นักคิดนักโปรแกรมเมอร์ นายเนติพงศ์ งามคม ในปัจจุบันนี้ โลกของเราเต็มไปด้วยเทคโนโลยีมากมาย ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านั้นยังมีการพัฒนาอยู่เรื่อยๆ จึงทำให้ผู้คนมีความสนใจและต้องการจะใช้เทคโนโลยีต่างๆ จึงจะต้องมีผู้ผลิตเทคโนโลยีขึ้นด้วย ในอาชีพหนึ่งคือนักโปรแกรมเป็นอาชีพที่ยังขาดบุคลากร เพราะต้องการผู้ที่มีความสามารถ จึงต้องมีการแข่งขันกันเพื่อเป้าหมาย การที่คุณจะสามารถไปสู่อาชีพโปรแกรมเมอร์ได้นั้น ควรจะปฏิบัติดังวิธีการ 5 ข้อดังต่อไปนี้ 1. สำรวจตัวเองว่ามีคุณสมบัติหรือไม่ เรามาสำรวจว่...าเรามีคุณสมบัติที่จะเป็นโปรแกรมเมอร์หรือเปล่า ก่อนอื่นต้องลองถามตัวเองดูว่า คุณต้องการเป็นนักโปรแกรมอย่างจริงจังหรือไม่ รักในการเขียนโปรแกรมหรือไม่ ต่อมาก็ลองมาดูว่าเรามีความรู้ และความทันสมัยมากแค่ไหน เพราะอาชีพนี้จะต้องใช้สิ่งเหล่านี้ เนื่องจากโลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และสุดท้ายก็คือจะต้องมีจินตนาการ โดยคิดอย่างที่คนอื่นเขาไม่คิดทำในสิ่งที่คนอื่นเขาไม่ทำ เพราะในการที่จะเขียนโปรแกรมนั้น ยิ่งเป็นโปรแกรมที่ใหม่ๆแปลกๆ โดยที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์นั้นในการออกแบบ 2. ฝึกเขียนโปรแกรม เมื่อผ่านข้อที่ 1 มาแล้วก็ต้องมาข้อนี้ คุณจะต้องฝึกฝนตัวเองให้เก่ง โดยการฝึกฝนเขียนโปรแกรม โดยภาษาที่ใช้เขียนนั้นไม่ใช่ว่าจะเริ่มต้นจากภาษาที่ง่ายๆไปหายาก แต่คุณควรจะต้องเริ่มจากภาษายากๆก่อน เพราะการฝึกฝนจากภาษาที่ยากนั้น จะทำให้รู้ว่าเรามีความพยายาม ความอดทน มากแค่ไหนและยิ่งภาษายากก็ยิ่งเข้าใกล้ภาษาเครื่องมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรที่จะทิ้งภาษาง่ายๆ เพราะมันจะช่วยให้เราเขียนโปรแกรมบางอย่างได้เร็ว และสะดวกยิ่งขึ้น 3. ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม ข้อนี้เป็นข้อที่เราขาดไม่ได้ เนื่องจากการที่จะเป็นโปรแกรมเมอร์นั้น จะต้องค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมอยู่เสมอ โปรแกรมเมอร์จะต้องเป็นคนที่ไม่หยุดนิ่ง จะต้องเพิ่มพูนความรู้ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม จึงเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่ง เพราะในโลกนี้ ไม่มีใคร เก่งที่สุด และเก่งไปหมดทุกอย่าง และอีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมของเราด้วย เนื่องจากการเขียนโปรแกรมทุกครั้ง เราจะต้องติดปัญหาเสมอ เราจึงต้องนำข้อมูลมาช่วยในการแก้ไข นอกจากนั้นเรายังสามารถรู้ความต้องการของโลกปัจจุบัน ว่าต้องการอะไร ขาดอะไร เราสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาผลิตเป็นโปรแกรมได้ด้วย 4. เผยแพร่ผลงาน เมื่อเรามีผลงานของเราออกมาแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือเผยแพร่ผลงาน ออกสู่ สาธารณชน เพื่อให้คนอื่นได้เห็นได้สัมผัสกับผลงานของเรา หากเราไม่นำผลานของเราออกเผยแพร่ แล้วเขาจะรู้ไหมว่าเราเขียนโปรแกรมเป็น มีฝีมือขนาดไหน การเผยแพร่ผลงานนี่แหละ มีประโยชน์ที่สุด เพราะการที่เรามีผลงานเผยแพร่ผลงาน จะทำให้เขารู้จักคุณ ทำให้เรามีชื่อเสียง อีกไม่นานงานและเงิน จะมาหาคุณโดยที่คุณแทบตั้งตัวไม่ติดเลยทีเดียว 5. กระทำตามข้อ 1 – 4 อย่างสม่ำเสมอ ทำไมเราต้องทำตามข้อ 1 – 4 อย่างสม่ำเสมอ ก็เพราะว่าเราจะได้ฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา เพราะการฝึกทำให้เราแกร่ง และเราก็จะได้เป็นโปรแกรมเมอร์ไง ถ้าเราขาดการฝึกฝน เราก็จะอยู่กับที่ ก้าวไม่ทันโลก แล้วก็ไม่มีโอกาส ได้ทำอาชีพนี้ ที่มา: http://www.softbizplus.com/programmer/1365-professional-programmer
เกมส์ นายณัฐพงศ์ มะลิแก้ว
เกมส์ถือเป็นสิ่งบันเทิงสิ่งหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลชนิดหนักหน่วง เกมส์ในโลกของดิจิทัลกลายสภาพเป็นสิ่งทรงเสน่ห์ที่เหล่าเยาวชนทั้งหลายใฝ่ฝันอยากจะได้สัมผัสมัน และเมื่อได้พบเจอก็เกิดอาการสุ่มหลงขึ้นอย่างชนิดถอนตัวได้ยากยิ่งสำหรับเด็กหลายๆคน ความรุนแรง สิ่งยั่วยุต่าง ๆ ภายในเกมส์ มีผลกระทบให้เด็กก่อพฤติกรรมที่ไม่น่าเชื่อขึ้นมากมาย ดังที่เราได้พบเห็นบ่อยครั้งตามหน้าหนังสือพิมพ์บ่อยครั้ง อย่างไรก็ดีคงต้องยอมรับว่า เกมบางประเภทนั้น อยู่ในข่ายที่ไม่เหมาะสมจริง ไม่ว่าจะในแง่ของโครงสร้างเกม, แนวคิดของเกมส์, วิธีการเล่น หรือ สิ่งต่าง ๆ ที่แสดงอออกมาภายในเกม ทั้งนี้ ปัจจุบันเกมในท้องตลาดส่วนใหญ่เป็นเกมส์แนวสงคราม ที่ต้องมีการรบราฆ่าฟันกัน ซึ่งมีความรุนแรงอยู่ในตัวของมันเอง อย่างที่บอกว่า สงครามไม่มีประโยชน์กับใครทั้งสิ้น แต่เกมส์สงครามกับมีมากมายเกลื่อนตลาด ซึ่งนั่นส่งผลต่อการเล่นของเยาวชนโดยตรงแน่นอน อีกทั้งเป็นการบ่มเพาะนิสัยใช้ความรุนแรงในการตัดสินปัญหาต่างๆ ประเภทและชนิดของเกมมีดังนี้ 1.เกมเลียนแบบหรือการจำลอง (Simulation Games) ซึ่งเป็นเกมที่พยายามเลียนแบบเหตุการณ์จริง เพื่อพัฒนาทักษะของผู้เล่น 2.เกมแอคชั่นแบบ FPS(Action First Person Shooters Games) เป็นเกมยิงปืนที่ผู้เล่นเป็นตัวเอกไล่ยิงผู้ร้าย ไปจนถึงสัตว์ประหลาดต่างๆ 3.เกมผจญภัย (Adventure Games) มีวัตถุประสงค์ของเกมเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จในดินแดนที่สร้างขึ้น ต้องแก้ไขปัญหาหรือหาสิ่งจำเป็นในระดับของเกมที่แตกต่างกันไป 4.เกม RPG (Role-Playing) เป็นเกมที่ผู้เล่นสามารถสร้างหรือเลือก character ของตัวละครให้ตรงกับความชอบของตัวเอง แล้วเล่นไปตามเนื้อเรื่องของเกม 5.เกมต่อสู้ (Fighting Game) เป็นเกมต่อสู้กันโดยมีตัวละครต่อสู้กันแบบตัวต่อตัว ด้วยเทคนิคการต่อสู้เฉพาะตัว 6.เกมวางแผน (Strategy Games) เกมที่ใช้ความคิด นำกลยุทธ์มาใช้เพื่อเอาชนะ เกมมีเรื่องราวเป็นนิทาน หรือตำนาน มีตัวละครนำและการผูกเรื่องเข้ากับการต่อสู้และวางแผนในเกม 7.เกมปริศนา (Puzzle Game) เกมแก้ปัญหาให้ลุล่วงตามจุดประสงค์หลักของเกม เช่น Tetris(เกมตัวต่อ นั่นเอง) 8.เกมกีฬาและการแข่งขัน (Sport & Racing Games) วัตถุประสงค์ของเกมเพื่อการเป็นที่หนึ่งของการแข่งขัน การเล่นเกมนั้นให้ประโยชน์แก่ผู้เล่นหลายด้านด้วยกัน เช่น ก. ทางด้านร่างกาย - สร้างเสริมทักษะการเคลื่อนไหวที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน -เป็นการพัฒนาทักษะเบื้องต้น เพื่อการฝึกกิจกรรมต่าง ๆ -มีผลต่อการพัฒนาระบบอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
