บริษัท ฟอร์ซ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ "โฟรตรอน" จากประเทศออสเตรเลีย ประกาศรุกตลาดปีนี้ โดยแถลงนโยบายทางการตลาด ชูจุดแข็งในการเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงรักษารถยนต์ตาม
ระยะทาง หนึ่งเดียวในประเทศไทย
ดร.ถานันดร์ วัชโรทยางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฟอร์ซ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยถึงแนวทางในการทำธุรกิจในปีนี้ว่า ในปี 2556 กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของบริษัทจะมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ "โฟรตรอน" ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีจุดเด่นเรื่องบำรุงรักษารถยนต์ตามระยะทางหนึ่ง เดียวที่สามารถดูแลรักษารถยนต์ที่ใช้พลัง
งานทางเลือกและพลังงานทดแทน สามารถขจัดน้ำในถังน้ำมัน และระบบเชื้อเพลิง ต้นเหตุที่ทำให้เกิดความชื้นและสิ่งสกปรกในระบบเชื้อเพลิงทั้ง เบนซินและดีเซล ซึ่งเป็นสาเหตุในการทำลายเครื่องยนต์ โดยไม่ส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ตลอดระยะเวลากว่า 12 ปีที่ผ่านมา กับการทำตลาดในประเทศไทยนั้นภายใต้การนำเข้าและจัดจำหน่ายของ บริษัท ฟอร์ซ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด นับได้ว่าผลิตภัณฑ์บำรุงรักษารถยนต์ตามระยะทาง โฟรตรอนนั้น ได้รับการตอบรับอย่างดีและมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีที่ผ่านมา ยอดจำหน่ายอยู่ที่ 320,000 ยูนิต หรือ 49% ของตลาดรวม เพิ่มขึ้นจากปี 2554 ที่ 33% โดยมีเป้าหมายในการเติบโตขึ้นอีก 1 เท่าตัวภายในปีนี้
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2556 บริษัทยังเดินหน้าในการขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง และรักษาฐานลูกค้าให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยการขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย ให้มีความหลากหลายเพื่อรองรับกับความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการทำตลาดเชิงรุกในการทำกิจกรรมต่างๆ ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้บริโภคโดยตรงมากขึ้น
บริษัท ฟอร์ซ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงรักษารถยนต์ตามระยะทางโฟรต รอน จากประเทศออสเตรเลีย ด้วยมาตรฐาน ISO 9001:2008 เป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งเดียวที่สามารถดูแลรถยนต์ที่ใช้พลังงานทดแทนและ พลังงานทางเลือก ได้แก่ แก๊สโซฮอล์ E10 ทั้ง 91/95, E20, ไบโอดีเซล B4/B5, CNG และ LPG รวมถึงรถยนต์ระบบไฮบริดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยคุณสมบัติการขจัดน้ำในระบบเชื้อเพลิงที่เป็นสาเหตุของการทำให้ เครื่องยนต์กระตุก สะอึก สตาร์ทติดยาก สามารถลดควันดำ ลดมลพิษทางอากาศ และประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์โฟรตรอน ได้ทำการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถดูแลรถยนต์ที่ใช้แก๊สโซ ฮอล์ E85 และไบโอดีเซล B7 และ B10 ได้เป็นผลสำเร็จ ทั้งนี้ในประเทศไทยมีการให้บริการผ่านช่องทางศูนย์บริการรถยนต์กว่า 300 ศูนย์ และศูนย์บริการระบบ Quick Service อีกกว่า 200 สาขา