แม้จะเปิดตัวไปเพียงแค่ตอน-สองตอน แต่กระแสของซีรีส์วัยรุ่นสุดแซ่บ “ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น ซีซั่น 2” หรือ
Hormones 2 ก็แรงมาแต่หัววัน ซึ่งนอกเหนือจากบทบาทของตัวละคร เนื้อหาของบทในแต่ละตอน ที่ทำให้ผู้ชมต้องจับกลุ่มวิจารณ์กันหลังออนแอร์แล้วนั้น ใน Hormones 2 ก็ยังมีเรื่องของกระแสทางด้านวัตถุที่น่าสนใจให้ติดตามเช่นกัน ตราบใดที่ผู้ชมสนใจว่า ตัวละครขับรถอะไร กินข้าวร้านไหนดื่มเครื่องดื่มยี่ห้อ ใช้
มือถือแบบใด โดยเฉพาะอย่างหลังคือเรื่องของมือถือหรือสมาร์ทโฟนนี่แหละ ที่ผู้ชมให้ความสนใจไม่น้อยทีเดียว
หากใครพอจะจำได้ ในฮอร์โมนซีซั่นที่แล้ว ตัวละครทุกตัวจะมี “ไอโฟน” เป็นอุปกรณ์สื่อสารที่มีความสำคัญต่อการดำเนินเรื่องในหลายฉากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นคลิปหลุดครูอ้อ คลิปผล
งานนักเรียนที่สองพิธีกร We Are Source นำเสนอ รวมถึงการใช้โทรออก-รับสาย ในหลายๆ ฉาก จนหลายคนสงสัยว่า ไอโฟนเข้ามาสนับสนุนด้านสปอนเซอร์ให้กับ GTH หรือไม่อย่างไร จนกระทั่งผู้กำกับจากซีซั่นแรก ย้ง ทรงยศ สุขมากอนันต์ ต้องออกมาชี้แจงว่า ไม่ได้มีสมาร์ทโฟนเจ้าไหนเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ให้แต่อย่างใด เพียงแต่ว่าไอโฟนเป็นเหมือนอีกหนึ่งสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของเด็กรุ่นใหม่ที่ขาดไม่ได้นั่นเอง
แต่ในซีซั่น 2 เราอาจจะได้เห็นตัวละครหนุ่มๆ สาวๆ หยิบสมาร์ทโฟนหน้าตาแปลกไปจากเดิมมาใช้กันบ่อยขึ้น และเราคงจะได้เห็นกันไปบ้างแล้ว เมื่อสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์อย่าง
ซัมซุง Galaxy S5 เข้ามามีบทบาทแทบจะเรียกว่า “แทนที่” ไอโฟนในซีซั่นนี้ นั่นก็เพราะซัมซุงได้กระโดดเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ให้กับซีซั่นที่ 2 อย่างเป็นทางการนั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าลักษณะของการเข้ามาเป็นสปอนเซอร์แบบให้นักแสดงจับสินค้าในฉาก หรือการ tie in นั้น เริ่มมีให้เห็นบ่อยขึ้นในละครหรือซีรีส์ และในฮอร์โมน 2 นี้ เราก็จะได้เห็นเหล่านักแสดงทดสอบฟีเจอร์ล้ำๆ ใน Galaxy S5 เช่น ใช้เครื่องแตะเพื่อเข้าสู่รถไฟฟ้า BTS, โหมดประหยัดพลังงาน, ความอึดของแบตฯ ที่แอบกัดไอโฟนไปในตัว รวมถึงการถ่ายภาพ selfie ที่ซัมซุงเป็นผู้นำระดับโลกในเทรนด์นี้จากงานประกาศรงวัลออสการ์ที่ผ่านมา ก็ถูกตอกย้ำให้ Galaxy S5 ดูฟรุ้งฟริ้งน่าจับน่าใช้สำหรับคนรุ่นใหม่เข้าไปอีก
สงครามการตลาดที่เล่นกับพฤติกรรมและความปรารถนาของผู้บริโภคแบบนี้ ใครชิงจังหวะดีก็มักจะได้เปรียบเสมอ ก็ต้องมาดูกันต่อไปยาวๆ ว่า กระแสของ Hormones 2 จะแรงพอที่จะช่วยกระพือยอดขายให้ Galaxy S5 ได้หรือไม่ เมื่อลงสนามรุกไล่สาวกไอโฟนเมืองไทยกับกลุ่มเป้าหมายวัยทีนแบบนี้
บทความจาก www.asiashop.co.th
