มัณฑเลย์ เสน่ห์เมืองหม่อง ประเทศพม่า (ตอนที่1/2) “มิงกาละบา” ทักทายด้วยภาษาพม่าก่อนเลยแล้วกัน สำหรับทริปพิเศษนี้ เดินทางโดยเครื่องบิน ไปเที่ยวทริปแรกเลย
มาถึง สนามบินมัณฑะเลย์ ก็ช่วงสายๆ ใช้เวลาบินจากกรุงเทพประมาณ 1 ช.ม 15 นาที ได้ เป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในพม่า Runway ค่อนข้างยาว เห็นว่าสร้างโดย บริษัทของคุณบรรหาร ศิลปอาชา เมื่อเสร็จจาก ตม.พม่าก็นั่งรถทัวร์ ใช้เวลาประมาณเกือบ 1 ช.ม. ก็เข้ามาสู่เมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งห่างจากสนามบินประมารณ 35 กม. แวะกินข้าวร้านต้มยำกุ้ง เป็นร้านอาหารไทยที่ไปเปิดในพม่า เมื่อกินเสร็จก็เริ่มเที่ยวกันเลย
เมื่อถึงฝั่งก็เดินไป วัดเจ้าตอจี้ อีกนิดเดียว ก่อนอื่นต้องบอกไว้ก่อนว่าการท่องเที่ยววัดในพม่านั้น ทุกๆ วัดเราจะต้องถอดรองเท้า ถุงเท้า แม้กระทั่งถุงน่องบางๆ เสมอ ส่วนการ
แต่งตัวก็คล้ายๆ ไปวัดไทย และข้อห้ามอีกอย่างคือส่วนที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปจะห้ามผู้หญิงขึ้นไปเด็ดขาด จะกราบไห้วอยู่บริเวณด้านล่าง การปิดทองก็ฝากให้ผู้ชายไปปิดให้
เมืองอมรปุระ
(แปลว่า เมืองเทพ กรุงเทพ อะไรทำนองนี้)

พอมาถึงก็เห็นเรือจ้างที่จะนั่งไปยังวัดเจ้าตอจี้ที่อยู่ฝั่งโน้นของ ทะเลสาปต่าวตะหมั่น โดยถ้าหากอยากเดินชมสะพานไม้อูเบงก็สามารถเดินไปถึงได้
วัดเจ้าตอจี้

วัดเจ้าตอจี้ (วัดตองตะมันจอกทอขยี) อายุประมาณ 250 ปี มีจุดเด่นตรงที่จิตรกรรมฝาผนังซึ่งมีเอกลักษณะผสมผสานกับศิลปไทย โดยที่เห็นเด่นชัดก็คืภาพวาดเทวดาซึ่งของทางพม่าจะมีลักษณะทรงเครื่องแบบมีเสื้อคลุม ส่วนทางของไทยจะเป็นแบบเทพพนม และยังมีเทวดาแบบตะวันตกก็มีลักษณะเป็นกามเทพ Cupid ถ้าได้ลองไปเดินมองหาดูเห็นได้ไม่ยาก
สะพานไม้อูเบง
มีความยาวประมาณ 2 ก.ม. ซึ่งเสาและไม้ที่นำมาใช้ได้มาจากการรื้อถอนย้ายพระราชวังเก่า เพิ่มมาสร้างใหม่ใกล้เชิงเขามัณฑะเลย์ ในสมัยพระเจ้าประดุง



ต้นไม้ลำต้นสีเหลือง ทีแรกนึกว่าทาขมิ้นไว้ที่ลำต้นซะอีก อยู่ภายในวัดก่อนทางขึ้นเขา แปลกตาดี
เมื่อขึ้นมาถึงบนยอดเขามัณฑะเลย์ ก็จะมีพระพุธทรูป เจดีย์ให้เราได้นมัสการก่อนชมวิว สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะถ่ายรูปจะต้องเสียค่าบริการกล้องละ 1000 จ๊าด ตกประมาณ 50 บาท ถือว่าทำบุญครับ คุ้ม

ประเพณีล้างพระพักตร์ถวายพระมหามัยมุนีพิธีล้างหน้าพระ

พระมัยมุนี วัดมหามุณี ในพม่ามีความสำคัญพอๆ กับพระแก้วของพวกเราชาวไทย โดยทุกเช้า เวลาประมาณ 04.00 น. (ตี 4) พระมหาเถระและชาวพม่าจะมาทำพิธีล้างพระพักตร์ด้วยน้ำอบน้ำหอมผสมทานาคาอย่างดีพร้อมกับใช้แปรงทองแปรงที่พระโอษฐ์เสมือนหนึ่งแปรงพระทนต์ถวายพระพุทธเจ้า ก่อนใช้ผ้าจากศรัทธาสาธุชนถวายมาเช็ดจนแห้งสนิท พร้อมใช้พัดทองโบกถวายเป็นอันดีเสมือนหนึ่งได้อุปัฏฐากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ยังทรงพระชนมชีพอยู่จริง ๆ



เครดิต www.thaigogenius.com