เรื่องล่าสุดของหมวด
หนุ่มรีวิวเต็นท์ที่ใช้ก่อนเข้าวงการ Vs หลังเข้าวงการ ดูแล้วคุ้นตามาก!
Upper 5th คาเฟ่ลับบนดาดฟ้า One Nimman เห็นวิวดอยสุเทพจากกลางเมืองเชียงใหม่
เกาะนาคเมืองบาดาล วัดไตรสามัคคี จุดเช็กอินแห่งใหม่ศรีสะเกษ
The Rhythm Balloon Festival เทศกาลบอลลูนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองกาญจน์
ทะเลร้อนฉ่า! Lady Atom สาว Onlyfans สุดเอ็กซ์ นุ่งบิกินีตัวจิ๋วเที่ยวทะเลภูเก็ต
LOU HIEB SENG : โปรเจกต์ปลุกตึกเก่าในซอยประตูนกยูงให้ตื่น
AMA Hostel ที่พักลับๆ ในตรอกสะพานหัน ยิ่งเดินหลงทางก็จะยิ่งหลงรัก
ส่องความแซ่บเลดี้ปราง กับชุดแคมป์ปิ้งที่ทำเอาหลายคนโฟกัสผิดจุด
พราวภูฟ้า รีสอร์ท เชียงใหม่ : วิลล่ากลางเขา นอนอิงหมอก ชิลริมลำธาร ท่ามกลางธรรมชาติ
บ้านลีซูโฮมสเตย์ จ่ายหลักร้อยนอนชมวิวดอยหลวงเชียงดาวจากบนที่นอน!
Muaklek Camp Park จุดกางเต็นท์สวยริมน้ำ วิวเหมือนภูเขาเทเลทับบี้
7 ที่พักวิวทะเลหมอกราคาหลัก 100 นอนชมวิวสวยปังแบบประหยัดกระเป๋า
Shake Shack เบอร์เกอร์เจ้าดังจากนิวยอร์คเปิดสาขาแรกในไทย ที่เซ็นทรัลเวิลด์
วันนี้ที่รอคอย! บาร์บีคิว พลาซ่า เปิดขายน้ำจิ้มแล้วทั่วประเทศ 36 สาขา
ปิ่นโตนามีตาล ร้านข้าวแกงที่วิวสวยที่สุดของเมืองไทย!
แจกพิกัดรสอร่อย นางเลิ้ง ตลาดแบบไทยๆ ที่ถือกำเนิดเมื่อ 100 กว่าปีก่อน
กระเพรา & Coffee ดอกไม้บานสะพรั่ง ท่ามกลางวิวภูเขาสุดอลังการ
ฮ่องกงเปิดแคมเปญ "Hello Hong Kong" แจกตั๋วบินฟรี 500,000 ใบ!
8 ประเทศฮิต เที่ยวเอเชีย ถูกและดี ฟรีวีซ่า 2023
Jozankei เมืองออนเซ็นที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาหิมะ พิกัดลับแห่งฮอกไกโด
หมู่เกาะกิลี (Gili Islands) อีกหนึ่งอัญมณีแห่งท้องทะเลอิเหนา
33 ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า 2023 คนไทยเที่ยวได้เลย ไม่ต้องรอ!
ไทยเวียตเจ็ทพร้อมให้บริการเที่ยวบินตรง เชียงใหม่ – โอซาก้า เริ่ม ก.พ. 66 นี้
หน้า: 1
แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?
สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาวสนุกออน และผู้ที่ท่องอินเตอร์ทุกคนครับ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มาเขียนรีวิวในสนุก เลยอยากมาแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางของตัวเอง โดยการเดินทางของผมครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศ โดยผมจะพาเพื่อนๆไปหาประสบการณ์ ประเทศเพื่อนบ้านเราใกล้ๆ นี้แหละครับคือ ประเทศสิงคโปร์ครับ การเดินทางของผมครั้งนี้ ผมวางแผนไว้ตั้งแต่ต้นปีแล้ว จริงๆอยากไปเวียดนามนะครับ แต่ว่าก็ตัดสินใจมาสิงคโปร์เพราะตอนต้นปีตั่วเครื่องบินถูกมากเลยวางแผนไว้ว่า กลางปีจะเดินทางแบกเป้ ลุยเดี่ยว หาประสบการณ์ ที่มาสิงคโปร์ เพราะอยากรู้ว่าทำไม บ้านเมืองเค้าถึงเจริญจัง อยากศึกษาเรียนรู้และบันทึกไว้ในสมุดโน๊ตของผม โดยการเดินทางครั้งนี้ผมมีสมุดโน๊ตและัปากกาเป็นเพื่อนคู่ใจ พร้อมกล้องถ่ายรูปเก่าๆ และกระเป๋าเป้สะพาย พอยัดใส่บนเครื่องบินแบบไม่โหลดได้ครับ การเดินทางของผมครั้งนี้วางแผนไว้ 3 วัน 2 คืนครับ คือตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค.-6 ก.ค.55 นี้ครับ โดยเรื่องราวจะเป็นอย่างไร ผมไปที่ใหนบ้าง ติดตามกันดูครับ*************************วันที่ 4 ก.ค.55 ผมตื่นตั่้งแต่ตี 4 ครึ่ง รีบทำภารกิจให้เสร็จ ตรวจสอบสัมภาระ พาสพอร์ต ตั๋วเครื่องบิน และกระเป๋าสตางค์ให้เรียบร้อยครับ ผมออกจากที่พักก็เวลาเกือบ 6 โมงแล้วครับ โดยผมยอมเสียค่าแท๊กซี่ไปสนามบินสุวรรณภูมิ 200 กว่าบาท เพื่อไปให้ทันเที่ยวบิน 7.10 นาทีครับ ในที่สุดก็ทันครับ (วันนั้นมาสนามบินก็เกือบประตูปิดแล้วครับ เฉียดฉิวมาก)เครื่องบินออกจากสุวรรณภูิมิเวลา 7.10 น.ตามเวลามากครับ
ที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการเดินทางลุยเดียวของผมครั้งนี้คือ สมุดโน๊ตและปากกาที่ต้องบันทึกว่า่แต่ละวัีน เราไปเที่ยวที่ใหนบ้าง ได้ความรู้อะไรบ้างครับ ตอนอยู่บนเครื่องบินผมก็นั่งบันทึกเริ่มต้นการเดินทางเลยครับ
ผมนั่งบนเครื่องบินใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ และแล้วก็ถึงสนามบิน Changi แล้วครับ โดยเวลาบ้านเค้าเร็วกว่าบ้านเรา 1 ชั่วโมงครับ
ในที่สุดก็ถึงสนามบิืน changi ครับ เวลา 10.05 นาที เมื่อไปถึงแล้วก็ต้องผ่าน ด่านตรวจคนเข้าเมืองก่อนนะครับ ถ้าจะไปประเทศเค้า เตรียมหนังสือเดินทาง และตรอกแบบฟอร์มเข้าเมืองให้เรียบร้อยก่อนครับ
หลังจากผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้ว ผมก็รีบเดินไป หยิบโบชัวร์ข้อมูลแผนที่ของประเทศสิงคโปร์ อยู่ใกล้ด่านตรวจคนเมืองครับ ถ้าใครมาเที่ยวแบกเป้ แบบผมก็อยากลืมหยิบแผนที่การเดินทางก่อนออกจากสนามบินนะครับ ไม่งั้นนเดี่ยวจะหลงทางเอาได้ครับ
เมื่อได้หยิบแผนที่และ้ข้อมูล แล้ว วันนั้นมาถึงสิงคโปร์ครั้งแรกรู้สึกว่า ไม่รุ้จะไปทางใหนเริ่มต้นยังไง พอดีมีจุดให้ข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยวในสิงคโปร์เลยเค้าไปถามเจ้าหน้าที่ว่า่่จะเข้าเมืองไปได้อย่างไร วันนั้นเจ้าหน้าที่ในสนามบินก็ให้ข้อมูลดีมากครับ เดินไปที่ Singapore Visitor Center
วันนั้นผมมีแผนการว่าจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าให้ไปที่อาคาร Terminal 2 เพื่อไปต่อสถานีรถไฟฟ้าที่นั้นครับ โดยให้เดินไปตามลูกค้าศรทีี่ติดไว้ครับ
และแล้วผมก็นั่งรถไฟฟ้าจาก Terminal 1 มาถึง Terminal 2 เพื่อนั่งรถไฟฟ้าเข้าตัวเมืองสิงคโปร์ครับ แน่นอนครับว่า มาถึงแล้ว ก็ต้องซื้อตั๋ว วันนั้นเลยซื่้อเป็นบัตร Ez Link ไว้เลยครับ จ่ายไป $12 จะเป็นเงินค่าบัตร $5 และค่าโดยสารอยู่ในบัตรอีก $7 ครับ
โดยถ้าหากจะเติมเงิน ในตู้บอกว่าเติมได้ครั้งละ $10 ครับ สำหรับ บัตร Ez link แลกคืนไม่ได้นะครับ ลืมบอกไปครับ ว่าบัตรนี้สามารถใช้ทั้งบนรถเมล์ รถไฟฟ้า และใช้ซื้อของใน 7Eleven ได้ด้วย โอ้..แจ่มมากครับ
ผมนั่งรถไฟฟ้าจากสนามบิน Changi มาแล้วก็มาเปลี่ยนที่สถานี Tanar marah เพื่อนั่งรถไฟฟ้าสายสีเขียว เข้าไปในเมืองครับ เพื่อไปยังที่พักครับ (รถไฟฟ้าในสิงคโปร์มี 4 สายครับ) หากใครไปต้องดูแผนที่ให้ดีนะครับ แต่ละสถานีที่เราจะไปก็บอกไว้อยู่แล้วครับ
ผมใช้เวลานั่งรถไฟฟ้่า MRT ที่สิงคโปร์ไม่นานก็ต้องมาเปลี่ยนรถไฟฟ้าอีกครั้งที่สถานี outram park เพือเปลี่ยนจากรถไฟฟ้าสายสีเขียวเพื่อไปสายสีม่วงครับ
แผนที่รถไฟฟ้าในสิงคโปร์ครับ มี 4 สายครับ วันนั้นผมจองที่พักไว้ที่โรงแรม Backpack ไว้แถว Clarky Quay เลยต้องไปเปลี่ยนที่สถานี outram park ครับ
ผมเดินออกจากรถไฟฟ้ามาเปลี่ยนที่สถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ outram park เพื่อเดินทางไปที่สถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง Clarky Quay ตามภาพด่านล่างครับ
ในที่สุดก็ถึงสถานี Clarky Quay ตามแผนที่ ของที่พักครับ ผมเดินออกมาจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ก็พอว่า บ้านเมืองเค้าดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดีมากครับ รถไม่ติดเลยครับ
ผมเดินตรงมาเรื่อยตามแผนที่ เพื่อหาโรงแรม เพราะที่พักที่จองไว้อยู่ีในซอย Hongkong Stree และแล้วในที่สุดก็เจอแล้วครับ โรงแรมที่พักก็ถึงสักทีครับ โรงแรมแนว Backpack ราคาถูกที่จองไว้ทางอินเตอร์เน็ต เอาไว้นอนอย่างเดียว ไม่มีอะไรมาก แต่ปีถึงก็อึ้งครับ เพราะเป็น backpack hotel ที่สะอาด ถือว่าใช้ได้เลยครับ
เมื่อถึงที่พักผมก็ check in ที่พักให้เรียบร้อยครับ ถึงเตียงนอนเป็นแบบ Share bath room ครับ ห้องพักถือว่าดีนะครับ สำหรับผม ฟรี WiFi ด้วยครับ แต่เสียอย่างไม่มีผ้าขนหนู สบู่ให้ ต้องเตรียมไปเองนะครับ หากใครไป วันนั้นมาถึงผมก็ขอนอนเอาแรงก่อน พร้อมบันทึกการเดินทางใส่สมุดโน๊ตของผมก่อน จะไปเที่ยวช่วงบ่ายต่อครับ
หลังจากได้นอนพักผ่อนไปสักเกือบ 1ชั่วโมง ชักเริ่มหิว เลยเข้าไปร้าน เ่จ็ดสิบเอ็ด (7Eleven) หาอะไรทานก่อนครับ ถือว่าเป็นอาหารเที่ยงละกัน ขอบอกเลยครับว่า สินค้าแต่ละชนิดหากคูณเป็นเงินไทย ราคาแพงเหมือนกันครับ แซนวิชก็ 50 แล้วครับ ยิ่งน้ำขวดเล็กปาไปตั้ง $2.7 ประมาณ 50 กว่าบาทเลย
ทานอาหารมื้อเที่ยงเสร็จไปแล้ว ช่วงบ่ายผมก็ขอเดิน Chil out ชมเมืองใกล้ๆ ที่พัก และเดินทางไป Merlion Park ครับ โดยผมเดินตั้งแต่ River Walk ไปเรื่อย ๆ ครับ
เดินมาเรื่อยๆ สักพักก็มาเจอคุณลุงขายไอติม อยากทานเลยจัดไป $1 เป็นไอติมแท่ง ต้องทานกับเวเฟอร์ หรือกับขนมปังก็ได้แล้วแต่เลือก อร่อยมากครับเพื่อนท่านใดไปสิงคโปร์อย่าลืมซื้อทานนะครับ
ในที่สุดก็ถือแล้วครับ Merlion Park เมื่อไปถึงก็ต้องตกใจ เพราะคุณเจ้าสิงโตทะเลสัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ มันกำลังถูกปรับปรุงซ่อมแซมอยู่ ว้า...เสียดายจัง แต่ไม่เป็นไรครับ เพราะยังมีตัวลูกอยู่ครับ
ตัวแม่สิงโตทะเลถูกปรับปรุง ก็ยังมีแต่ลูกให้ดู และถ่ายรูปกันครับ ตัวลูกได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากมายเลยครับตอนที่ผมไปเที่ยว
ผมนั่งพักอยู่ตรง merlion สักพัก ก่อนจะเดินไปที Marina Bay Sands ครับ จุดนี้ก็น่าสนใจครับ ผมเดินข้ามสะพานมาก็จะเป็น Esplanade และเดินมาอีกหน่อยก็เป็น marina bay มี science museum ครับ
นอกจากนี้ผมยังเดินทางไปเที่ยวและบันทึีกการเดินทางกับสถานที่ต่างๆมากมาย ซี่งเดินไปรอบสิงคโปรได้ไม่ไกลครับ ประเทศเค้าเล็กจริงๆครับ
วันที่ 5 ก.ค.55 วันที่ 2 ของการเดินทางครั้งนี้ เดินทางไปเที่ยวเกาะ Sentosa และช่วงเย็นไปถนน Orchard พร้อมกันนี้ก่อนกลับที่พักก่อนไปชมน้ำพุยักษ์ที่ตึก Suntec Tower ครับ
วันที่ 6 ก.ค.55 วันสุดท้่ายแล้วครับ แต่จองเที่ยวบินไว้กลับตอน 2 ทุ่ม วันสุดท้ายแล้วครับ ชอบมากครับ เพราะได้ไปชมธรรมชาติและวิถีชีวิตของชาวสิงคโปร์ที่มีทั้งอินเดีย จีน และมุสลิม อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข โดยเฉพาะที่ถนนสุลตานเป็นย่านที่มีศิลปะและของไอเดียเก๋ขายที่นั้นเยอะมากครับ
การเที่ยวแต่ละครั้งของผมขาดไม่ได้เลยคือ สมุดโน็ตและปากกาไว้เขียนเพื่อบันทึกการเดินทาง และตลอด 3 วันที่ผ่านมา รู้สึกว่าตนเองเข้มแข็งและกล้าเผชิญโลกภายนอก และกล้าเดินทางไปต่างประเทศด้วยตัวเองครับ ได้ใช้ภาษาอังกฤษและนำมาพูดมากขึ้น สิ่งที่ได้รับมากที่สุดไปสิงคโปร์คือ... ความมีระเบียบวินัยครับ กลับมาเมืองไทยต้องทำให้ตัวเองมีวินัยมากขึ้นจะได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บ้านเมืองเราเจริญก้าวหน้าครับ .... วันที่ 6 ก.ค.55 เครื่องบินออกจากสนามบิน Changi เวลา 20.10 น. ถึงกรุงเทพ 21.50 น. อย่างปลอดภัยครับต้องขอขอบพระคุณเพื่อนชาว sanook ทุกคน และ ผู้ที่ท่องอินเตอร์เน็๋ตอยู่ทีี่เข้ามาชมครับ .....ครั้งหน้าหากผมไปเที่ยวใหนจะนำมา แบ่งปันบนเว็ปกระทู้นี้อีกครับ
ไม่ได้บอกที่ทานข้าวเลย ตั้ง 3 วัน มีอะไรน่ากินบ้าง
ชอบการเดินทางแบบนี้แหละ บันทึกเกือบจะทำเป็นหนังสือได้แล้ว แต่ละ ปี นี่ก็ทำแบบคุณประจำสะพายเป้หนึ่งใบ ไปเรื่อย ๆ แต่ในประเทศนะ กับประเทศลาวแค่นั้น อยากไปสิงคโปร์ มาเลย์ อินโด เวียดนาม พม่าฯ แต่ขัดกับว่าภาษาอังกฤษไม่เก่ง กลัวพูดกับเค้าไม่เข้าใจ เพื่อนที่ไปด้วยอีกคนก็ไม่แข็งแรงด้านภาษาอังกฤษ
ไม่เคยไปต่างประเทศ พออ่านแล้วทำให้เห็นภาพและลำดับขั้นตอนทำให้รู้สึกอยากลองไปจังคะ ใจหนึ่งก็กลัว ใจหนึ่งก็อยากลองขอบคุณสำหรับประสบการ์ที่แชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านนะคะ
แจ้งเตือน
ภาพและเนื้อหาต่อไปนี้ ไม่เหมาะสมแก่เด็ก และเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี