ข่าวล่าสุดของหมวด
ลวงฆ่าเจ้าแม่เงินกู้ วัย 32 ที่แท้ฝีมือสาวเพื่อนสนิท สุดเหี้ยม ตี ฟัน แทง ลากศพทิ้งน้ำ
พบศีรษะแล้ว คดีหลานโหดฆ่าตัดหัวอาทิ้งบ่อน้ำ งมหา 3 วันไม่เจอ จนลอยขึ้นมาเอง
เด็กสาว 18 แอบถ่ายคลิปตัวเองถูกพี่ชายข่มขืน อดทนมา 4 ปี บอกไปก็ไม่มีใครเชื่อ
รอยรัก แรงแค้น! ผัวโหดเลือดขึ้นหน้า ใช้มีดฟันเมียดับสลด
จับ 2 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคดัง ร่วมขบวนการทุจริตโกงสอบนายสิบตำรวจ
สยอง หลานชายฆ่าอา ตัดคอเหลือแต่ตัว หา "หัว" ไม่เจอ ระดมนักประดาน้ำงมในบ่อ
นิด้าโพลชี้ คน กทม.อยากได้ ใครเป็นนายกฯ มากที่สุด
“แคน นายิกา” เดินสายผลักดันนโยบาย “จบ ม.6 มี Gap Year” ให้เด็กไทยได้ค้นหาตัวเอง
ภาพเบื้องหลัง "ธนาธร" แอบส่องแฟนคลับอยู่หลังเวที อยากเห็นคนมาฟังปราศรัย
การ์ดแน่นสายไหม หลังลือ "ชูวิทย์" จ่อบุกเวทีปราศรัย "ภูมิใจไทย" แต่สุดท้ายไร้เงา
เจาะสนามเลือกตั้งเมืองย่าโม 4 พรรคการเมือง แบ่งเค้กที่นั่ง ส.ส. 16 เขตเลือกตั้ง
บ๊ะ! "เสี่ยชัช สายเปย์" เตรียมลงสมัคร ส.ส. ดันนโยบายเด็ด "กล้วยแห่งชาติ"
ขยี้ตารัวๆ "แต้ว ณฐพร" นุ่งชุดว่ายน้ำวันพีซเซ็กซี่ท่อนล่างซีทรู
"ปราปต์ปฎล" เปิดจดหมาย "กู๋กี๋" จากเรือนจำ บอกเหตุผลยังรัก แม้ภรรยาถูกก่นด่า
"กระแต" เปิดห้องแต่งตัว อลังการเวอร์ ตอบสงสัย ทำไมต้องใหญ่ขนาดนี้?
"วิกกี้" เสียงใสมากร้องเพลงให้ลูกสาวฟัง "น้องวิริน" ทำท่าออกกำลังกายยามเช้า
"โต้ง" ควง "พลอย เฌอมาลย์" ดินเนอร์กับแก๊งไทยเทเนียม ถูกแซวคู่นี้ชัวร์แล้ว?
ประวัติ "ถนอม สามโทน" เจ้าของเสียงเพลงเจ้าภาพจงเจริญ
โป๊ปฟรานซิส ประชวรปอดติดเชื้อ เร่งนำส่ง รพ. โฆษกวาติกันยันไม่ใช่โควิด
ทหารเมียนมาสั่งยุบพรรคอองซานซูจี! อ้างฝืนกฎหมายใหม่ ตะวันตก-ญี่ปุ่นสวดยับ
วิถีคนสวย แชร์วิธีหาเงินจากแอปหาคู่ รวยได้ไม่ต้องทำงาน สุดท้ายดราม่าซัดละอายบ้าง
ไม่คิดว่าจะได้เห็น พบหลุมศพสมัยราชวงศ์ถัง ซุกกลางกำแพงเมืองโบราณสองยุค
สามีปากเหม็นมาก แปรงฟันไม่ช่วย เมียสุดทนลากไปหาหมอ ไม่คิดกลายเป็น "มะเร็งลิ้น"
พระเอกหนังโป๊เกือบทำนางเอกตายคากองถ่าย เพราะ "ไอ้นั่น" ใหญ่เกิน ฝ่ายหญิงแจงอีกมุม
สถิติหวยออก 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี แนวทางเลขเด็ดงวดนี้ 1/4/66
นางสงกรานต์ 2566 ทรงนาม "กิมิทาเทวี" เช็กพยากรณ์-ทำนายดวงเมือง
"รองต่อ" เตรียมเชิญ "หยาดทิพย์" ให้ปากคำ หลังจับกุม "เมฆ รามา" ปมฟอกเงิน-เว็บพนัน
ตีเอาเด้อ! คลิปไวรัล ลูกเจี๊ยบสองหัว คอหวยวิเคราะห์เลขเด็ด ลุ้นโชค 1/4/66
ด่วน! ตำรวจไซเบอร์บุกบ้าน "เมฆ รามา" สามี "หยาดทิพย์" เจ้าตัวอยู่ในบ้าน
รวมเลขเด็ดงวดนี้ 1/4/66 เลขเด็ดนายก ปฏิทินจีน เลขดังทุกสำนัก
สาวนั่งรถทัวร์จาก กทม. ทนไม่ไหวคลอดลูกบนรถ ผู้โดยสารเห็นใจ รวมเงินกันมอบให้
นาทีชีวิต สาวท้องแก่เจ็บท้องบนรถทัวร์ ลุ้นกู้ภัยทำคลอด พร้อมจดทะเบียนไว้ลุ้นหวย
สิ้น "พระอาจารย์สรร-พระมหาเช้า" วัดดังฉะเชิงเทรา รถคว่ำมรณภาพที่โคราช
เชียงใหม่ทวงแชมป์อันดับ 1 เมืองมลพิษโลก ควันไฟป่าล้อมเมือง แดดแทบส่องไม่ถึงพื้น
ไฟป่าเขาค้อ วนอุทยานวังท่าดี ลุกไหม้กว่า 24 ชั่วโมง ยังไม่มีท่าทีว่าจะดับ
ไฟไหม้ป่าเขาแหลมนครนายก ใกล้โรงเรียนนายร้อย จปร. ภูเขาทั้งลูกเป็นทะเลเพลิง
หน้า: 1
แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?
10 สัตว์ผู้กล้า ที่เสียสละเพื่อการศึกษาเรื่องอวกาศความสำเร็จทุกวันนี้อาจทำให้เราภาคภูมิใจ ที่การก้าวสู่อวกาศไม่ใช่แค่ความฝันอีกต่อไป และมีแต่จะพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ จนภารกิจที่คาดว่าจะไม่มีวันเป็นจริง กลายเป็นเรื่องใกล้แค่เอื้อม อย่างไรก็ตาม บางทีคุณอาจลืมไปว่าความสำเร็จที่ได้มานั้น ต้องแลกกับการเสียสละของเพื่อนร่วมโลกมากมาย ซึ่งถึงแม้มันจะไม่ใช่มนุษย์เหมือนเราแต่ก็มีชีวิตเหมือน ๆ กัน และบางตัวก็ต้องจบชีวิตไปเพื่อภารกิจที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์อีกด้วย ดังนั้นวันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้รวบรวม 10 สัตว์ผู้กล้า ที่เสียสละเพื่อการศึกษาเรื่องอวกาศ จากเว็บไซต์ io9 มาฝาก ให้เราได้ระลึกถึงความเสียสละของมันกันค่ะ10 สัตว์ผู้กล้า ที่เสียสละเพื่อการศึกษาเรื่องอวกาศภาพจาก Weekly Science Quiz1. หมีน้ำ หมีน้ำ (Water Bears) เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กกว่า 1.5 มิลลิเมตร ถูกส่งขึ้นไปพร้อมกระสวยอวกาศ ESA's FOTON-M3 เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2007 เพื่อศึกษาความหนาแน่นของรังสีและภาวะสุญญากาศบนอวกาศ โดยถูกส่งออกไปนานถึง 10 วัน ก่อนจะกลับมายังโลกและได้สัมผัสน้ำอีกครั้ง ซึ่งทำให้ 68% ของเหล่าหมีน้ำกลับมามีชีวิตได้อย่างน่าทึ่ง มันเลยถูกยกให้เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดแรกที่สามารถมีชีวิดรอดได้ท่ามกลางภาวะสุญญากาศ10 สัตว์ผู้กล้า ที่เสียสละเพื่อการศึกษาเรื่องอวกาศภาพจาก Wikipedia2. ลิงชิมแปนซี ถือเป็นสัตว์ที่ถูกส่งขึ้นอวกาศมากมายหลายครั้ง แต่ลิงชิมแแปนซีตัวแรกสุดที่ถูกส่งขึ้นอวกาศมีชื่อว่า แฮม ซึ่งมันถูกส่งขึ้นไปกับแคปซูล American Mercury ในวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 1961 เพื่อทดสอบความปลอดภัย ก่อนจะส่งมนุษย์ขึ้นไปจริง ๆ ในภายหลัง และเจ้าแฮมก็สามารถมีชีวิตรอดกลับมาได้อย่างปลอดภัยเสียด้วย10 สัตว์ผู้กล้า ที่เสียสละเพื่อการศึกษาเรื่องอวกาศ3. ตัวนิวท์ เนื่องจากตัวนิวท์ (Newts) เป็นสัตว์ประเภทจิ้งจกที่ทำได้แม้กระทั่งงอกแขนขาออกมาใหม่ด้วยตัวเอง ทำให้มันเหมาะเจาะที่สุดสำหรับภารกิจ USSR's Bion 7 เมื่อปี 1985 ที่มีจุดประสงค์จะวัดความสามารถในการฟื้นฟูร่างกายของสิ่งมีชีวิตเมื่อต้องไปอยู่บนอวกาศ ตัวนิวท์ สายพันธุ์ Pleurodeles Waltl จำนวน 10 ตัว จึงถูกส่งออกนอกโลกไป และนั่นทำให้นักวิทยาศาสตร์พบว่าเมื่ออยู่บนอวกาศ พวกมันสามารถฟื้นฟูร่างกายได้เร็วขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ10 สัตว์ผู้กล้า ที่เสียสละเพื่อการศึกษาเรื่องอวกาศภาพจาก FY Cosmonauts4. กระต่าย กระต่ายตัวแรกซึ่งมีชื่อว่า มาร์ฟูชา ถูกส่งไปอวกาศด้วยจรวด R2-A rocket ในภารกิจของสหภาพโซเวียต เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมปี 1959 อย่างไรก็ตามเจ้ามาร์ฟูชาไม่ได้ออกสู่อวกาศเพียงลำพัง แต่ยังมีสุนัขอีก 2 ตัว คือ Otvazhnaya และ Snezhinka เดินทางขึ้นไปพร้อมกับมันด้วย และเมื่อกลับมายังโลก ทั้งสามก็ได้รับการพักฟื้นร่างกาย และปลอดภัยทั้งหมด10 สัตว์ผู้กล้า ที่เสียสละเพื่อการศึกษาเรื่องอวกาศภาพจาก 46blyz.com โดย RKK Energa5. เต่า เต่าคู่แรกที่ถูกส่งขึ้นไปในห้วงอวกาศ เป็นเต่าจากประเทศรัสเซีย ซึ่งสหภาพโซเวียตส่งขึ้นไปในปี 1968 อย่างไรก็ดี มันไม่ได้ถูกส่งขึ้นอวกาศในแบบทั่วไปเหมือนสัตว์ตัวอื่น ๆ ที่ผ่านมา แต่กระสวยอวกาศ Zond 5 ที่เจ้าเต่าน้อยอาศัยขึ้นไปในอวกาศ ได้มีการโคจรรอบดวงจันทร์ก่อนจะกลับมาสู่โลก และเจ้าเต่าก็มีชีวิตยืนยาวต่อไป10 สัตว์ผู้กล้า ที่เสียสละเพื่อการศึกษาเรื่องอวกาศภาพจาก wikipedia6. กบ ในปี 1970 องค์การนาซาได้ส่งกบขึ้นสู่อวกาศ ผ่านกระสวยอวกาศ Otolith เพื่อใช้เป็นข้อมูลศึกษาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสมอง เมื่อต้องอยู่ในภาวะปราศจากแรงโน้มถ่วง ซึ่งจากสิ่งที่เกิดกับกบ ทำให้พบว่าระบบการทรงตัวของร่างกายจะทำงานผิดปกติชั่วขณะเมื่อเข้าสู่ห้วงอวกาศ แต่ก็จะสามารถกลับมาทำงานได้เหมือนเดิมอีกครั้ง10 สัตว์ผู้กล้า ที่เสียสละเพื่อการศึกษาเรื่องอวกาศภาพจาก Dragon Mare7. แมงมุม เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมปี 1973 สหรัฐอเมริกาได้ส่งแมงมุมคู่แรก อาราเบลลา และ อนิต้า ไปกับจรวด Saturn IB ร่วมกับภารกิจ Skylab ครั้งที่สอง ที่มีมนุษย์อยู่ด้วย ซึ่งหน้าที่ของมันเป็นสิ่งที่มีแต่แมงมุมเท่านั้นที่ทำได้จริง ๆ นั่นก็คือตรวจสอบว่าการชักใยของมันเปลี่ยนไปหรือไม่เมื่ออยู่บนอวกาศนั่นเอง ทำให้เราได้เห็นใยแมงมุมถูกทอบนอวกาศเป็นครั้งแรกด้วย 10 สัตว์ผู้กล้า ที่เสียสละเพื่อการศึกษาเรื่องอวกาศภาพจาก Pillown Astromnaut8. แมว ย้อนกลับไปในปี 1963 ประเทศฝรั่งเศสเคยตั้งใจจะส่งเฟลิกซ์ แมวข้างถนนขึ้นไปในอวกาศ แต่มันก็ดันหนีไปเสียก่อน ทำให้เฟลิเซตต์ แมวตัวเมียข้างถนนตัวใหม่ได้เข้ามาทำภารกิจนี้แทน เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมปี 1963 