หน้า: 1 2 3

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: นักฟิสิกส์ชื่อก้องเผย ไม่มีสวรรค์และชีวิตหลังความตาย นั่นเป็นแค่เทพนิยาย  (อ่าน 24257 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 18 พ.ค. 11, 10:14 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 

สตีเฟน ฮอว์คิง นักฟิสิกส์ชื่อดังของโลก กล่าวแย้งความเชื่อของคนทั่วไปที่ว่า สวรรค์หรือชีวิตหลังความตายเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง คำกล่าวยืนยันดังกล่าวยิ่งตอกย้ำความเชื่อของเขาที่ว่า ศาสนาไม่ได้เป็นสิ่งที่ช่วยจรรโลงจิตใจ โดยเขากล่าวว่า ในช่วงขณะที่คนเรากำลังจะสิ้นลมหายใจ ไม่มีสิ่งใดกำลังรอเราหรือปรากฏขึ้น ในขณะที่สมองของเรากำลังค่อยๆหยุดการทำงาน

เขาเชื่อว่าไม่มีพระเจ้าองค์ใดๆอยู่บนโลก และมนุษย์ควรดำรงชีวิตอย่างมีคุณค่าที่สุดขณะที่ยังคงมีชีวิตอยู่บนโลก

โดยเอียน แซมเพิล ผู้สื่อข่าวสายวิทยาศาสตร์จากหนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดี้ยน ของอังกฤษ ถามฮอว์คิง วัย 69 ปีว่า เขากลัวความตายหรือไม่ เขาตอบว่า:

"ผมมีชีวิตอยู่ท่ามกลางโอกาสที่จะเสียชีวิตได้เสมอในช่วง 49 ปีที่ผ่านมา ผมไม่กลัวความตาย แต่ผมก็ไม่รีบที่จะตาย ผมมีอะไรอีกมากที่ต้องทำ ผมพิจารณาว่าสมองเป็นเช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์ที่จะหยุดทำงานก็ต่อเมื่อส่วนประกอบข้างในพัง สวรรค์หรือชีวิตหลังความตายไม่อาจบันดาลให้คอมพิวเตอร์พัง นั่นเป็นเพียงแค่เทพนิยายปรัมปราสำหรับคนที่กลัวความมืดเท่านั้น"

สตีเฟน ฮอว์คิงก็มีอาการที่เรียกว่า amyotrophic lateral sclerosis (ALS) อันเป็นอาการผิดปกติของระบบประสาทโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยมีผลกับประสาทสั่งการ (motor neurons) จนทำให้เขาใช้ชีวิตในลักษณะกึ่งอัมมพาตนับตั้งแต่ที่เขามีอายุได้ 21 ปี

การแสดงความคิดเห็นของฮอว์คิงในครั้งนี้ สอดคล้องไปกับสิ่งที่เขาเคยกล่าวไว้ในหนังสือเล่มล่าสุดของเขาที่ชื่อ "The Grand Design" ในปี 2010 ที่ว่า ผู้สร้างสรรค์ผลงานไม่จำเป็นอธิบายถึงการดำรงอยู่ของจักรวาล ซึ่งก่อให้เกิดกระแสความไม่พอใจต่อผู้นำศาสนาจำนวนมาก ที่กล่าวหาว่าเขา เป็นผู้ก่อให้เกิด "เหตุผลวิบัติ" ต่อความคิดเชิงตรรกศาสตร์

อีกทั้งหนังสือยังกล่าวยังแสดงความท้าทายต่อทฤษฎีของเซอร์ไอแซค นิวตัน ที่ว่า ระบบสุริยะไม่สามารถเกิดขึ้นได้โดยปราศจากพระเจ้า โดยแสดงเหตุผลว่า กฎแรงดึงดูดของโลก ช่วยทำให้จักรวาลสามารถสร้างตนเองขึ้นมาจากความว่างเปล่าได้ การสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเป็นเหตุผลที่ว่าอาจมีบางสิ่งบางอย่างดำรงอยู่มากกว่าความว่างเปล่า นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมจักรวาลยังคงดำรงอยู่ได้ มนุษย์ยังคงดำรงอยู่ได้ เราไม่จำเป็นต้องอ้อนวอนต่อพระเจ้าเพื่อให้จักรวาลยังคงดำเนินต่อไป

ปัจจุบัน สตีเฟน ฮอว์คิงต้องนั่งรถไฟฟ้าที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เนื่องจากเขาพูดและขยับตัวไม่ได้ ทำได้เพียงขยับนิ้วและกะพริบตา แต่ก็ยังสามารถสื่อสารกับโลกภายนอกได้ด้วยอุปกรณ์พิเศษที่สังเคราะห์เสียงพูดได้จากตัวอักษร และยังคงทำงานเป็นศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ ประจำมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ



ที่มา มติชนออนไลน์

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน

Tags:
Guest
นางฟ้า
เรทกระทู้
« ตอบ #1 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 10:54 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เชื่อหรือไม่เชื่อ
เดี่ยวตายไปก็จะรู้ ว่ามีหรือไม่มีกันแน่
แต่ถ้าไม่รีบทำความดี สร้างบุญกุศลไว้ก่อน
มันก็แก้ไม่ทัน ก็เป็นกรรมของท่านนะเออ q*022

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #2 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 11:02 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
เรื่องบางเรื่องวิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้
การที่คนเราเชื่อเรื่องสวรรค์นรก ชีวิตหลังความอย่าง อย่างน้อยก็ทำให้คสเราเกรงกลัวต่อบาป ไม่กระทำผิด
ถ้าคิดว่าไม่มีสวรรค์นรก คนคงทำบาปกันเป็นว่าเล่น
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #3 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 11:09 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

นี่ถ้าพ่อ สตีเฟน ฮอว์คิง อยู่ไทยแลนด์แล้วฝึกกรรมฐานสักหน่อยคงไม่พูดแบบนี้แน่ เพราะพิสูจน์และเห็นได้จริงแต่เป็นเฉพาะตัวเท่านั้น

ส่วนคนอื่นจะเชื่อตอนเป็นหรือไปเห็นเองตอนตายก็แล้วแต่(แต่ถ้าทำไม่ดีมาตลอดชีวิตละก็หุหุ อยู่ยาวนานแน่)แล้วจะมานั่งเสียใจทีหลังก็ไม่มีประโยชน์ หรือบางทีจะไม่มีเวลานั่งคิดด้วยซ้ำถ้าลงไปแล้ว q*001

อย่าใช้คำว่า "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ " เพราะใช้กับคนที่กล้าๆกลัวๆเท่านั้นแต่ไม่คิดหาเหตุและผลของมัน ต้องใช้คำว่า ไม่เชื่อให้พิสูจน์เอง จะดีกว่าสำหรับคนมีเหตุผลเท่านั้น q*014

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
Narokapoom
เรทกระทู้
« ตอบ #4 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 11:18 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*011ไปสู่ขุมมิจฉาถิฐิ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #5 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 11:36 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

สตีเฟ่น ฮอคิง พูดถูก ชีวิตหลังความตายไม่มี แต่ถ้าเข้าฌานจะเห็นว่ามี ที่เห็นว่ามีนั่นเป็นภาพที่ฉายไว้ล่วงหน้าแล้ว เหมือนถ่ายวีดีโอเก็บไว้ แท้จริงแล้ว เวลาไม่ได้เดินอย่างที่ใครๆเห็น เวลาในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เกิดขึ้นเกือบพร้อมกัน บางอย่างก็เกิดพร้อมกัน แต่เราไม่ทันได้เห็นเหตุการณ์ในอนาคตเพราะว่าเรายังฉายภาพปัจจุบันอยู่ ภาพในอนาคตยังไม่ปรากฎเพราะเครื่องฉายมันฉายภาพด้วยความเร็วเท่านี้ถาพในอนาคตจึงยังฉายไปไม่ถึง แต่ในฌานเราไปดูภาพในอนาคตได้ นี่คือทฤษฎีที่ว่าเวลาเดินช้าเดินเร็วไม่เท่ากัน แล้วแต่สภาวะที่จะทำให้เวลาเร็วหรือช้า นาฬิกาแค่สมมุติเวลาให้เดินด้วยเวลาที่เท่ากัน แต่เวลาจริงไม่ได้เดินเท่ากันตลอด

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ฟ.ฟัน
เรทกระทู้
« ตอบ #6 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 11:38 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

สต้เฟ่น ฮอคิงพูดถูก ชีวิตหลังความตายไม่มี ตรงกับพระในพุทธศาสนาสายสุขวิปัสโก สายปัญญาวิมุต

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
666
เรทกระทู้
« ตอบ #7 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 12:03 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ถ้ามีเหตุต้องเกิดก็เกิด ถ้าไม่มีเหตุต้องเกิดก็ไม่เกิด
อย่างตัวเค้าทำอะไรมาทำไมต้องได้รับผลแบบนี้
เผยแพร่ความเห็นผิดนี่อันตราย q*027

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
สงสาร
เรทกระทู้
« ตอบ #8 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 12:22 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เขาพูดแบบนี้คิดว่าเขาคงไม่อยากเกิดมาเป็นแบบนี้นั่นแหละถ้าสวรรค์มีจริงแล้วทำให้เขาครบ 32 มีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ไม่ต้องดิ้นรนไม่ต้องค้นหา ไม่หิวไม่เจ็บ เขาก็คงอยากไป นะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
วิทย์
เรทกระทู้
« ตอบ #9 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 12:40 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

สวรรค์ เป็นเรื่องของนามธรรม ไม่ใช่รูปธรรมครับ
เป็นสภาวะที่สุขสงบ ที่ใจ (หรือจิตวิญญาณ) เราไปอยู่ที่นั่น

ส่วนเรื่องชีวิตหลังความตาย การที่คนตายฝ่ายจิตวิญญาณ (จิตใจตาย) แล้วกลับมามีชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ (จิตใจมีชีวิต) อย่างนี้เรียกว่า มีชีวิตหลังความตาย ได้ไหม (หลายคน มีชีวิตฝ่ายร่างกาย แต่กลับตายฝ่ายจิตวิญญาณครับ)

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
เอกas
เรทกระทู้
« ตอบ #10 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 12:51 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

จงใช้ฟิสิกส์ที่คุณบอกว่าคุณเก่งอธิบายหน่อยว่าทำไมคุณถึงเป็นอย่างทุกวันนี้
ถ้าอธิบายไม่ได้หรือหาสาเหตไม่ได้ ก็อย่ามาเผยแพร่ความคิดเห็นผิดๆแบบนี้ ชีวิตหลังความตายอันนี้ไม่มีใครรู้หรอกว่ามีหรือไม่มีเพราะคนยังไม่ตายก็ไม่ได้เจอ ส่วนคนตายก็กลับมาบอกไม่ได้ แต่เรื่องสวรรค์นรกหรือปาบบุญอันนี้ก็เห็นๆอยู่ หรือว่าไม่จริงคุณ สตีเฟน ฮอว์คิง

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
มารวย
เรทกระทู้
« ตอบ #11 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 12:52 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
สต้เฟ่น ฮอคิงพูดถูก ชีวิตหลังความตายไม่มี ตรงกับพระในพุทธศาสนาสายสุขวิปัสโก สายปัญญาวิมุต

คุณเข้าใจผิดแล้วครับ สายสุขวิปัสโก ยอมรับในความดำรงอยู่หลังความตาย เพียงแต่ผู้ปฎิบัติในสายนี้จะไม่สามารถมองเห็นสิ่งอันเป็นทิพย์เพราะขาดกีฬาสมาธิ แต่เขาจะไม่ปฎิเสธว่าไม่มี สาวกของพระพุทธเจ้าทุกสายย่อมยอมรับและไม่ปฎิเสธพระไตรปิฎก

ผู้ที่ปฏิเสธนรก-สวรรค์ แล้วบอกว่าตัวเองอยู่สายสุขวิปัสโก เขาเข้าใจตัวเองผิดครับ ความจริงเขาเป็นมิจฉาทิฐิ ต่อให้เป็นพระที่มีลูกศิษย์มากมายเป็นที่นับถือมากแค่ไหนก็มีนรกเป็นที่ไป
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
123
เรทกระทู้
« ตอบ #12 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 13:56 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เป็นมิจฉาทิฎฐิแบบอุจเฉททิฎฐิ คือ ตายแล้วสูญ ไม่มีอะไรเลย เสียดายเขาไม่รู้จักการทำกรรมฐาน ถ้าเขาฝึกกรรมฐานได้ เชื่อว่าโลกจะได้เห็นทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่น่าตื่นตะลึงจากอัจฉริยะผู้นี้

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
รักประเทศ
เรทกระทู้
« ตอบ #13 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 14:09 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

มีชาวพุทธมาแสดงความเห็นตั้งหลายคน
มีคนภามว่าเมื่อตายแล้วไปไหน
พระพูทธเจ้าตอบว่า
เมื่อเชื้อหมดไฟก็ดับ

เป็นชาวพุทธแท้ๆไม่รู้รับความเชื่อมาแต่ไหนถึงคิดว่ามีชีวิตหลังความตาย

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
พิจารณา
เรทกระทู้
« ตอบ #14 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 15:34 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ตาเบื๊อกนี่ บาปลงโทษ อยู่ ยัง ไม่รู้จัก หาสาเหตุ ของบาป
ยังจะมาเผยแพร่ ความโง่ แสนมั่ว ต่ออีก

ไม่ได้ แสดง ภูมิ ปัญญา ใดๆ เลย ว่า
ใช้ เหตุผล ข้อ ไหน มาบอกว่า ตายแล้วสูญ
ใช้แต่ "ความมั่นใจส่วนตัว" คุณนี่มั่วชัดเจน

ความฉลาด พระพุทธองค์ เหนือกว่าไม่รู้กี่ขุม
อย่าเทียบเลย มันต่างระดับ จนเทียบไม่ไ้ด้

ยกตัวอย่าง เรื่อง บรมครูฯ ท่านมี ญาณ(ปัญญารู้)
*ต้อง เข้าใจว่า ยุคนั้น ไม่มีเครื่องมือ วิทยาศาสตร์ ท่านรู้ได้อย่างไร*
1.ท่านกล่าวว่าโลกกลมเหมือนผลส้ม ไว้เมื่อ 2500 กว่าปีมาแล้ว
2. ท่านกล่าวเรื่อง เด็กในครรภ์ ว่า กี่วันเป็นอย่างนั้น กี่เดือนเป็นอย่างนี้
อะไรงอกบ้าง ซึ่ง วิทยาศาสตร์ กว่าจะรู้ตามหลัง ไม่รู้กี่พันปี
3. ท่านกล่าวเรื่อง โลก คือ ดินตั้งอยู่บนน้ำ น้ำตั้งอยู่บนลม ลมตั้งอยู่นอากาศ
ซึ่ง ดินตั้งบนน้ำคือ โลกมีน้ำมากกว่าดิน / น้ำตั้งอยู่ยนลม คือ ลมห่อโลกไว้ / ลมตั้งบนอากาศ คือ อากาศนิ่งๆไ่ม่มีลม ห่อไว้อีกที...
มีอีกหลายอย่าง ในบันทึก มากมาย...รวมทั้ง นรก สวรรค์ พรหมโลก นิพพาน..

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
มนุษย์คนหนึ่ง
เรทกระทู้
« ตอบ #15 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 15:37 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

รอจนกว่าจะตายเดี่ยวก็รู้เองว่าชีวิตหลังความตายมีจริงหรือเปล่า แต่ก็บอกกับใครไม่ได้ว่าเป็นอย่างไง รู้ด้วยตัวเอง

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
oof
เรทกระทู้
« ตอบ #16 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 15:49 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
มีชาวพุทธมาแสดงความเห็นตั้งหลายคน
มีคนภามว่าเมื่อตายแล้วไปไหน
พระพูทธเจ้าตอบว่า
เมื่อเชื้อหมดไฟก็ดับ

เป็นชาวพุทธแท้ๆไม่รู้รับความเชื่อมาแต่ไหนถึงคิดว่ามีชีวิตหลังความตาย
เชื้อคือกิเลสตัณหาเมื่อยังไม่หมดไฟก็ยังไม่ดับ
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
เฮ้อ...ชีวิต
เรทกระทู้
« ตอบ #17 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 15:54 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ผมว่ามันก็จริงของเขานะ เพราะผมคิดว่าชีวิตร่างกายของเรามันก็เป็นเพียงแค่เซลล์หลายๆเซลล์มารวมกันเท่านั้น และแน่นอนของทุกอย่างยอมมีวันหมดอายุ แต่จะช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา ถ้าพระเจ้าเป็นผู้สร้างโลกจริงๆ ทำไมเรายังต้องมานั่งศึกษาค้นคว้าหายามารักษาโรคกันเองล่ะ (ถ้าเป็นคุณ ทำอะไรขึ้นมาซักอย่างแล้วจะไม่ทำให้ดีที่สุดเหรอ?) แต่การที่มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับชีวิตหลังความตายมันก็ดี คนเราจะได้รู้สึกกลัวที่จะทำผิดกันบ้าง สังคมจะได้ดีขึ้น เอาเป็นว่าใช้ชีวิตให้คุ้มที่สุดโดยไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อมต่างๆรอบตัวก็แล้วกันนะ ถึงวันไหนที่เซลล์ของเรามันตายไปชีวิตเราก็จบลงไปเอง q*013q*020

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
god......
เรทกระทู้
« ตอบ #18 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 16:18 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

รู้ได้ไง เคยตายเหรอ
q*00

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
พวกรู้ไม่จิริงมันเยอะ
เรทกระทู้
« ตอบ #19 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 16:32 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
มีชาวพุทธมาแสดงความเห็นตั้งหลายคน
มีคนภามว่าเมื่อตายแล้วไปไหน
พระพูทธเจ้าตอบว่า
เมื่อเชื้อหมดไฟก็ดับ

เป็นชาวพุทธแท้ๆไม่รู้รับความเชื่อมาแต่ไหนถึงคิดว่ามีชีวิตหลังความตาย

ผมว่าคุณนี่เหมือนเก่งเนอะ เคยได้ยินว่าพระพุทธเจ้า ไปโปรดมารดาบนสวรรค์ไหมครับ คนเรานี่ก็เเปลกนะครับ ชอบคิดว่าอะไรที่พิสูจน์ไม่ได้เเปลว่ามันไม่มี ถ้าย้อนกลับไปพันปีที่เเล้วบอกว่ามีคลื่นวิทยุจะมีคนเชื่อมะ
เเต่มันก็มีอยู่รอบตัวเราจิงๆ เพียงเเต่ว่าคุณจะพิสูจน์ยังไง เมื่อผลิตวิทยุได้ก็รู้ว่ามีอยู่จิง ภพภูมิเขาก็ไม่ได้พิสูจน์โดยการใช้สมองคิดนะครับ เขาใช้สมาธิดู เรามีศาสดาที่ประเสริฐยิ่งครับ อย่าไปเชื่อคุณคนที่ตัวมันยังพิการอย่างนั้นเลยปัญญามันเทียบกับศาสดาเราเท่าหางอึ่ง
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #20 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 16:48 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

สตีเฟน ฮอว์คิง คิดเหมือนผมเลยครับ โลกนี้ไม่มีวิญญาณ ไม่มีผี ไม่มีชีวิตหลังความตาย ไม่มีอะไรเลย สิ่งมีชีวิตเกิดจากความบังเอิญ บังเอิญที่สะสารบางอย่างมาผสมเข้ากัน ผสมกันไป ผสมกันมา จนซับซ้อนมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็น อะไรซักอย่างที่สามารถก็อปปี้ตัวเองขึ้นมาได้ ใช้เวลานั้นพันล้านปี แล้ววิวัฒนาการมาเรื่อยๆ เปลี่ยนรูปมาเรื่อยๆ จนมาถึงปัจจุบัน เป็นมนุษย์ เป็นสัตว์ เป็นพืช ในอนาคตก็จะเปลี่ยนรูปร่างไปอีก สมองของคนเราก็เป็นแค่กลไกอันหนึ่งที่มีวิวัฒนาการมาเรื่อยๆ จนเป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ถ้าวิวัฒนาการมาดี ก็ฉลาด ถ้าวิวัฒนาการมาไม่ดี ก็เป็นโรค อย่างที่สตีเฟน เป็นอยู่ เมื่อหมดอายุขัย สะสารเหล่านี้ก็ย่อยสลายไป กลับสู่ดิน แล้วถูกพืช หรือ สิ่งมีชีวิตอื่นๆ นำไปใช้ต่อไป วนเวียนไปอย่างนี้ สมองเป็นตัวควบคุมทุกอย่าง เป็นตัวสร้างความคิด สร้างความกลัว สร้างจินตนาการ ทำให้เราจินตนาการไปเรื่อยๆ ว่า มีผี มีวิญญาณ มีชีวิตหลังความตาย มีพระเจ้า ฯลฯ ทั้งที่จริงๆ แล้วไม่มี ไม่มีอะไรเลย แม้แต่เวรกรรม ผมก็ไม่เชื่อว่ามีจริง (แต่ผมก็ไม่คิดจะไปก่อกรรมก่อเวรที่ไหนหรอกนะครับ ผมไม่ทำความชั่วเพราะผมมีความคิดที่ดี ไม่ใช่เพราะกลัวเวรกรรมครับ)
ผมคิดแบบนี้ครับ ส่วนชาวพุทธ ชาวคริสต์ ชาวอิสลาม หรือชาวอะไรทั้งหลาย จะคิดยังไงก็คิดไปเถอะครับ หวังว่าชาวพุทธทั้งหลาย คงไม่ว่าผมว่าเป็นบัวใต้น้ำใต้ตมนะครับ
ใจกว้างๆ หน่อย คนที่คิดต่าง ไม่ใช่มารเสมอไป

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #21 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 17:07 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
สตีเฟน ฮอว์คิง คิดเหมือนผมเลยครับ โลกนี้ไม่มีวิญญาณ ไม่มีผี ไม่มีชีวิตหลังความตาย ไม่มีอะไรเลย สิ่งมีชีวิตเกิดจากความบังเอิญ บังเอิญที่สะสารบางอย่างมาผสมเข้ากัน ผสมกันไป ผสมกันมา จนซับซ้อนมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็น อะไรซักอย่างที่สามารถก็อปปี้ตัวเองขึ้นมาได้ ใช้เวลานั้นพันล้านปี แล้ววิวัฒนาการมาเรื่อยๆ เปลี่ยนรูปมาเรื่อยๆ จนมาถึงปัจจุบัน เป็นมนุษย์ เป็นสัตว์ เป็นพืช ในอนาคตก็จะเปลี่ยนรูปร่างไปอีก สมองของคนเราก็เป็นแค่กลไกอันหนึ่งที่มีวิวัฒนาการมาเรื่อยๆ จนเป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ถ้าวิวัฒนาการมาดี ก็ฉลาด ถ้าวิวัฒนาการมาไม่ดี ก็เป็นโรค อย่างที่สตีเฟน เป็นอยู่ เมื่อหมดอายุขัย สะสารเหล่านี้ก็ย่อยสลายไป กลับสู่ดิน แล้วถูกพืช หรือ สิ่งมีชีวิตอื่นๆ นำไปใช้ต่อไป วนเวียนไปอย่างนี้ สมองเป็นตัวควบคุมทุกอย่าง เป็นตัวสร้างความคิด สร้างความกลัว สร้างจินตนาการ ทำให้เราจินตนาการไปเรื่อยๆ ว่า มีผี มีวิญญาณ มีชีวิตหลังความตาย มีพระเจ้า ฯลฯ ทั้งที่จริงๆ แล้วไม่มี ไม่มีอะไรเลย แม้แต่เวรกรรม ผมก็ไม่เชื่อว่ามีจริง (แต่ผมก็ไม่คิดจะไปก่อกรรมก่อเวรที่ไหนหรอกนะครับ ผมไม่ทำความชั่วเพราะผมมีความคิดที่ดี ไม่ใช่เพราะกลัวเวรกรรมครับ)
ผมคิดแบบนี้ครับ ส่วนชาวพุทธ ชาวคริสต์ ชาวอิสลาม หรือชาวอะไรทั้งหลาย จะคิดยังไงก็คิดไปเถอะครับ หวังว่าชาวพุทธทั้งหลาย คงไม่ว่าผมว่าเป็นบัวใต้น้ำใต้ตมนะครับ
ใจกว้างๆ หน่อย คนที่คิดต่าง ไม่ใช่มารเสมอไป
คิดต่างไม่มีใครว่าหรอกครับ ตายไปอดอยากก็ไม่มี ใครเขาไปหิวกับคุณ
กรรมใครทำคนนั้นก็รับครับ คิดอย่างโง่ๆนะครับ ถ้ามันไม่มีจริง คุณเลวก็ไม่เสียหายอะไร เเต่ถ้ามันมีจริงคุณนั้นเเหละที่รับกรรมเเสนสาหัส ทางมีให้เดิน 2 ทาง คุณเลือกเดินทางเสี่ยงที่คุณก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า ใช้ความคิดของตัวเองเป็นที่ตั้ง ในขณะที่คุณเกิดมาในที่ๆมีพุทธศาสนา ศาสนาเเห่งเหตุผลนะครับ ไม่ได้สอนให้เชื่อ ปัญญาผมว่าเกิดจากคุณไม่เคยศึกษาพุทธศาสนามากกว่า ไอสไตน์ก่อนตายยังมาสนใจพุทธศาสนา เรื่องชีวิตหลังความตายนี่เป็น มีคนที่มีหลักฐานว่าเขาไปเจอมาจิงเช่นพันเอกเสนาะจินตรัตน์ ตายเเล้วฟื้นสามครั้งหลักฐานอะไรก็มี ศึกษาได้ครับ อย่าอาศัยว่าคิดเหมือนกูเเล้วมันถูกต้อง นี่ไม่ได้โกรธเกลียดนะครับ อยากให้ไปศึกษามากกว่า
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
คนหลงยุค
เรทกระทู้
« ตอบ #22 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 17:38 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ตายแล้วเจอกันนะครับ ทุกๆท่าน q*013

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
กลละยอ
เรทกระทู้
« ตอบ #23 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 18:43 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ของแบบนี้ รู้ได้เฉพาะตน เป็นปัจจัตตัง.. ต้องใช้สติฝึกตนเองอยู่เสมอ ว่าขณะนี้เรากำลังทำอะไรอยู่ เอาแค่นี้พอ คือให้รู้ตัวเอง รู้ปัจจุบันนั่นแหละดีที่สุด เพราะทุกอย่างมันไม่แน่นอน มีแต่นอนแน่ คือต้องตายทุกคน ควรดำรงชีวิตอยู่ด้วยการไม่ประมาท ตามพระพุทธเจ้าสอน สุดท้ายขอฝากคำกลอนสอนใจของพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี ดังนี้ อดีต คือความฝัน ปัจจุบัน คือความจริง อนาคต คือสิ่งไม่แน่นอน...

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
111111
เรทกระทู้
« ตอบ #24 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 19:09 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ผู้ที่ต่อว่า สตีเฟน ฮอว์คิง ลองกลับไปคิดดูนะว่าตัวท่านเองศึกษาเรื่องความเชื่อ หรือศาสนาดีแค่ไหน ขอให้กลับไปเริ่มศึกษาดูหลายๆต้นตอของศาสนาท่านจนถึงปัจบันว่าท่านรู้ดีแล้วหรือยัง หรือ แค่ฟังคนอื่นพูดให้ฟัง
เราเชื่อว่าถ้าท่านศึกษาอย่างละเอียดท่านคงจะเข้าใจ ว่า ทำไมเราจะต้องเชื่อเรื่องศาสนา และทำไมเมื่อครั้งอดีตกาลจึงต้องมี ศาสนา
และ ให้ลองย้อนกลับไปเมื่อครั้งอดีตกาล ถ้าหากท่าน มีโอกาศ ได้เป็นคน
ริเริ่มสร้างศาสนา ท่านคิดว่าศาสนาของท่านจะเป็น รูปแบบไหน

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ไร้ตัวตน
เรทกระทู้
« ตอบ #25 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 19:17 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
สตีเฟน ฮอว์คิง คิดเหมือนผมเลยครับ โลกนี้ไม่มีวิญญาณ ไม่มีผี ไม่มีชีวิตหลังความตาย ไม่มีอะไรเลย สิ่งมีชีวิตเกิดจากความบังเอิญ บังเอิญที่สะสารบางอย่างมาผสมเข้ากัน ผสมกันไป ผสมกันมา จนซับซ้อนมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็น อะไรซักอย่างที่สามารถก็อปปี้ตัวเองขึ้นมาได้ ใช้เวลานั้นพันล้านปี แล้ววิวัฒนาการมาเรื่อยๆ เปลี่ยนรูปมาเรื่อยๆ จนมาถึงปัจจุบัน เป็นมนุษย์ เป็นสัตว์ เป็นพืช ในอนาคตก็จะเปลี่ยนรูปร่างไปอีก สมองของคนเราก็เป็นแค่กลไกอันหนึ่งที่มีวิวัฒนาการมาเรื่อยๆ จนเป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ถ้าวิวัฒนาการมาดี ก็ฉลาด ถ้าวิวัฒนาการมาไม่ดี ก็เป็นโรค อย่างที่สตีเฟน เป็นอยู่ เมื่อหมดอายุขัย สะสารเหล่านี้ก็ย่อยสลายไป กลับสู่ดิน แล้วถูกพืช หรือ สิ่งมีชีวิตอื่นๆ นำไปใช้ต่อไป วนเวียนไปอย่างนี้ สมองเป็นตัวควบคุมทุกอย่าง เป็นตัวสร้างความคิด สร้างความกลัว สร้างจินตนาการ ทำให้เราจินตนาการไปเรื่อยๆ ว่า มีผี มีวิญญาณ มีชีวิตหลังความตาย มีพระเจ้า ฯลฯ ทั้งที่จริงๆ แล้วไม่มี ไม่มีอะไรเลย แม้แต่เวรกรรม ผมก็ไม่เชื่อว่ามีจริง (แต่ผมก็ไม่คิดจะไปก่อกรรมก่อเวรที่ไหนหรอกนะครับ ผมไม่ทำความชั่วเพราะผมมีความคิดที่ดี ไม่ใช่เพราะกลัวเวรกรรมครับ)
ผมคิดแบบนี้ครับ ส่วนชาวพุทธ ชาวคริสต์ ชาวอิสลาม หรือชาวอะไรทั้งหลาย จะคิดยังไงก็คิดไปเถอะครับ หวังว่าชาวพุทธทั้งหลาย คงไม่ว่าผมว่าเป็นบัวใต้น้ำใต้ตมนะครับ
ใจกว้างๆ หน่อย คนที่คิดต่าง ไม่ใช่มารเสมอไป
/ ผมเก็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเลยครับกับความเห็นของคุณ
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ศิษย์หลวงตาบัว
เรทกระทู้
« ตอบ #26 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 19:37 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เฮ้อ..ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะกรรม ยังไม่สำนึกอีก ขนาดพูดไม่ได้ยังแสดงความคิดที่แย่มากๆ เราชาวพุทธอย่าเชื่อตาบ๊องส์นี่ บาปมีบุญมีนรกมีสวรรค์ ใครทำดีหรือบาปก็จะได้รับผลกรรมนั้น..

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ชายเหวง
เรทกระทู้
« ตอบ #27 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 19:37 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อืม จงมุดอยู่ใต้บัวต่อไปเถิด น่าสงสาร

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #28 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 20:15 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*023ปลาอยู่แต่ในน้ำย่อมไม่รู้ว่ามีท้องฟ้า นกอยู่แต่บนฟ้าย่อมไม่รู้ว่ามีใต้ท้องน้ำ เช่นใด มีอะไรต่ออะไรที่มนุษย์ผู้โง่เขลา ยังไม่รู้อีกเยอะ
แต่อย่างน้อย ควรรู้ไว้ว่า บาปกรรม มีจริง สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ ไม่ต้องรอ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
นกเล็ก
เรทกระทู้
« ตอบ #29 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 20:21 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เขาปฏิเสธพระเจ้า เขาก็ปฏิเสธการทรงสร้างของพระเจ้า เขาเรียกว่าคนบาป

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
คนในนิยาย
เรทกระทู้
« ตอบ #30 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 20:31 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อ่านกระทู้นี้แล้วชอบจัง ชอบตรงความเห็นของแต่ละคนได้แลกเปลี่ยนทัศนคติกัน

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ศึกษามาบ้างเล็กน้อย
เรทกระทู้
« ตอบ #31 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 20:37 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ที่ผมมั่นใจในคำสอนของพระพุทธองค์ คือเมือ ตายแล้วจะเกิดในภพใหม่ทันที่ครับ คือ เกิดในภพที่สูงกว่า ภพเดิม หรือต่ำกว่า เท่านั้นครับ
นั้นคือหลังจากตายแล้วเกิดในสามภพนี้

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
วิทยาศาสตร์แมน
เรทกระทู้
« ตอบ #32 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 20:44 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

แล้วพระศาสดาทั้งหลายตอบได้ไหม ว่า
จักรวาลนี้กำเนิดมาได้อย่างไร

แล้ว หลุมดำในอวกาศคืออะไร

ตอบได้เมื่อไหร่ โทรมาบอกด้วยนะ หรือโทรจิตมาก็ได้
แล้วจะนับถือ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #33 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 20:48 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ว่าแต่เขารู้ได้ไงว่าไม่มี หรือว่าเขาเคยตายมาเเล้ว

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
วิทยาศาสตร์แมน
เรทกระทู้
« ตอบ #34 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 20:50 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

โลกนี้กำเนิดมาหลายล้านปีกว่าจะเริ่มมีสิ่งมีชีวิต
แล้วสิ่งมีชีวิตจะมีความวิเศษกว่าโลกนี้ได้อย่างไร
คนในองค์การนาซ่าเค้ามีข้อมูลอีกมากมายที่ยังไม่ได้เผยแพร่ออกมาอย่างเป็นทางการ

ไม่รู้ว่าพวกที่มัวงมงายรู้แล้วจะฉลาดขึ้นได้เยอะไหม

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
วิทยาศาสตร์แมน
เรทกระทู้
« ตอบ #35 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 20:54 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
สตีเฟ่น ฮอคิง พูดถูก ชีวิตหลังความตายไม่มี แต่ถ้าเข้าฌานจะเห็นว่ามี ที่เห็นว่ามีนั่นเป็นภาพที่ฉายไว้ล่วงหน้าแล้ว เหมือนถ่ายวีดีโอเก็บไว้ แท้จริงแล้ว เวลาไม่ได้เดินอย่างที่ใครๆเห็น เวลาในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เกิดขึ้นเกือบพร้อมกัน บางอย่างก็เกิดพร้อมกัน แต่เราไม่ทันได้เห็นเหตุการณ์ในอนาคตเพราะว่าเรายังฉายภาพปัจจุบันอยู่ ภาพในอนาคตยังไม่ปรากฎเพราะเครื่องฉายมันฉายภาพด้วยความเร็วเท่านี้ถาพในอนาคตจึงยังฉายไปไม่ถึง แต่ในฌานเราไปดูภาพในอนาคตได้ นี่คือทฤษฎีที่ว่าเวลาเดินช้าเดินเร็วไม่เท่ากัน แล้วแต่สภาวะที่จะทำให้เวลาเร็วหรือช้า นาฬิกาแค่สมมุติเวลาให้เดินด้วยเวลาที่เท่ากัน แต่เวลาจริงไม่ได้เดินเท่ากันตลอด

เห็นด้วยครับ
สตีเฟน ฮอว์คิง
เป็นคนฉลาดระดับต้นๆของโลก
แล้วคนที่ไปว่าเค้่าอย่าว่าแต่ระดับโลกเลยระดับตำบลยังไม่เข้าขั้นเลย
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
รักประเทศไทย
เรทกระทู้
« ตอบ #36 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 21:22 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
ผมว่าคุณนี่เหมือนเก่งเนอะ เคยได้ยินว่าพระพุทธเจ้า ไปโปรดมารดาบนสวรรค์ไหมครับ คนเรานี่ก็เเปลกนะครับ ชอบคิดว่าอะไรที่พิสูจน์ไม่ได้เเปลว่ามันไม่มี ถ้าย้อนกลับไปพันปีที่เเล้วบอกว่ามีคลื่นวิทยุจะมีคนเชื่อมะ
เเต่มันก็มีอยู่รอบตัวเราจิงๆ เพียงเเต่ว่าคุณจะพิสูจน์ยังไง เมื่อผลิตวิทยุได้ก็รู้ว่ามีอยู่จิง ภพภูมิเขาก็ไม่ได้พิสูจน์โดยการใช้สมองคิดนะครับ เขาใช้สมาธิดู เรามีศาสดาที่ประเสริฐยิ่งครับ อย่าไปเชื่อคุณคนที่ตัวมันยังพิการอย่างนั้นเลยปัญญามันเทียบกับศาสดาเราเท่าหางอึ่ง


กำเนิด

สัตว์โลกที่ไปเกิดอยู่ในภูมิทั้ง ๓๑ ภูมินั้น ย่อมเกิดในกำเนิดทั้ง ๔ คือ * คำว่า "สัตว์ หรือ สัตว์โลก" แปลว่า "ผู้ที่ยังข้องอยู่" คือยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพภูมิต่าง ๆ ฉะนั้น จึงหมายรวมถึงมนุษย์ เทวดา พรหม ในทุกภพทุกภูมิและสัตว์ในอบายภูมิทั้ง ๔ มิได้หมายเอาเฉพาะสัตว์ดิรัจฉานประเภทเดียว

๑. ชลาพุชะ เกิดในครรภ์
๒. อัณฑชะ เกิดในไข่
๓. สังเสทชะ เกิดในเถ้าไคล
๔. โอปปาติกะ เกิดผุดขึ้น
(ม. มู. ๑๒/๑๖๙/๑๔๗)
ชลาพุชะกำเนิดได้แก่สัตว์ที่เกิดในมดลูก คือ มนุษย์และสัตว์ดิรัจฉานที่คลอดออกมาเป็นตัวและเลี้ยงลูกด้วยนม เช่น โค กระบือ แมว เป็นต้น
อัณฑชะกำเนิด ได้แก่สัตว์ดิรัจฉานที่ออกมาเป็นไข่ก่อนแล้วจึงฟักออกมาเป็นตัว เช่น เป็ด ไก่ นก ปลา เป็นต้น
ชลาพุชะกำเนิดและอัณฑชะกำเนิดนี้ รวมเรียกว่า คัพภเสยยกะกำเนิด เพราะเกิดอยู่ในครรภ์ของมารดาก่อนภายหลังจึงออกจากครรภ์
สังเสทชะกำเนิด ได้แก่สัตว์ทั้งหลายที่เกิดโดยไม่ต้องอาศัยท้องพ่อแม่ แต่อาศักเกิดจากต้นไม้ ผลไม้ ดอกไม้ หรือของโสโครก หรือที่ชุ่มชื้น เช่น เชื้อโรค และสัตว์เซลเดียว มี อมีบ้า พลามีเซี่ยม เป็นต้น
โอปปาติกะกำเนิด ได้แก่สัตว์โลกที่เกิดมาโดยไม่ได้อาศัยพ่อแม่และของโสโครก หรือที่ชุ่มชื้น แต่อาศัยอดีตกรรมอย่างเดียว และเมื่อเกิดก็เติบโตขึ้นทันที เช่น พวกสัตว์นรก เปรต เทวดา พรหม มนุษย์ในสมัยต้นกัป* เป็นต้น * ตามหลักพระพุทธศาสนาถือว่า มนุษย์ที่มีขึ้นในยุคแรกในโลกนี้ เรียกว่า "มนุษยืในสมัยต้นกัป" และมนุาย์ในยุคแรกนี้จุติมาจากพรหมโลกชั้นอาภัสสรา ซึ่งได้สำเร็จทางใจ มีปีติเป็นอาหาร มีรัศมีในตัวเอง สัญจรไปมาในอากาศ เมื่อมาอาศัยโลกนี้นานเข้า ร่างกายก็วิวัฒนาการขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเป็นมนุษย์หญิงชายสืบเชื้อสายกันมาจนถึงปัจจุบัน
อัคคัญญสูตร ที. ปา. ๑๑/๕๖/๙๒-๙๓

มารดาพระพุทธเจ้าไปเกิดเป็นเทวดาแล้วนะครับ
ไม่ได้มีชีวิตหลังความตาย
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
wee0000000
เรทกระทู้
« ตอบ #37 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 21:26 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
สตีเฟ่น ฮอคิง พูดถูก ชีวิตหลังความตายไม่มี แต่ถ้าเข้าฌานจะเห็นว่ามี ที่เห็นว่ามีนั่นเป็นภาพที่ฉายไว้ล่วงหน้าแล้ว เหมือนถ่ายวีดีโอเก็บไว้ แท้จริงแล้ว เวลาไม่ได้เดินอย่างที่ใครๆเห็น เวลาในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เกิดขึ้นเกือบพร้อมกัน บางอย่างก็เกิดพร้อมกัน แต่เราไม่ทันได้เห็นเหตุการณ์ในอนาคตเพราะว่าเรายังฉายภาพปัจจุบันอยู่ ภาพในอนาคตยังไม่ปรากฎเพราะเครื่องฉายมันฉายภาพด้วยความเร็วเท่านี้ถาพในอนาคตจึงยังฉายไปไม่ถึง แต่ในฌานเราไปดูภาพในอนาคตได้ นี่คือทฤษฎีที่ว่าเวลาเดินช้าเดินเร็วไม่เท่ากัน แล้วแต่สภาวะที่จะทำให้เวลาเร็วหรือช้า นาฬิกาแค่สมมุติเวลาให้เดินด้วยเวลาที่เท่ากัน แต่เวลาจริงไม่ได้เดินเท่ากันตลอด
โห พี่ สอนมั้งดิ ได้ขนาดนี้เเล้วหรอ
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
สุดยอด
เรทกระทู้
« ตอบ #38 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 21:27 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ที่คนนี้พูดจริงหรือไม่จริง ผมไม่รู้ แต่ที่พูดว่า

"มนุษย์ควรดำรงชีวิตอย่างมีคุณค่าที่สุดขณะที่ยังคงมีชีวิตอยู่บนโลก"

ผมว่าก็ตรงตามศาสนาทุกศาสนาแล้ว ตรงกับแก่นแท้ที่ศาสนาทุกศาสนาต้องการให้ทุกคนเป็นอยู่แล้ว

เรื่องหลังความตาย อาจจะเป็นเครื่องมือของศาสนาเพื่อให้คนทำความดี ทำตนให้มีคุณค่าที่สุด ก็ได้

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #39 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 21:34 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ถูกต้องนะครับมันเป็นปัจจัตตัง มันเกินปัญญาคนอย่างเราๆ ยอมรับบ้างซิ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
,
เรทกระทู้
« ตอบ #40 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 22:54 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
แล้วพระศาสดาทั้งหลายตอบได้ไหม ว่า
จักรวาลนี้กำเนิดมาได้อย่างไร

แล้ว หลุมดำในอวกาศคืออะไร

ตอบได้เมื่อไหร่ โทรมาบอกด้วยนะ หรือโทรจิตมาก็ได้
แล้วจะนับถือ
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
joez
เรทกระทู้
« ตอบ #41 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 23:33 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ผมคิดว่าทุกคนเกิดมาย่อมมีเหตุและผลของมันเอง แล้วอะไรละคือตัวกำหนดคนทุกคนให้แตกต่างกัน ถ้าไม่ใช่บาปบุญที่เคยทำกันมาเมื่อชาติปางก่อน ผมขอถามคนที่ไม่เชื่อหน่อยล่ะกัน ว่าทำไมคนนี้เกิดมาหล่อ คนนี้เกิดมาสวย คนนี้เกิดมารวย แต่อีกคนเกิดมาจน เกิดมาขี้เหล่ และทำไมคนทุกคนถึงเกิดมาไม่เท่าเทียมกันซักคน สมมุติว่าถ้าไม่มีบาปบุญหรือเวรกรรมตามที่พวกคุณพูดเนี่ยคนเราน่าจะเกิดมาเท่าเทียมกันผมว่าน่าจะยังพอให้เชื่อบ้างว่าไม่มีจริงๆ แต่ผมเห็นมันแตกต่างกันอย่างฟ้ากับเหวเชียวระหว่างคนรวยกับคนจนอะ เอาง่ายๆขนาดเป็นพี่เป็นน้องกันความเก่งความฉลาดยังสู้กันไม่ได้เลย ใครที่ไม่เชื่อก็ลองเอาคำพูดของผมลองคิดไตร่ตรองดูซักนิดนะครับ ถึงผมจะพิสูนจ์ไม่ได้ว่ามันจะมีหรือไม่มี แต่ผมคิดว่าผมทำบุญ และก็สร้างกุศลตอนที่เป็นคนไว้ก่อนดีกว่า เผื่อถ้าเกิดผมตายไปแล้วมันมีนรกสวรรค์ และบาปบุญขึ้นมาจริงๆผมจะได้อนิจสงค์จากที่ผมเชื่อตรงนี้ด้วย เค้าเรียกว่ากันไว้ดีกว่าแก้ไงครับ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ไม่ประมาท
เรทกระทู้
« ตอบ #42 เมื่อ: 19 พ.ค. 11, 23:54 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ชีวิตที่สมบูรณ์หรือบกพร่องเกิดจากกรรม..
กรรมเกิดจากการกระทำ....
ผึกจิตแล้วจะเห็นตามจริงไม่มีอคติ
ชีวิตหลังความตายถ้ามันจะมีมันก็อาจจะมี..
หรือถ้ามันไม่มีไม่ประมาทดีที่สุด
จะได้ไม่ต้องมานั่งถามกันว่าเกิดมาทำไม..

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
Gilardino
เรทกระทู้
« ตอบ #43 เมื่อ: 20 พ.ค. 11, 00:54 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
สตีเฟน ฮอว์คิง คิดเหมือนผมเลยครับ โลกนี้ไม่มีวิญญาณ ไม่มีผี ไม่มีชีวิตหลังความตาย ไม่มีอะไรเลย สิ่งมีชีวิตเกิดจากความบังเอิญ บังเอิญที่สะสารบางอย่างมาผสมเข้ากัน ผสมกันไป ผสมกันมา จนซับซ้อนมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็น อะไรซักอย่างที่สามารถก็อปปี้ตัวเองขึ้นมาได้ ใช้เวลานั้นพันล้านปี แล้ววิวัฒนาการมาเรื่อยๆ เปลี่ยนรูปมาเรื่อยๆ จนมาถึงปัจจุบัน เป็นมนุษย์ เป็นสัตว์ เป็นพืช ในอนาคตก็จะเปลี่ยนรูปร่างไปอีก สมองของคนเราก็เป็นแค่กลไกอันหนึ่งที่มีวิวัฒนาการมาเรื่อยๆ จนเป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ถ้าวิวัฒนาการมาดี ก็ฉลาด ถ้าวิวัฒนาการมาไม่ดี ก็เป็นโรค อย่างที่สตีเฟน เป็นอยู่ เมื่อหมดอายุขัย สะสารเหล่านี้ก็ย่อยสลายไป กลับสู่ดิน แล้วถูกพืช หรือ สิ่งมีชีวิตอื่นๆ นำไปใช้ต่อไป วนเวียนไปอย่างนี้ สมองเป็นตัวควบคุมทุกอย่าง เป็นตัวสร้างความคิด สร้างความกลัว สร้างจินตนาการ ทำให้เราจินตนาการไปเรื่อยๆ ว่า มีผี มีวิญญาณ มีชีวิตหลังความตาย มีพระเจ้า ฯลฯ ทั้งที่จริงๆ แล้วไม่มี ไม่มีอะไรเลย แม้แต่เวรกรรม ผมก็ไม่เชื่อว่ามีจริง (แต่ผมก็ไม่คิดจะไปก่อกรรมก่อเวรที่ไหนหรอกนะครับ ผมไม่ทำความชั่วเพราะผมมีความคิดที่ดี ไม่ใช่เพราะกลัวเวรกรรมครับ)
ผมคิดแบบนี้ครับ ส่วนชาวพุทธ ชาวคริสต์ ชาวอิสลาม หรือชาวอะไรทั้งหลาย จะคิดยังไงก็คิดไปเถอะครับ หวังว่าชาวพุทธทั้งหลาย คงไม่ว่าผมว่าเป็นบัวใต้น้ำใต้ตมนะครับ
ใจกว้างๆ หน่อย คนที่คิดต่าง ไม่ใช่มารเสมอไป
นี่แหละคือสิ่งที่อยู่ในหัวผมทุกครั้งที่ได้ยินคำถามว่าตายแล้วไปไหน
อธิบายมาได้โดนใจจริง ผมคิดว่าทุกสิ่งรอบตัวเรามันคือ ธรรมชาติ
ซึ่งมันจะดำเนินของมันไปเองไม่มีอะไรควบคุมมันได้เพราะงั้นไม่
ต้องไปหาเหตุผลเลยว่าทำไมคนเราเกิดมาไม่เหมือนกัน เพราะ
ทุกอย่างคือเรื่องบังเอิญซึ่งเรื่องบังเอิญมันไม่ต้องมีเหตุผลอะไรอยู่แล้ว
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #44 เมื่อ: 20 พ.ค. 11, 01:09 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

จ้าๆ q*013 มีนรกมีสวรรค์ มีของวิเศษ ด้วย 5555 เชื่อกันไปเหอะ มัน

เป็นสิทธิส่วนบุคล ป่วยแล้วอย่าไปหา หมอ ห้ามกิน ยา เดินทางก็นั่งทางใน

ไปดิ ฮา อะ หุหุ ^0^ อ๋อ อย่าลืมไปขูดหวยด้วยละ >.

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Tags:  

หน้า: 1 2 3

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม