ยิ่งตอนเรือวิ่ง และมีเรือสวนมา มันเอียงแบบน่ากลัวมาก เราบอกให้ ขยับไปกลางๆบ้าง มันจะได้บาล๊าน ตอนนั้นเราเริ่มจินตนาการ ถ้าเรือตีโค้งนี่จะเป็นยังไง
เราเริ่มมองหาเสื้อชูชิพ มองไปบนเพดานเรือ เห็นห่วงยางค่ะ (ถึงแม้จะมีอยู่กะตัวแล้วก็เหอะ) ผูกเชือกอยู่เราเล็งไว้เลยว่า เกิดไรขึ้นตรูรีบดึงห่วงยางก่อนละวะ มองไปในน้ำ น้ำดำหอมน่าชื่นใจมาก จินตนาการขนาดว่า เราอาจไม่ตาย แต่ เราอาจสำลักน้ำดำ แล้วสมองจะตายเหมือนพี่บิ๊กหรือเปล่า เริ่มคิดว่า ถ้าเรือคว่ำ เราจะว่ายไปทางไหนดี ไม่มีทางให้ขึ้นเลย มีแต่ท่อใหญ่ๆ เห็๋นเป็นซอยๆบ้านคน เราคิดอีกว่า ถ้าเรือคว่ำ เราต้องว่ายไปทางบ้านคน อย่างน้อยต้องมีคนช่วยล่ะ
เราว่ายน้ำเป็นนะคะ แต่เรากลัว ความชุลมุน ทำให้เกิดการดิ้นรน กดกัน มันก็ตายก็ตรงนี้แหล่ะ บอกตรงๆเรากลัวมากนะ อยากลงแล้ว เราเพิ่งเคยนั่งหนที่ 2 เราไม่รู้ป้ายหน้า ท่าเรือจะอยู่ด้านซ้ายหรือขวา มันด้านซ้ายตลอดเลย เราก็แทรกผู้คนออกไปไม่ได้ อธิษฐานขอให้ป้ายหน้าท่าเรืออยู่ด้านขวา คือตอนนั้นอยากลงมาก เรากลัวจริงๆ แต่ทำไม๊ทำไม ทุกคนนังเฉย ดูมีความสุข คนยืนก็ยืนสบายๆเล่นโทรศัพท์กัน เม้าแตกกัน ดูไม่มีใครวิตกจริตอย่างเราเลย (ทำไมล่ะเรากลัวมันผิดเหรอ)
แล้วเราก็เจอป้ายท่าเรือด้านขวาสักที เราลงแบบไม่ต้องมีคนขอเลยค่ะ ลงเรือปุ๊บรู้สึกโล่งจิตโล่งใจอย่างมาก ตรูรอดแล้วเว้ยยยย และ ก็ยังมีคนลงไปอีก ทั้งที่มันแน่นมากขนาดนั้นอ่ะ
เราลงมามันเป็นทาเรือคลองตัน ดูจากป้าย อีก 2 ท่าก็ถึงท่าที่เราจะลงจริงๆ แต่เอาเหอะ เราไม่กล้านั่งต่อไปแล้ว และเราก็แว้นมอเตอร์ไซด์มาถึงที่ทำ
งานได้อย่างปลอดภัย ตอนนั่งมอเตอร์ไซด์ขาเรายังไม่สั่นเท่านั่งเรือวันนี้เลยนะ
เราอาจจะดูกลัวมากเกิน วิตกจริตเกิน เรามาเล่าให้พี่ที่ทำงานฟัง เค้าบอกว่ามันก็เอียงเป็นปกติน่ะแหล่ะ จะกลัวทำไม แต่เรากลัวนี่ มันเอียงๆน่ากลัวชะมัด แต่ดีนะที่คนขับเรือพอคนเริ่มเยอะพี่แกเลยขับช้า ยังโอเคหน่อย แต่เวลาตีโค้ง หรือเวลาเรือสวนนี่ เรากลัวมาก
ใครเคยนั่งเรือบ่อยๆ อาจจะชินแล้วไม่เข้าใจเรานะคะ ต่อไปนี้เราคงไม่นั่งแล้วล่ะ คงต้องตื่นให้เช้ากว่าเดิม
เฮ้อ ชีวิตมนุษย์เงินเดือน

จากกระทู้คุณ ตับแลบ เว็บพันทิป
http://pantip.com/topic/32496026