..............ความจริงวันนี้..................
ผงะ ยุคปูแดง โกงลึกถึงรากหญ้า ชาวศรีสะเกษ สุดทน บุก ปชป. ร้อง มาร์ค หลังถูกโกงงบ SML 1.4 ล้านบาท กลโกงไม่ต่างระดับชาติ ตั้งพรรคพวกเป็นกรรมการ ปลอมลายเซ็นชาวบ้าน ไม่สนชาวบ้าน 90 % ไม่เอาปุ๋ยขี้ไก่ยังบังคับแจก แฉ ต้นทุนแค่ 130 แต่เบิก 380 โกงเกือบสองเท่าตัว แถม ปุ๋ยไร้คุณภาพ ชาวบ้านสงสัยอาจเป็นแค่ดิน ร้องจังหวัดตรวจสอบ แต่ไร้คนเหลียวแล ขอพึ่ง ปชป.

นายยุทธพงศ์ อรุณโรจน์ ตัวแทนชาวบ้านจากหมู่ 1,7,8 ต.ไผ่ล้อม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ รวม 641 ครัวเรือน ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ที่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อขให้ช่วยตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับการใช้งบประมาณโครงการ SML วงเงิน 1.4 ล้านบาท ซึ่งทางกลุ่มชาวบ้านได้ยื่นหนังสือร้องเรียนกับนายอำเภอเมืองศรีสะเกษตามขั้นตอนทางราชการแล้วด้วย
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่าเดิมหมู่ 1,7,8 เป็นหมู่บ้านเดียวกัน แต่ต่อมามีการแยกออกเป็น 3 หมู่บ้าน และมีปัญหาความไม่โปร่งใสเกี่ยวกับพฤติกรรมของคณะกรรมการ SML โดยพบว่าคณะกรรมการของทั้ง 3 หมู่บ้าน ล้วนเป็นเครือญาติกัน ใช้อิทธิพลนำเงิน SML ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ตามที่ชาวบ้านได้ร่วมกันทำประชาคม อีกทั้งยังไม่เปิดโอกาสให้ชาวบ้านได้มีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการด้วย โดยชาวบ้าน 90 % ไม่ต้องการปุ๋ยมูลไก่ และยังมีการปลอมลายมือชื่อจนชาวบ้านร้องเรียนถึงอำเภอ และจังหวัด แต่ก็ไม่มีการดำเนินการใด ๆ

“เขาเอาเงิน SML ของทั้ง 3 หมู่บ้าน ใช้ซื้อปุ๋ยมูลไก่ ซึ่งชาวบ้านไม่ต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไม่ได้ทำนา ไม่ได้เป็นเกษตรกรมีอาชีพรับจ้าง และไม่ทราบรายละเอียดว่าปุ๋ยดังกล่าวมาจากงบประมาณส่วนไหน นอกจากนี้ช่วงเดือนกันยายน ตุลาคม ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ปุ๋ยมูลไก่ โดยมีบางคนนำไปใช้ก็พบว่าไม่ได้ช่วยการเจริญเติบโตของพืชแต่อย่างใด เหมือนการเพิ่มดินลงไปเท่านั้น ขณะที่ราคาปุ๋ยต้นทุนอยู่ที่ 130 บาท แต่กลับเบิกจ่ายถึง 380 บาท ซึ่งชาวบ้านสงสัยและอยากให้มีการตรวจสอบว่าสิ่งที่นำมาแจกนั้นเป็นปุ๋ยมูลไก่หรือว่าดินกันแน่ เพราะบรรจุภัณฑ์ก็ไม่ได้มาตรฐาน น้ำซึมเข้าไปได้ทำให้เสื่อมคุณภาพไม่สามารถเก็บไว้ใช้ในปีถัดไปได้” นายยุทธพงศ์ กล่าว
ตัวแทนชาวบ้านยังกล่าวด้วยว่า ตามระเบียบสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติฯโครงการ SML 2555 นโยบายรัฐบาลต้องการเปิดกรอบให้หมู่บ้าาน/ชุมชนสามารถนำเงิน SML ทีไ่ด้รับไปใช้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด และให้ตรงกับความต้องการของคนในชุมชน ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงโครงการได้ตามความต้องการของชุมชน หรือเพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วน (ยกเว้นการนำไปปล่อยกู้แบบเดียวกับกองทุนหมู่บ้าน) ดังนั้นจึงสามารถเปลี่ยนแปลงโครงการให้ตรงตามความต้องการของชาวบ้านได้โดยไม่ขัดกับวัตถุประสงค์ของโครงการ จึงอยากให้มีการตรวจสอบเพราะชาวบ้านไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากถูกอิทธิพลครอบงำเอาเปรียบจากงบประมาณที่เป็นภาษีของประชาชนที่ควรจะจัดสรรให้ได้รับอย่างถูกต้องเท่าเทียมกัน
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ รับหนังสือพร้อมสอบถามรายละเอียดจากชาวบ้าน โดยจะได้นำเรื่องที่ร้องเรียนไปตรวจสอบตามที่ชาวบ้านร้องขอต่อไป
//////////////
คนอีสานบ้านเฮาจริงเท็จขอเสียงหน่อยครับ..
ขอบคุณแหล่งที่มาครับจากสายตรงภาคสนาม.