...น่าสนใจครับ..บางท่านเด็กรุ่นใหม่อาจยังไม่รู้...
ท่านที่ 1.
เริ่มจากจอมพล.ป.พิบูลสงครามที่ถูกลอบฆ่าถึง 3 ครั้งแต่ก็รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด จนได้รับการขนานนามว่าเป็นนายพลกระดูกเหล็ก ครั้งแรกวันที่ 23 ก.พ. 2477 จอมพล ป.พิบูลสงคราม ดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม ขณะเป็นประธานมอบรางวัลชนะเลิศ การแข่งขันฟุตบอลระหว่างเหล่าทัพต่างๆ ที่สนามหลวง ถูกคนร้าย บุกประชิดตัวใช้ปืนพกสั้นชนิด รีวอลเว่อร์ 9 ม.ม. ยิงในระยะเผาขน บาดเจ็บเล็กน้อย คนร้ายถูกจับได้และซัดทอดถึง นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เป็นผู้ว่าจ้างให้มาสังหาร
ครั้งที่2. 9 พ.ย. 2481 จอมพล ป.ถูก คนรับใช้ในบ้าน ใช้อาวุธปืนพกยิงขณะแต่งเครื่องแบบอยู่ในบ้านเตรียมจะออกไปทำงาน ผลปรากฎว่ากระสุนพลาด คนร้ายไม่ยอมซัด ทอดว่าใครเป็นผู้จ้างวาน
ครั้งที่ 3 เกิดขึ้นวันที่ 9 ธ.ค. 2581 จอมพล ป. ถูก "แม่ครัว"ในบ้าน ลอบใส่ยาพิษในอาหารกลางวัน ที่นั่งรับประทานอาหารร่วมกับพลพรรค แต่ทั้งหมดรู้ตัวว่าถูกยาพิษ จึงได้รีบไป "ล้างท้อง"ที่โรงพยาบาลทหารบกได้ทัน ครานั้นคนร้ายไม่ซัดทอดผู้จ้างวาน
ท่านที่2.
บุคคลที่ 2 พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ โดยประสบอุบัติขึ้นเมื่อ วันที่ 16 ก.ค. 2525 ขณะเดินทางไป ณ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ ต. เขาพระงาม อ.เมือง จ.ลพบุรี และยังถูกคนร้ายใช้จรวดต่อสู้รถถัง "M- 72"ยิงถล่มขบวนรถ ทว่ากระสุนพลาดเป้าหมาย ครานั้นทางการแถลงว่า ผู้ก่อการประกอบด้วย นายทหารจากศูนย์การทหารปืนใหญ่ และทหารประทวน 2 อีกนาย จากการสอบสวนไม่สามารถสาวถึงผู้บงการได้ เพราะผู้ต้องหาสำคัญยิงตัวตาย และทหารชั้นประทวนอีก 2 นาย ถูกอุ้มหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ความพยายามสังหารพล.อ.เปรม มีขึ้นอีกครั้ง ในช่วงค่ำคืนวันที่ 15 ส.ค. 2525 เมื่อคนร้ายขว้าง ระเบิดลูกเกลี้ยง M 26 เข้าไปใน บ้านสี่เสาเทเวศร์ แต่แรงระเบิดสร้างความเสียหายตัวบ้านเล็กน้อย ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย เหตุการณ์ลอบสังหารจอมพล.ป.และพล.อ.เปรม เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แต่ทั้งคู่ก็รอดมาได้อย่างหวุดหวิด ทั้งจะว่าเป็นเรื่องของโชคช่วย หรือประสบการณ์ที่รู้เท่าทันแผนร้ายต่างๆ
ท่านที่3.
กลายเป็นสถานการณ์อันครึกโครมเลยทีเดียว สำหรับทุกๆ ครั้งที่ปรากฎข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะถูกลอบสังหาร อย่างครั้งก่อนหน้านี้ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 4 พ.ต.ท.ทักษิณถึงขนาด ออกมาเปิดเผยด้วยตัวเองว่ากำลังตกอยู่ในความอันตรายถึงชีวิต จากแผนลอบสังหาร "ตนเองเคยถูกลอบสังหารมาแล้ว 4 หน แต่ดวงดี มีหลวงพ่อดี แต่ก็ไม่ประมาท และพระเจ้าคงเห็นว่า ยังเป็นประโยชน์ จึงให้ตนอยู่ต่อ"
นี่คือคำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ได้พูดถึงข่าวการลอบสังหาร ระหว่างเดินทางเข้าประเทศลาวเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2555 โดยตลอดการเดินทางทัวร์ประเทศลาวและกัมพูชาของพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ปรากฏภาพของพ.ต.ท.ทักษิณ ในทุกอิริยาบถ ที่เต็มไปด้วยการอารักขา ของทีมการ์ดอย่างแน่นหนา วันที่ 14 เมษายน ขณะเดินทางถึงประเทศกัมพูชา เพื่อปราศรัยบนเวทีคนเสื้อแดงพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ย้ำอีกครั้งว่าที่ผ่านมาถูกลอบสังหารมา 4 ครั้งแต่มีพระขลัง โดย ผบ.ตร. ในขณะนำไปให้ และตอนนี้ไม่มีโอกาสอีกแล้ว หลังทำมาแล้วไม่เคยสำเร็จ
สื่อมวลชนจากประเทศไทยหลายสำนักที่เดินทางไปเกาะติดรายงานข่าวในครั้งนี้ พูดเป็นเสียงเดียวกันเกี่ยวกับเรื่องความเฉียบขาดของทีมรักษาความปลอดภัยพ.ต.ท.ทักษิณ อย่าง โรงแรมกรีนพาร์ค บูติก ประเทศลาว ก็แทบปิดตายประตูกันเลยทีเดียว นอกจากนี้มีทั้งทหารและตำรวจตั้งเต็นท์เฝ้าตลอดเวลา รวมถึงกำหนดการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลานัดหมาย รวมถึงสถานที่ ก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ขบวนรถของ พ.ต.ท.ทักษิณเอง ก็มีอยู่หลายคันราวกับไม่ต้องการให้รู้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณนั่งอยู่คันไหน อีกทั้ง ก่อนเข้างาน ทุกคนที่เข้าร่วมต้องมีบัตร ที่จัดเป็นบัตรหลายระดับ ทั้ง บัตรธรรมดา, บัตร VIP,บัตร V VIP และในงานก็มีตำรวจปราบปรามเดินสะพายปืนอาก้าตรวจตราอยู่ตลอดเวลา จากสถานการณ์ที่เป็นไปเชื่อหรือไม่ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ กำลังจะถูกลอบสังหารจริงๆ ก็ต้องย้อนกลับไปตรวจสอบเหตุการณ์ก่อนหน้า แต่จะว่าไปแล้ว สำหรับข่าวการลอบสังหารพ.ต.ท.ทักษิณ ที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้ายก็ลงเอยด้วย ไม่มีอะไรเกิดขึ้น และน้ำหนักยังเทไปที่การจัดฉากด้วยซ้ำ
ในช่วงปี 2544-2546 ที่พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็มักจะมีการปล่อยข่าวว่าถูกจ้องสังหารอยู่หลายครั้ง วันที่ 3 มี.ค.2544 พ.ต.ท.ทักษิณ ตกเป็นข่าวครึกโครม เมื่อเกิดเหตุ เครื่องบินของการบินไทย โบอิ้ง 737-400 ทะเบียน HS-TDC เที่ยวบินภายในประเทศ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เกิดระเบิด ขณะจอดอยู่ ภายในท่าอาศยานกรุงเทพ เหตุการณ์ระเบิดเครื่องบินคราวนั้นเกิดก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมด้วยครอบครัวจะขึ้นเครื่องลำดังกล่าวบินกลับบ้านเกิดที่ จ.เชียงใหม่ แรงระเบิดทำลายล้างตัวเครื่องบินแหลกเป็นจุณ มีเหยื่อระเบิดเสียชีวิต 1 ราย อย่างไรก็ตาม ใน ขณะนั้น มีการปล่อยข่าวว่าเป็นการก่อวินาศกรรม ของ "กลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติ" หรือ "ขบวนการค้ายาเสพติด" ผลสรุปการสอบสวนของ "คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติสหรัฐ อเมริกา"(NTSB) ซึ่งเป็นองค์กรการบินระดับโลก พบว่า สาเหตุที่เครื่องบินระเบิดนั้นเป็นแค่ "อุบัติเหตุ" ที่เกิดจากการเปิดแอร์ ระหว่างเติมน้ำมัน เหตุการณ์ครั้งนั้น ผู้คนบางส่วนมองว่าเป็นเหตุการณ์ "ลวงโลก" เพื่อเรียกคะแนนสงสาร เพราะช่วงนั้นพ.ต.ท.ทักษิณ ตกอยู่ในสถานการณ์ทางการเมืองที่ยากลำบาก ในคดี "ซุกหุ้น" ภาคแรก
ปี 2546 ข่าวลอบสังหารพ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาอีกครั้ง ในช่วง "สงครามกวาดล้างยาเสพติด" มีการปล่อยข่าวว่า "กลุ่มว้าแดง" ได้ตั้งค่าหัว พ.ต.ท.ทักษิณ 80 ล้านบาท เนื่องจากไม่พอใจนโยบายปราบปรามยาเสพติดขั้นเด็ดขาด เพราะทำให้สูญเสียผลประโยชน์หลายพันล้านบาท ช่วงนั้นพ.ต.ท. ทักษิณ ถึงขนาดเปลี่ยนรถประจำตำแหน่งเป็น "รถตู้หุ้มเกราะ" และสั่งเพิ่มทีมรักษาความปลอดภัย มีชุดล่าสังหาร อาวุธครบมือ อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายเชื่อว่าข่าว "สังหารพ.ต.ท.ทักษิณ" คราวนั้นเป็นเพียงการสร้างกระแสให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก เพื่อให้เกิดความรู้สึกว่าการเมืองอยู่ในขั้นวิกฤติอย่างมาก จะได้ไม่เข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมืองในทุกรูปแบบ เนื่องด้วยช่วงนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังโดนหลายฝ่ายตรวจสอบอย่างหนักเรื่องเอื้อประโยชน์ให้ "กลุ่มชินคอร์ป"
ในปี 2549 ก็เป็นอีกช่วงที่ข่าว "ลอบสังหารพ.ต.ท.ทักษิณ" โด่งดังที่สุด เมื่อ วันที่ 24 สิงหาคม 2549 คราวนั้น เกิดเหตุ "คาร์บอมบ์"หรือ "คาร์บ๊อง"
v
v
v
http://www.tnews.co.th/html/read_headnews.php?hilight_id=3204
ขอบคุณแหล่งที่มาครับ