ซึ่งแมวน้อยตัวนี้ถูกฝังขั้วไฟฟ้าไว้ที่สมองเพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของมันด้วย หน้าที่ของแมวตัวนี้คือขึ้นไปบนอวกาศและกลับลงมาผ่านร่มชูชีพ โดยมันกลับลงมาในเวลาไม่ถึง 15 นาที แถมยังมีชีวิตรอดกลับมาอีกด้วย10 สัตว์ผู้กล้า ที่เสียสละเพื่อการศึกษาเรื่องอวกาศภาพจาก Dingus9. สุนัข เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ปี 1957 โซเวียตได้ตัดสินใจส่ง Sputnik 2 ไปเป็นกระสวยอวกาศชิ้นแรกที่โคจรรอบโลก โดยมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ข้างในด้วย ซึ่งสิ่งมีชีวิตที่ว่านั้นก็คือสุนัขจรจัดเพศเมียชื่อ ไลก้า นั่นเอง และสุดท้ายบทสรุปจุดจบชีวิตของไลก้า ถูกเปิดเผยว่า มันตายตั้งแต่อยู่ในกระสวยได้ไม่กี่ชั่วโมงแล้ว เพราะความตื่นกลัวจนช็อก ซึ่งเป็นถือเรื่องน่าเศร้า10 สัตว์ผู้กล้า ที่เสียสละเพื่อการศึกษาเรื่องอวกาศภาพจาก Space10. แมลงวันผลไม้ แมลงวันผลไม้ (Fruit flies) กลุ่มหนึ่งได้ถูกส่งขึ้นอวกาศไปพร้อม ๆ กับจรวด American V2 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ปี 1947 ที่ระยะทาง 68 ไมล์ เพื่อใช้เป็นข้อมูลศึกษาผลกระทบจากพลังคลื่นรังสีต่อสิ่งมีชีวิต ก่อนจะย้อนกลับมาที่โลก ซึ่งแมลงวันผลไม้ทั้งหมดกลับมาได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ นอกจากสัตว์ทั้ง 10 ที่เรารวบรวมมาฝาก ยังมีสัตว์อีกมากมายที่ผ่านการส่งขึ้นอวกาศไปเช่นกัน และก็มีทั้งที่สำเร็จและไม่สำเร็จ หรือถึงขั้นล้มตายก็ด้วย ดังนั้นกว่ามนุษย์จะพัฒนามาถึงทุกวันนี้ได้ ก็คงต้องขอบคุณการเสียสละของเจ้าสัตว์เหล่านี้ด้วยเหมือนกันเครดิต กระปุ๊กดอทคอม
10 สัตว์ผู้กล้า ที่เสียสละเพื่อการศึกษาเรื่องอวกาศ
55555555555 แต่สำหรับประเทศไทยได้พิสูจน์ทราบแล้วว่าสัตว์ตัวที่สิบที่ไปทดลองในห้วงอวกาศนั้นหนาได้สร้างปัญหาให้กับประเทศไทยอย่างมากมาย แต่สัตว์ตัวที่หนึ่งมักจะไม่สร้างปัญหาเพราะเป็น กบจำศีลภาวนาเสียส่วนใหญ่ แต่พวกลิงพวกนี้ในไทยนี้เรียกว่า ลิงหลอกเจ้า แต่ส่วนใหญ่กบมีประโยชน์มากกว่าเพราะว่าเป็นอาหารก็ได้ ส่งออกก็ได้ ยกให้เป็นตัวอย่างในเรื่องวิถีไทย ที่จะมีชีวิตอยู่ได้กับสภาพของบ้านเมืองไทย เพราะกบหากอาศัยอยู่ในกะลาก็จะมีความปลอดภัยมากกว่าสัตว์อื่นใดและหากเปรียบกับคนไทยก็มีสภาพชีวิตเสมือนกบในเวลานี้ในไทย เพราะต้องปรับสภาพตัวเองให้อยู่ได้ทั้งในน้ำและบนบก(น้ำท่วม) และหากกบซึ่งหมายถึงคนไทย หากน้ำท่วมสูงขึ้นมากเท่าไหร่ก็คงไม่ท่วมยอดมะพร้าวในเวลานี้ได้ ก็ยังสามารถนำผลมะพร้าวมารับประทานประทังชีวิตได้โดยไม่ต้องไปปีนป่ายให้มันเกิดอันตรายแต่อย่างใด ทั้งหมดทั้งมวลนั้นทั้งกบและลิง นั้นก็มีประโยชน์แค่การทดลองของต่างชาติภาษานั้นได้ แต่สำหรับเมืองไทยทั้งกบและลิงก็เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับเมืองไทยที่จะต้องอาศัยอยู่ร่วมกันบนผืนแผ่นดินไทยแม้จะทำความยุ่งยากวุ่นวายให้กับบ้านเมืองไทยสักแค่ไหน(ลิง)แต่ประเทศไทยก็ให้อภัยและให้ความเมตตากรุณาไม่ให้มีปัญหาในเรื่องอาหารการกินนั้นได้ ถึงขนาดบางทียังตั้งเป็นศาลให้อยู่เป็นที่ดั่งเช่นที่จังหวัดลพบุรีนั้นไง แต่อย่างว่าลิงที่ดีก็มีน๊ะคือ ท่านหนุมาน ไง นี่คือพระเอกของประเทศไทย แต่จะมีสักกี่คนที่เป็นคนไทยจะทำตัวเป็น ท่านหนุมานที่จะเป็นทหารเอกของพระรามและพระลักษณ์ที่จะจงรักภักดีเยี่ยงท่านหนุมานท่านนี้ได้หรือมีเฉพาะในโขนละครนั้นได้แต่หามีตัวตนที่แท้จริงนั้นได้ใน ประเทศไทย
สำหรับสัตว์ตัวที่สิบนี้แสบมากสำหรับประเทศไทย เพราะทดลองแล้วมาหลายปีก็ยังไม่ทิ้งนิสัยที่มีแต่เล่ห์เหลี่ยมที่เห็นแก่ตัวนั้นได้ ไทยคงไม่มีปัญญาที่จะส่งจรวดยิงไปยังห้วงอวกาศนั้นได้ เราให้ความสำคัญกับผืนดินที่คิดแต่จะทำนุบำรุงดินคิดปลูกผักหญ้าเพื่อเอาไว้ให้ประชาชนได้หากินอยู่อาศัย แผ่นดินของไทยเป็นแผ่นดินทอง สำหรับเรื่องอวกาศต้องให้เป็นเรื่องของพวกชาติมหาอำนาจที่กระทำตัวเป็นพวกพาตัวไปตกหน้าผาตายกันแต่ก็ยังมีปัญญาที่จะนำพาตัวเองขึ้นไปสร้างปัญหาในห้วงอวกาศในอนาคตข้างหน้ากันอีกนั้นได้ ขนาดอยู่บนผืนโลกยังทำตัวกันขนาดนี้ ไปอยู่ที่ดาวอังคารนี่มันก็คงไม่ทิ้งนิสัยเดิม ๆ กันที่อยู่บนโลกใบนี้หรอกจะบอกให้ ก็ให้มันไปขับเคี่ยวกันต่อไปในชาติดังนี้ อเมริกา ญี่ปุ่น จีน รัสเซีย เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เขมร เวียดนาม เพียงเท่านั้นให้ยกไปอยู่บนดาวอังคารนี่ปัญหาบนโลกใบนี้ก็คงจะเบาบางลงไปได้
วิธีแก้ปัญหาสำหรับ 3 ชาติที่ก่อปัญหาพื้นที่ในทะเลกันได้คือ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ หากทั้ง 3 ชาตินี้น่าจะมาพิสูจน์หาดีเอ็นเอ กันนี่คงไม่แตกต่างกันสักเท่าไหร่ เพราะหน้าตาเชื้อสายที่สืบสานกันมาก็คงไม่ผิดเพี้ยนกันสักเท่าไหร่ แต่ก็มาสร้างปัญหาไม่มีความเมตตากรุณากันนั้นได้ และก็ได้มาสร้างปัญหาให้กับดีเอ็นเอของประเทศไทย ซึ่งก็คนละเผ่าพันธุ์กันนั้นได้ แต่ตอนนี้เห็นมาอยู่กินอาศัยในประเทศไทยที่เกินความพอเพียงจนทำให้ประเทศไทยจะเดี้ยงในไม่ช้าไม่นานนี้ได้ หากไม่มีการขยัยขยายให้แตกแขนงสาขาให้ออกไปตามล่าหาดีเอ็นเอกันดีกว่าไหม สำหรับชาติที่มาก่อปัญหาเบียดเบียนประเทศไทย ดีเอ็นเอ ไปอยู่ที่ไหนก็ให้ไหลไปรวมอยู่เป็นกลุ่มก้อนเดียวกันให้จงได้ สำหรับเมืองไทยดีเอ็นเอไทยกำลังขาดแคลนยิ่งนักเพราะยิ่งรักคือให้ความเมตตากับสัตว์โลกทั้งหลายในไทยก็ทำให้เชื้อชาติไทยกำลังใกล้จะสูญพันธุ์หากไม่คิดป้องกันเอาไว้ก็คงจะสูญสลายไปเป็นแน่แท้มีวิธีที่จะคิดทำการแก้ไขกันได้ไหม 5555555555555 เรื่องนี้นักวิทยาศาสตร์ต่างชาติภาษามันหาได้คิดค้นคว้าไม่ 555555
ต้องหาวิธีไม่ให้ดีเอ็นเอไทยต้องสูญพันธุ์...ทำไงดีครับ...
และอยากจะบอกว่า ปัจจุบันนี้น๊ะชาติมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่หาใช่ จีน สหรัฐ และรัสเซียไม่ แต่เป็น ประเทศไทย5555555 เพราะว่าอำนาจใด ๆ นั้นหนาก็หายิ่งใหญ่ เท่ากับอำนาจแห่ง เมตตาธรรม นั้นคงไม่ได้ แต่ไม่เห็นมีมหาอำนาจใดประพฤติตามผู้นำไทยไม่55555 แล้วต่อไปคิดสิว่าโลกใบนี้จะเป็นเยี่ยงใด เพราะทั้ง 3 ชาติมหาอำนาจมีตัณหามากกว่าเมตตาธรรมที่จะเอาไว้ค้ำยันโลกใบนี้กันได้ แล้วอนาคตก็คงจะคิดได้ว่าเรื่องของโลกใบนี้จะเป็นอย่างไร เห็นหรือไม่ทั้งหนังฝรั่งและหนังไทยเขาก็จะสร้างแต่พระเอกคือผู้ทำดี ย่อมชนะผู้ร้ายที่คิดทำไม่ดี ทุกเรื่องนั้นเห็นหรือไม่ หนังต่าง ๆ ที่นำเสนอมาของต่างชาติภาษามันก็ปรุงแต่งกันขึ้นมานั้นได้ แต่สำหรับพระเอกของประเทศไทยเขาสร้างมาด้วยสมองและสติปัญญาและก็ลงมือกระทำนั้นเห็นจะได้ แต่ปัจจุบันมันก็มีผู้ร้ายเข้ามาทำลายสิ่งที่พระเอกของไทยได้สร้างเอาไว้ให้หมดสิ้นไป แต่จำเอาไว้สำหรับประเทศไทย ร้ายจะกลายเป็นดี เสมอจำเอาไว้ เพราะอะไรน่ะหรือเพราะสมองและสติปัญญาของคนไทยหาได้จนมุมไม่ ยิ่งทุบมันก็ยิ่งจะโผล่ผุดขึ้นมาเปรียบเสมือนการระเบิดนั้นหนาจะบอกให้ แต่สิ่งที่ถูกทำลายจะกลายเป็นโมเลกุลที่กระจายอยู่ทั่วราชอาณาจักรไทยหาหมดสิ้นไปนั้นไม่ พิสูจน์ได้อย่างไรหรือ ก็สามารถเป็นเอกราชอยู่ทุกวันนี้ที่ประเทศไทยที่ไม่ตกเป็นของต่างชาติภาษาไม่คิดบ้างหรือว่าประเทศไทยเป็นเยี่ยงใด แต่ปัจจุบันมันมีโมเลกุลที่ผิดเพี้ยนนั้นเกิดขึ้นมาได้ คือการนำพาเอาโมเลกุลที่ดีนั้นหนาไปผสมผสานกับมวลโมเลกุลชั่วช้าของต่างชาติภาษาเพื่อให้ประเทศไทยนั้นหนาตกเป็นขี้ข้าต่างชาติภาษาโดยที่คนไทยไม่รู้ตัวนั้นได้ คิดน๊ะว่าจะช่วยเหลือประเทศไทยอย่างไร สำหรับโมเลกุลที่ผิดหมู่เหล่าพวกนี้จะให้ทำอย่างไรดี นี่สิเป็นเรื่องที่น่าคิดมากกว่าอีกจะบอกให้
ในเรื่องชาติมหาอำนาจที่ต้องการยึดเอาประเทศไทยเป็นฐานรากแห่งการแสวงหาอำนาจในภาคพื้นเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะทำการข้ามซีกโลกเข้ามาใกล้ชิดกับชาติที่อยู่บนภาคพื้นดินมากกว่าเป็นเกาะนั้นได้ ชาติมหาอำนาจที่เป็นเกาะก็อยากจะมาเกาะกินประเทศไทย โดยมีตัวผสมผสานที่เป็นเกาะเช่นกันแต่ชาตินี้เกาะติดแน่นหนึบหนับชนิดที่แกะแงะงัดให้ออกจากประเทศไทยคงไม่ได้ ได้แพร่ขยายตัณหาให้เกาะกินสมองและสติปัญญาของคนไทยให้ฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมเกริมเกินความเป็นคนไทย เอาความโก้หรูผสมผสานในสติปัญญาใช้ชีวิตหรูหราอารมณ์เปลี่ยนแค่ขึ้นไปนั่งจับพวงมาลัย ย้งไม่พอขอเอาเครื่องมือสื่อสารมาใช้ในเวลาขับขี่ ผลสุดท้ายนี่ไปชนโครมโดยไม่เจอกันที่โรงพยาบาลหรือวัดเป็นเรื่องสุดท้าย แต่ประเทศไทยสร้างแต่โรงพยาบาลเพื่อมารองรับกรรมของคนไทยที่ตกเป็นทาสของต่างชาติภาษาที่มามอมเมาให้ตกเป็นทาสของความมหาวินาศที่อยากจะเอาประเทศไทยเป็นฐานเจาะเวลาหาอนาคตนั้นหนาก็คือความเป็น จ้าวโลก นั้นได้ เมื่อไหร่คนไทยจะเรียกสติปัญญากลับคืนมาเป็นของตนเองกันนั้นได้ ตกเป็นทาสของเหล่าอภิมหาอำนาจสืบเนื่องมาจากสงครามโลกครั้งที่สองนั้นมาได้ นี่ก็หลายปีแล้วสิน๊ะที่ไทยต้องตกอยู่ในห้วงเวรกรรมอย่างมากมาย นี่ก็คงจะใกล้วบรรลุผลกรรมกันแล้วสิน๊ะคงอีกไม่ช้าไม่นานในประเทศไทย
สรุป ประเทศไทยคือผู้ชนะบนโลกนี้เห็นจะได้เพราะว่าใช้เมตตาธรรม คำจุนโลก และ ประเทศไทย 555555555555555555555555555555555555555555
ประเทศไทยสอนให้คนไทยใช้ชีวิตแบบพอเพียง แต่ประเทศไทยเดี้ยงหาได้ใช้ไม่ แต่ประเทศที่นำพาเอาเศรษฐกิจพอเพียงของไทยนั้นหนานำไปใช้ก็คือ ประเทศญี่ปุ่นนั้นไง อาหารก็บริหารจัดการให้กินเป็น คำ ๆ นั้นเห็นไหม รถยนต์ที่เป็นพาหนะก็ใช้ จักรยาน เป็นพาหนะในการสั่งสอนให้คนญี่ปุ่นมีความประหยัดและพอเพียงนั้นได้ สินค้าก็มีราคาแค่ 60 บาททั้งร้าน(60บาทที่ในไทยในประเทศญี่ปุ่น 30 บาท) แล้วเป็นไง...แต่อย่างว่าแหละน๊ะ หากไม่มีความจริงใจ ธรรมชาติก็จะมีบทลงโทษเข้าให้ เพราะว่าความไม่ดีต่าง ๆ นานา นำไปไว้ที่ประเทศอื่นนั้นไซร้ แต่ประเทศตัวเองสรรค์สร้างแต่ความดี ความสะอาด เอาขยะเอาความไม่ดีในชาติของตนเองมาแพร่ขยายในประเทศไทย และปัจจุบันก็พิสูจน์ทราบแล้วนั้นเห็นกันหรือไม่
การแข่งขันทางด้านเทคโนโลยีเพื่อบดขยี้ให้เป็นหนึ่งบนโลกใบนี้แล้วเป็นไง เดี้ยงกันไปหมดทุกชาติภาษา แสวงหาแต่เรื่องการแข่งขันชิงชัย ไม่มีชาติใดคิดถึงเรื่อง เมตตาธรรม เอาชนะห้ำหั่นซึ่งกันและกันให้จงได้ แล้วสิ่งที่แข่งขันนั่นก็คือ การตั้งราคาที่เป็นตัวเงิน ตัวทอง นั้น เพื่อให้คนที่ต้องการให้ไปเสาะแสวงหาเอาเงินตรามาซื้อหาไปเป็นเจ้าของให้จงได้ แล้วเป็นไง วิธีการเพื่อเสาะแสวงหาเงินตรามาซื้อหาสินค้านั้นก็คือ โลกแห่งการเบียดเบียนซึ่งกันและกัน นั้นใช่ไหม ทำการจี้ ปล้น ฆ่า ให้เป็นข่าวที่จะพัฒนาวิธีการสร้างสรรค์ผลงานออกมาในรูปแบบต่าง ๆ เช่นกัน แข่งกับผู้ผลิตสินค้าเหล่านั้นที่เป็นตัวกำหนดราคา แล้วผลที่ตามมาเป็นเยี่ยงใด ทุกข์ไปตกแก่คนที่หาได้มีความต้องการในสินค้าเหล่านั้นไม่ เขาใช้ชีวิตแบบพอเพียงแต่ก็ตกเป็นเหยื่อของพวกมีตัณหาเหล่านี้ได้ แล้วชาติใดที่เป็นตัวสร้างตัณหาให้เพิ่มพูนขึ้นมาทุกวันไป ทั้งโลกก็คงจะจับตามาที่ประเทศไทย เพราะผู้ผลิตสินค้าอันดับหนึ่งในโลกนี้ก็ตั้งอยู่ที่ประเทศไทย จริงไหม สุดยอดแห่งคำครหาเพราะว่าเป็นการสวนกระแสแห่งการพัฒนาแบบยั่งยืนในไทย สอนให้พอเพียงแต่ก็เดี้ยงไปทั้งโลกเหตุเกิดที่ประเทศไหน นี่แหละคือกรรมของประเทศไทย และวันนี้ผลกรรมเหล่านั้นก็ได้ถาโถมซัดกระหน่ำมาแล้วไง คนไทยตายรายวันด้วยอุบัติเหตุ ด้วยการจี้ปล้นฆ่า ด้วยปัญหาการทะเลาะเบาะแว้งกันนั้นได้ นี่เป็นเพราะคนไทยหรือต่างชาติภาษา หรือว่าเป็นการร่วมสังคกรรมกันนั้นหนาระหว่างใครกับใคร
เหมือนเป็นภาพสะท้อนให้เห็นในปัจจุบันนี้ได้ปัญหาสังคมที่ทับถมเกิดขึ้นมาทุกวันนี้คือชนชาติใดที่ทับถมมาให้แม้ปัจจุบันก็ยังไม่สิ้นสุดกรรมที่ทำกับไทย ปัญหามิตซูโอะนั้นหนาที่ก็ยังมาเป็นปัญหาให้กับประเทศไทย
นักธุรกิจที่มาลงทุนในไทยก็มีชาติ อเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ จีน ซึ่งมีบทบาทที่ยิ่งใหญ่ นายทุนพวกนี้มีอิทธิพลมากมีในไทย กลายเป็นว่ามาลงทุนชนิดที่วาไทยเกือบจะล่มสลาย เพราะมิใช่จะมาผลิตสินค้าแต่ได้มาแพร่วัฒนธรรมอันหลากหลาย และยังจะเพิ่มเติมในเรื่องการจะขยับขยายถิ่นที่อยู่ที่จะต้องมาควบรวมอยู่ที่ประเทศไทย ในภาคอิสานก็มีเหล่าบรรดาเชื้อสายยุโรปมาแพร่กระจาย ที่ภาคเหนือก็มีบรรดาเชื้อชาติญี่ปุ่น ภาคกลางก็จะมีเชื้อสายจีนอีกนั้นได้ แล้วคนไทยอยู่ที่ไหนโน่น น้ำท่วมขังข้าวปลาอาหารพังพินาศหาที่อยู่ที่เป็นที่สูงกว่าพื้นน้ำไม่ได้ เพราะต่างชาติภาษาพากันไปซื้อที่อยู่อาศัยกันหมดแล้วนั้นได้ ถามว่า ปัญหาเหล่านี้มากกว่าที่คุณควรจะหาคำตอบว่าจะให้ทำอย่างไร เพราะดีเอ็นเอในประเทศไทยตอนนี้มันจมน้ำกันหมดแล้วนั่นไง
และที่สุดของที่สุดนั้นหนา คืออยากจะบอกถึงอนาคตในประเทศไทยนี้ว่า อย่าให้ประเทศไทยเป็นสนามหญ้าที่จะให้ชาติมหาอำนาจนั้นหนามาประลองกำลังกันนั้นได้ในประเทศไทย เพราะว่าประเทศไทยกลายเป็นสมรภูมิของการชนตัณหามิใช่ ชนช้าง (เพราะนั่นคืออดึตกาลของประเทศไทย) แต่คนรุ่นใหม่กำลังทำให้ประเทศไทยกลายเป็นสนามรบของมหาอำนาจที่จะมาประลองกำลังกันนั้นได้ หยุด...ขอให้หยุดคิดไปไกล ๆ ว่าพวกท่านได้ลากเอาประเทศไทยนั้น เป็นสนามประลองยุทธ์ของเหล่าบรรดามหาอำนาจตัวจริงและตัวเสียบแทนนั้นใช่หรือไม่
แจ้งเตือน
ภาพและเนื้อหาต่อไปนี้ ไม่เหมาะสมแก่เด็ก และเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี