Sanook.commenu

ค้นหา ตรวจหวย ข่าว อีเมล์ ดูทีวีออนไลน์ ฟังเพลงออนไลน์ คลาสสิฟายด์ ริงโทน เกมส์ ดูทั้งหมด »

หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: ไมโครเวฟ อันตรายหรือ  (อ่าน 14533 ครั้ง)
Guest
วนา
เรทกระทู้
« เมื่อ: 14 ส.ค. 10, 07:30 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 

ได้รับข่าวว่าการใช้ไมโครเวฟอุ่นอาหาร ทำให้อาหารมีการเปลี่ยนแปลง
กินเข้าไปจะเกิดอันตรายต่อเราหรือ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
onaree
เรทกระทู้
« ตอบ #1 เมื่อ: 18 ส.ค. 10, 10:52 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

รออยู่เหมือนกัน

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
วรพล
เรทกระทู้
« ตอบ #2 เมื่อ: 18 ส.ค. 10, 11:37 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ช่ายคับ จากการทดลองในห้องวิทยาศาสตร์ ของสหรัฐ จะเป็นการสะสมรังสี กินเข้าไปก่อให้เกิดมะเร็งทดลองจากการนำน้ำที่ได้จากไมโครเวฟ เอามารดต้นไม้ 7 วันต้นไม้เหี่ยวแล้วก็ตาย เป็นผลจากรังสีแต่น้ำเปล่าๆ รดต้นไม้เหมือนกัน ต้นไม้ไม่ตาย สรุป กินอาหารจากเตาไมโครเวฟ ตายผ่อนส่ง อันตรายมาก ได้จากไปฟังเรื่องมะเร็งกันคับ ดร.เค้าบอก ชื่ออะไรจำไม่ได้คับ เมืองไทย เป็นมะเร็งกันเยอะ เพราะส่วนใหญ่่บ้านเรา เป็นก่อนค่อยแก้ ที่จริง ต้องแก้จากก่อนเป็นคับ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
อะไรวะ
เรทกระทู้
« ตอบ #3 เมื่อ: 18 ส.ค. 10, 11:51 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อะไร แค่เนี้ยะ นึกว่าจะมีข้อมูล เกร็ต อะไรมาบอก ตกลงเป็นกะทู้ถามใช่ม่ะ ตั้งมาทำไมวะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #4 เมื่อ: 18 ส.ค. 10, 14:18 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 












ภาพข้างล่างเอามาจากเวป arunsawat.com เห็นแล้วตกใจนิิดหน่อย

เป็นกาีรทดลองโดยการเปรียบเทียบการอุ่นน้ำจากไมโครเวฟและการอุ่นน้ำจากกาน้ำทั่วไป

























เกิดอะไรขึ้น เก้าวันเท่านั้น โอ้ย แล้วเราละเต็มๆ เลยสะสมไปวันละนิดๆ

เค้าว่ากันว่าอันตรายนี้้สะสมรวดเร็วพอๆกับยาพิษ เหมือนตายผ่อนส่ง

มันจะทำให้การย่อยเราไม่ได้การดูดซึมอาหารเราไม่ดีด้วยเท่ากับกินของเสีย

และมีของเสียคงอยู่ในร่างกายถาวรเหมือนกินยาพิษอิเลคตรอนและโปรตรอน

ที่อยู่ในอาหารที่ถูกปรุงด้วยไมโครเวฟมันถูกเปลี่ยนรูปไปทำให้อาหารคือสารพิษ

ผลคือ ถ่ายไม่คล่อง เป็นมะเร็งเต้านม ลำคอลำไส้และอวัยวะภายในการสืบพันธุ์







ผลจากอาหารไมโครเวฟทำให้ผู้ชายเป็นหมัน แล้วมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ

ส่วนผู้หญิงจะเป็นมะเร็งที่มดลูก ลูกออกมามักไม่สมบูรณ์ ตอนนี้ยังไม่พบข่าวการแพทย์ในไทย

ผลทางร่างกาย หงุดหงิด สมองเสื่อมไว เมตาบอริซึมผิดปกติ ไมเกนเป็นง่าย



บนฉลากขวดนมสำหรับเลี้ยงทารก ก็มีการระบุอย่างชัดเจนว่าห้ามใช้เตาไมโครเวฟต้มน้ำให้เดือด

เนื่องจากคลื่นไมโครเวฟจะไปทำลายสารอาหารที่มี ประโยชน์ทั้งหมด

ผลร้ายที่เกิดเนื่องจากไมโครเวฟนี้ มีรายงานมากมายที่ทำในประเทศรัสเซีย เยอรมนี

และสวิตเซอร์แลนด์แต่มีน้อยมากในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากการวิจัยในสหรัฐส่วนใหญ่

จะต้องเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางการค้า มิฉะนั้น จะไม่ค่อยมีคนทำตาม

ในรายงานในรัสเซีย เยอรมนี และสวิส พบว่าคลื่นไมโครเวฟ จะทำให้คลื่นสมอง

ลดลง สมองเสื่อม ทำให้คลื่นสมองมีความยาวคลื่นสั้นลง ในไมโครเวฟนอกจากจะ

เป็นสารก่อมะเร็งแล้ว ยังเป็นสารตกค้างที่ร่างกายขจัดไม่ได้ คลื่นในระยะยาว

จะทำให้ฮอร์โมนเพศลดลง และเปลี่ยนแปลงทำลายเกลือแร่ต่างๆ ในผัก

เปลี่ยนเป็นอนุมูลอิสระที่เป็นโทษต่อร่างกาย ยังมีคลื่นอื่นๆ อีกหลายตัวในไมโครเวฟ

ที่ล้วนทำให้สารบำรุงในอาหารเปลี่ยนไป และแปรสภาพเป็นสารก่อมะเร็ง …

ข้อมูลจากหนังสือซานเปิ่น (ศาสตราจารย์ด้านโภชนาการ มหาวิทยาลัยสิงคโปร์)





ดร.ฮานส์ อุลริช เฮอร์เทล (HansUlrich Hertel ) นักวิทยาศาสตร์

เคยทำงานของมหาวิทยาลัยโลวาน ศึกษาผลกระทบด้านโภชนาการ

ของอาหารไมโครเวฟที่มีต่อเลือดและร่างกายของมนุษย์ โดยให้อาสาสมัคร 8 คน

กินนมแลผักที่เตรียมวิธีต่างกัน คือ นมสด , นมชนิดเดียวกันแต่ต้มด้วยวิธีดังเดิม ,

นมพาสเจอไรซ์ , นมสดที่ผ่านการต้มด้วยไมโครเวฟ , ผักสดจากฟาร์มอินทรีย์ ,

ผักชนิดเดียวกันแต่ต้มด้วยวิธีดังเดิม , ผักชนิดเดียวกันแต่แช่แข็งและละลายในไมโครเวฟ

และผักชนิดเดียวกันแต่หุงต้มในไมโครเวฟ มีการเก็บตัวอย่างเลือดก่อนกินขณะท้องว่าง และหลังกิน



ผลการทดลองปรากฏว่า พบการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในเลือดของผู้กินอาหาร

ที่ผ่านการหุงต้มด้วยไมโครเวฟ เช่น เฮโมโกลบินลดลง โคเลสเทอเลลเทอรอลชนิดดีลดลง

เซลล์เม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้น ซึ่งการที่เซลล์เม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้น ในเชิงโลหิตวิทยา

ถือเป็นสัญญาณอันตราย กล่าวคือมีความผิดปกติเกิดขึ้นในร่างกาย ร่างกายจึงต้อง

ผลิตเม็ดเลือดขาวขึ้นมาเพื่อจัดการกับความผิดปกติเหล่านั้น

ราวกับทิ้งระเบิดลูกใหญ่ลงกลางวงอุตสาหกรรมเตาไมโครเวฟ ภายหลังตีพิมพ์ผลงานไม่นาน

สมาคมผู้ค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนและอุตสาหกรรมแห่งสวิตเซอร์แลนด์ที่รู้จักในชื่อ

FEA ก็อาศัยอำนาจศาลสั่งให้ ดร. เฮอร์เทล ยุติการเผยแพร่ข้อมูล ต่อมาในปี 2536

ศาลสวิตเซอร์แลนด์ได้พิพากษาว่า ดร. เฮอร์เทลทำลายการค้า พร้อมสั่งปรับและ

ห้ามไม่ให้ตีพิมพ์ผลการวิจัยอีกต่อไป ทว่าในอีก 5 ปีต่อมา ศาลสิทธิมนุษยชน

แห่งยุโรปที่ออสเตรเรียได้พิพากษาว่า การสั่งห้ามไม่ให้ ดร.เฮอร์เทลพูดถึง

อันตรายของเตาไมโครเวฟที่มีต่อสุขภาพของมนุษย์ เป็นการระเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก

ทั้งนี้ได้สั่งศาลสวิตเซอร์แลนด์จ่ายค่าชดเชยให้ ดร.เฮอร์เทลด้ว (ที่มาจากเวป rmutphysics โดยคุณ ภัสน์วจี ศรีสุวรรณ์)

ข้อมูลเยอะไปหน่อยนะค่ะ ก็แค่อยากแบ่งปันเนื้อหาสาระให้ทุกคนได้อ่านและศึกษากัน

กลัวไหมงะ ถ้าไม่กลัวก็จงใช้กันต่อไป นะ ... จะทำไงได้ละก็ในปัจจุบันชีวิตคนเรา

ต้องกาีรความรวดเร็ว รีบด่วน มันก็ยากที่จะเลี่ยง แต่ถ้าไม่รีบร้อนอะไร

ก็ใช้วิธีอุ่นอาหารแบบที่บรรพบุรุษเราทำดีกว่านะค่ะ (ไม่ต้องถึงขั้นก่อฝืนก่อไฟก็ได้นะค่ะ )

The end.




















noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #5 เมื่อ: 18 ส.ค. 10, 14:20 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

พิ่มเติม




noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
เด็กวิทย์
เรทกระทู้
« ตอบ #6 เมื่อ: 18 ส.ค. 10, 14:35 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ขอแบ่งปันค่ะ.......นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่ม : 265

คลื่นไมโครเวฟที่ใช้ในการปรุงอาหาร คือคลื่นชนิดใด
คลื่นไมโครเวฟ (microwave) ที่ใช้ปรุงอาหารคือคลื่นแม่เหล็ก ไฟฟ้าเหมือนคลื่นวิทยุ คลื่นโทรทัศน์ คลื่นแสงอินฟราเรด (infrared) คลื่นแสงธรรมดา แสงอัลตราไวโอเลต (ultraviolet) คลื่นรังสีเอกซ์ และ คลื่นรังสีแกมมา

คลื่นไมโครเวฟทำให้อาหารสุกได้อย่างไร
คลื่นไมโครเวฟที่ใช้ปรุงอาหารจะมีความถี่คลื่น 2,450 ล้านรอบต่อวินาที (หรือ 2,150 เมกะเฮิรตซ์) เมื่อคลื่นพุ่งไปกระทบอาหารจะถ่ายทอดพลังงานของมันให้โมเลกุลของน้ำทั้งในและนอกอาหารเกิดการ สั่นสะเทือนเสียดสีกันเป็นความร้อน จึงทำให้อาหารสุกอย่างรวดเร็ว
เมื่อคลื่นไมโครเวฟมอบพลังงานให้อณูของน้ำหมดแล้ว มันก็จะสลายตัวไป ไม่สะสมอยู่ในอาหารอีก

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #7 เมื่อ: 18 ส.ค. 10, 14:39 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่ม : 265

คลื่นไมโครเวฟที่ใช้ในการปรุงอาหาร คือคลื่นชนิดใด
คลื่นไมโครเวฟ (microwave) ที่ใช้ปรุงอาหารคือคลื่นแม่เหล็ก ไฟฟ้าเหมือนคลื่นวิทยุ คลื่นโทรทัศน์ คลื่นแสงอินฟราเรด (infrared) คลื่นแสงธรรมดา แสงอัลตราไวโอเลต (ultraviolet) คลื่นรังสีเอกซ์ และ คลื่นรังสีแกมมา

คลื่นไมโครเวฟทำให้อาหารสุกได้อย่างไร
คลื่นไมโครเวฟที่ใช้ปรุงอาหารจะมีความถี่คลื่น 2,450 ล้านรอบต่อวินาที (หรือ 2,150 เมกะเฮิรตซ์) เมื่อคลื่นพุ่งไปกระทบอาหารจะถ่ายทอดพลังงานของมันให้โมเลกุลของน้ำทั้งในและนอกอาหารเกิดการ สั่นสะเทือนเสียดสีกันเป็นความร้อน จึงทำให้อาหารสุกอย่างรวดเร็ว
เมื่อคลื่นไมโครเวฟมอบพลังงานให้อณูของน้ำหมดแล้ว มันก็จะสลายตัวไป ไม่สะสมอยู่ในอาหารอีก
คลื่นที่ใช้ในไมโครเวฟมีอันตรายหรือไม่
คลื่นไมโครเวฟที่ใช้ในการปรุงอาหารไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ เพราะคลื่นจะสลายตัวไปไม่สะสมในอาหาร เมื่อกินอาหารที่ทำให้สุกด้วยไมโครเวฟจึงไม่เกิดอันตรายใดๆทั้งสิ้น

การจ้องมองแสงในขณะที่เครื่องกำลังทำงานมีอันตรายต่อดวงตาจริงหรือไม่
ไม่จริง เพราะคลื่นไมโครเวฟไม่สามารถจะทะลุทะลวงผ่านผนังตู้และฝาตู้ออกมาได้ และแสงที่เรามองเห็นในตู้ไม่ใช่แสงของคลื่นไมโครเวฟ แต่เป็นแสงของดวงไฟฟ้าที่ติดตั้งไว้ให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายในตู้ขณะเครื่องทำงานเท่านั้นเอง

อาหารที่ผ่านการปรุงด้วยไมโครเวฟจะมีรังสีตกค้างหรือปะปนมาในอาหารหรือไม่
ไม่มี เพราะรังสีเป็นคลื่นพุ่งผ่านแล้วมอบพลังงานของมันให้กับสิ่งที่มันพุ่งผ่านไป เมื่อพลังงานของมันหมดมันก็สลายตัวไป

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
กรูดิ่
เรทกระทู้
« ตอบ #8 เมื่อ: 18 ส.ค. 10, 14:47 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ถ้าอันตรายจริงแล้วปล่อยให้ขายเตาไมโครเวฟกันทำไม ก็สั่งห้ามขายกันสิ
ใครก็ได้ช่วยเอาข้อมูลชัด ๆ จริง ๆ ออกมาบอกหน่อยดิว่า
ถ้าร่างกายสะสมรังสีจริง จะตรวจสอบอย่างไร ? ใช้เครื่องมืออะไรมาตรวจสอบ ?
อยากรู้เหมือนกัน



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #9 เมื่อ: 18 ส.ค. 10, 15:32 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน.........นะคะ.....จะได้ไม่สับสนว่าอันตรายที่เกิดจากการใช้ไมโครเวฟเกิดจากอะไรกันแน่
เผยใช้ผิดวิธีเสี่ยงมะเร็งผิวหนัง

ในสภาพเศรษฐกิจที่ต้องรัดเข็มขัดจนตึงเปรี๊ยะ ข้าวก็ต้องเก็บไว้ทานหลายๆ มื้อ การหุงหาอาหารก็ต้องลดการใช้พลังงานเท่าที่จำเป็นเพราะค่าเนื้อสัตว์ ข้าวของต่างๆ ก็แพงเอาๆ ค่าแก๊ส ค่าน้ำมันพืช ค่าอาหารต่างๆ ก็พุ่งพรวดๆ ทยานขึ้นอย่างไม่เคยหยุดหย่อนให้ได้หายใจหายคอได้คล่องขึ้นสักช่วงหนึ่ง

ทำให้เตาอบไมโครเวฟเป็นอุปกรณ์ปรุงอาหารจำเป็นสำหรับชีวิตในเมืองที่ต้องเร่งรีบ และประหยัดทุกลมหายใจ เพราะไม่ต้องเสียเวลานั่งปรุงอาหารให้ยุ่งยาก ไม่ต้องใช้แก๊สหุ้งต้มให้เปลือง เพียงเสียบปลั๊ก รอไม่กี่นาทีอาหารก็ได้รับการอุ่นร้อน หอมกรุ่น พร้อมรับประทานได้ทันที แถมยังประหยัดน้ำล้างกระทะ หม้ออะไรให้ไม่เปลืองทรัพยากร

แต่จะรู้กันหรือไม่ว่า การใช้ไมโครเวฟถูกวิธีเป็นอย่างไร แล้วเครื่องไมโครเวฟที่อยู่ใกล้ตัวคุณนั้นมีความปลอดภัยต่อคุณภาพชีวิตของคุณเพียงใด จนถึงขั้นว่าต้องเปลี่ยนใหม่หรือยัง

เตาอบไมโครเวฟมีระยะเวลาต้องเปลี่ยนใหม่ด้วยหรือ???
ล่าสุด กองรังสีและเครื่องมือแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ร่วมกับ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 11 แห่ง จัดทำโครงการตรวจสอบการรั่วของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเตาอบไมโครเวฟให้แก่ประชาชน เพื่อให้ผู้บริโภคใช้งานได้อย่างปลอดภัยที่สุด

โดยการทำงานของเตาอบไมโครเวฟเป็นการปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ 2,450 เมกะเฮิรตซ์ ที่ผลิตจากหลอดแมกนีตรอนส่งเข้าสู่ภายในเตาอบ หากผนังหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของเตาอบมีรอยรั่วหรือไม่สามารถป้องกันการรั่วของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้เพียงพอ ผู้ใช้ที่มีพฤติกรรมการใช้แบบไม่ระมัดระวังตัว ก็อาจได้รับอันตรายจากคลื่นไมโครเวฟ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #10 เมื่อ: 18 ส.ค. 10, 15:34 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เพิ่มเติม........

คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ทำให้เกิดความร้อนที่ออกมาจากเตาอบไมโครเวฟนั้น เป็นรังสีชนิดอนุภาคที่ไม่แตกตัว ไม่ทำให้โมเลกุลของสารเปลี่ยน และไม่มีผลตกค้าง จึงไม่มีอันตราย อีกทั้งมีโอกาสน้อยมากที่เตาอบไมโครเวฟจะมีคลื่นรั่วออกมาเกินจากระดับที่มาตรฐาน มอก. 1773-2542 ที่สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรมกำหนด

ซึ่งพบว่า ในรายที่ใช้เตาอบจนเป็นสนิม ผุ วัสดุเคลือบลอกบานพับประตูชำรุด ประตูปิดไม่สนิท หรือกระจกแตก เก่าทรุดโทรมมากหรือใช้งานมาอย่างน้อยประมาณ 3-5 ปี ก็อาจมีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ารั่วออกมา หากมีความเข้มข้นพอจะก่อให้เกิดอันตรายได้

อันตรายนั้น ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ผลต่อสุขภาพของผู้ใช้ตู้อบดังกล่าวและบุคคลในครอบครัวทุกคน โดยอาการที่เห็นชัดในระยะแรก คืออาจมีภาวะหน้ามืด วิงเวียนศรีษะ คลื่นไส้อาเจียน การไหลเวียนของเลือดผิดปกติ หากรุนแรงอาจส่งผลให้เกิดการเป็นหมันชั่วคราวสำหรับผู้ชาย เกิดการแท้งบุตร ตาเป็นต้อกระจก หรือกระทั่งมะเร็งผิวหนัง

ขณะเดียวกันเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ขณะที่เครื่องกำลังทำงาน ไม่ควรเข้าใกล้เตาอบไมโครเวฟ ควรอยู่ห่างอย่างน้อย 50-100 เซนติเมตร และไม่ควรจ้องมองช่องประตูในระยะใกล้ เนื่องจากคลื่นไมโครเวฟไม่สามารถมองเห็นได้และไม่มีกลิ่น ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะในการตรวจวัด

นอกจากนี้คลื่นไมโครเวฟไม่สามารถที่จะทะลุผ่านโลหะได้ ภาชนะที่เป็นโลหะหรือส่วนประกอบของโลหะ ไม่ควรนำไปใช้กับไมโครเวฟส่วนภาชนะที่สามารถใช้ได้กับเตาไมโครเวฟ คือภาชนะที่เป็นกระเบื้อง ภาชนะแก้วที่ทนความร้อน และภาชนะพลาสติกที่ทำด้วยโพลิโพรพิลีน (Polypropylene)

ทางที่ดีที่สุดก่อนใช้ควรศึกษาวิธีการใช้จากคู่มือ หมั่นดูแลทำความสะอาด และบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ และไม่ควรใช้ของแข็งขัดถูภายในตัวเตา กรณีที่เตาอบไมโครมีสภาพเก่าหรือซื้อมานานแล้ว หากไม่มั่นใจในความปลอดภัยในการใช้เตาอบไมโครเวฟของตัวเอง ทางกองรังสีและเครื่องมือแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เข้ารับตรวจสอบประสิทธิภาพเพื่อความปลอดภัยของประชาชนในการใช้งาน

หรือหากอยู่ในส่วนภูมิภาค สามารถนำไปให้ตรวจสอบที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2951-0000-9 ต่อ 99770, 99956

เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้ก็อย่ามองข้าม เพราะแทนที่จะได้ประหยัดจากการกินอยู่เรียบง่าย มีอะไรก็ใช้กันไป เครื่องเตาอบไมโครเวฟก็ใช้มันจนพัง แทนที่จะเป็นการมัธยัสถ์ แต่อาจส่งผลร้ายกับสุขภาพของผู้ใช้งานเป็นโรคต่างๆ นานา อย่างไรก็ตามทางสายกลางดูจะเหมาะสมที่สุด





เรื่องโดย : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ศาสนิกชน
เรทกระทู้
« ตอบ #11 เมื่อ: 18 ส.ค. 10, 18:54 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ข้อมูลจากเวป arunsawat.com และผลการวิจัยของ ดร.ฮานส์ อุลริช เฮอร์เทล (HansUlrich Hertel ) มีข้อบ่งชี้ว่าคลื่นของไมโครเวปทำให้โครงสร้างโมเลกุลของน้ำผิดปกติไป กลายเป็นของเหลวชนิดอื่น ที่ส่งผลให้ต้นไม้ไม่สามารถดูดซึ่มเข้าไปใช้เป็นอาหาร รวมทั้งไม่สามารถนำอาหารอื่นเข้าสู่ลำต้นไปหล่อเลี้ยงเป็นอาหารได้

ดังนั้นสิ่งที่น่าคิดต่อก็คือควรจะเร่งรัดให้ผู้มีหน้าที่ ทำการวิจัยต่อไปเพื่อให้ได้องค์ความรู้ที่แท้จริงว่าเตาไมโครเวปเมื่อปรุงอาหารจะเป็นโทษต่อสุขภาพสิ่งมีชีวิตหรือไม่ อย่างไร ไม่ใช่ว่าจะสนับสนุนอย่างตะบี๋ตะบันเอาผลประโยชน์ทางการค้า หรือความสุขสบายเฉพาะหน้ามาเป็นประโยชน์ โดยขาดความรับผิดชอบต่อเพื่อนมนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งมวล เพราะการหยุดคิดเพื่อไตร่ตรองยังดีกว่าการประพฤติปฏิบัติโดยไร้สติ

อดทนเอาหน่อยนะคะ หาข้อมูลในการวิจัยให้ชัดเจน เมื่อได้ข้อสรุปแล้วค่อยปฏิบัติดีกว่า จะไม่ได้เสียใจภายหลัง

ด้วยรัก
จาก
ศาสนิกชน

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ช้าวบ้าน..คิดเอง
เรทกระทู้
« ตอบ #12 เมื่อ: 18 ส.ค. 10, 19:41 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คลื่นความถี่สูงทำให้เกิดการสั่นของโมเลกุลเสียดสีกันเกิดความร้อนทำให้อาหารสุก
ถ้ากินกินขณะร้อนๆ ซึ่งโมเลกุลยังไม่นิ่ง ก็มีผลต่อร่า้งกาย แต่ก็คงไม่มากอย่างที่วิตกกัน ไม่งั้นพวกยุโรปคงห้ามแล้ว ก็พวกพี่แกกลัวตายมากไ
แต่ถ้าคนที่เป็นมะเร็งอยู่แล้วก็คงไม่ดี เลี่ยงๆ ดีกว่า
ถ้ากลัวมาก ก็กินหลังจากออกจากตู้ แล้วปล่อยให้เย็นสนิท ค่อนสวาปาม ปลอดภัยแน่ๆ

จากการวิเคราะห์เองแบบมั่วๆ จะเชื่อก็ได้ ไม่เชื่อก็ได้ ขำๆๆ q*013q*013q*013

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
หนูเ้ล็ก
เรทกระทู้
« ตอบ #13 เมื่อ: 19 ส.ค. 10, 01:40 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อยากบอกว่าคุณโง่คนไหนที่เชื่อเรื่องน้ำต้มรดต้นไม้จากไมโครเวฟ ได้โดนหลอกเข้าเต็มเปล่าเสียแล้ว
อย่างที่รู้กันๆอยู่ FW มันเชื่อไม่ได้ ก็ยังจะแอบเชื่อ กุเกิลมีให้ไม่เคยจะลองใช้ ต้องรอใครคนอื่นมาประเคนความรุ้ให้
ส่วนคุณคนทำก็อุตสาห์อ้างอิง นับถือมันจริงๆ สมกับความพยายามที่มีควายโดนดักมากมาย

จากกระทู้เปิดโปง Fw นรก ที่มีคนโดนดักมามากมาย ที่ Pantip สรุปได้ว่า
- เป็นภาพตัดต่อ
- ไมโครเวฟปลอดภัย ไม่ทำให้ต้นไม้ตาย
-ไม่เชื่อลองทำเอง ผลการทดลองอาจเป็นดังภาพถ้าคุณโง่พอที่รดต้นไม้ด้วยน้ำร้อน 100'c

ชำแหละ FWD Mail: ภัยจากรังสีไมโครเวฟ
http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9460107/X9460107.html

น้ำต้มจากเตาไมโครเวฟทำให้ต้นไม้ตายจริงหรือ
http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9464806/X9464806.html

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
*****
เรทกระทู้
« ตอบ #14 เมื่อ: 19 ส.ค. 10, 09:27 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เห็นด้วยตามคุณหนูเล็กครับ ที่เว็บพันทิป www.pantip.com/cafe/wahkor เค้ามีการพิสูจน์ให้ดู
ที่เอาน้ำจากไมโครเวฟไปรดต้นไม้แล้วเฉา คาดว่าคงนำน้ำที่เพิ่งต้มจากไมโครเวฟไปรด มันก็คือเอาน้ำร้อนไปรดน่ะแหละ แล้วต้นไม้ที่ไหนจะไม่เฉา

Forward Mail อ่านแล้วอย่าเพิ่งเชื่อ เพราะส่วนมากมันจะโกหกทั้งนั้น (ที่เคยเห็นเป็นเรื่องจริงเรื่องเดียวก็เรื่องด้วงก้นกระดก)

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #15 เมื่อ: 19 ส.ค. 10, 09:40 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
อยากบอกว่าคุณโง่คนไหนที่เชื่อเรื่องน้ำต้มรดต้นไม้จากไมโครเวฟ ได้โดนหลอกเข้าเต็มเปล่าเสียแล้ว
อย่างที่รู้กันๆอยู่ FW มันเชื่อไม่ได้ ก็ยังจะแอบเชื่อ กุเกิลมีให้ไม่เคยจะลองใช้ ต้องรอใครคนอื่นมาประเคนความรุ้ให้
ส่วนคุณคนทำก็อุตสาห์อ้างอิง นับถือมันจริงๆ สมกับความพยายามที่มีควายโดนดักมากมาย

จากกระทู้เปิดโปง Fw นรก ที่มีคนโดนดักมามากมาย ที่ Pantip สรุปได้ว่า
- เป็นภาพตัดต่อ
- ไมโครเวฟปลอดภัย ไม่ทำให้ต้นไม้ตาย
-ไม่เชื่อลองทำเอง ผลการทดลองอาจเป็นดังภาพถ้าคุณโง่พอที่รดต้นไม้ด้วยน้ำร้อน 100'c

ชำแหละ FWD Mail: ภัยจากรังสีไมโครเวฟ
http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9460107/X9460107.html

น้ำต้มจากเตาไมโครเวฟทำให้ต้นไม้ตายจริงหรือ
http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9464806/X9464806.html


เค้าไม่ได้ให้เชื่อ เค้าเตือนพวกคุณ ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็เชิญกินต่อไป แต่ผมไม่เอาคนนึง ถ้าจะทำอาหารนึ่ง กะ ต้ม เอาดีกว่า ถามพวกเชฟ เค้ายังรู้เรื่องนี้เล้ยยย
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
อยากรู้จริงๆๆ
เรทกระทู้
« ตอบ #16 เมื่อ: 19 ส.ค. 10, 10:24 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

มันเป็นยังไงกันแน่ค่ะ อยากรู้จริงๆว่าทำอาหารจากไมโครเวฟ เกิดโรคมากมาย เพราะที่บ้านใช้ทุกวัน จะเชื่อใครดี

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #17 เมื่อ: 19 ส.ค. 10, 14:46 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ดูรูปแล้วก้ออย่าหลงเชื่อล่ะ มัน idiot รูปแบบนี้เอามาจัดฉากถ่ายมั่วๆซั่วๆยังงัยก้อด้าย นักวิทยาศาสตร์เค้ารู้กันมาเป็นร้อยปีแล้ว ว่ารังสีทุกชนิดพอมันปล่อยพลังงานออกมาโดนวัตถุแล้วเกิดการถ่ายเทพลังงานเรียบร้อยก็จบกันไป ไม่มีการสะสมพิษอะไรทั้งนั้น ที่โดนรังสีแล้วเป็นมะเร็งนะมันเป็นตอนโดนรังสีจังๆ แล้วผลค่อยๆเกิดตามมา สรุปคือถ้าไม่โดนรังสีก้อไม่มีทางเป็นห่าอะไรหรอก

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest

เรทกระทู้
« ตอบ #18 เมื่อ: 19 ส.ค. 10, 18:33 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

บางครั้งอ่านแล้วก็ทำให้ตกใจนะ เพราะว่าเราอยู่ต่างประเทศจะต้องใช้อยู่ตลอดเวลา เพราะต้องการอุ่นอาหารในที่ทำงานทานกัน เพราะในที่ทำงานไม่มีที่หุงต้ม เหมือนอยู่ที่บ้านนะ มาคิดดูอีกทีก็จะเกิดก็ให้มันเกิดนะ มะเร็งมันเกิดได้ทุกทางไม่ว่าการปิ้งย่างหรือว่าอะไร ถ้าทำไม่ถูกวิธีก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นมะเร็งได้ทั้งนั้น ทำใจให้เป็นกลางดีกว่านะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
Av81
เรทกระทู้
« ตอบ #19 เมื่อ: 23 ส.ค. 10, 13:28 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คห 4 มั่วครับ

แต่บทความก็ผิดแล้ว กรุณาไปทำความเข้าใจใหม่ระหว่าง

รังสี และ คลื่น

รังสีไมโครเวฟ

และ

คลื่นไมโครเวฟ

ไม่เหมือนกันแม่แต่น้อย...................

โดย

av81

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #20 เมื่อ: 27 ส.ค. 10, 07:09 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ขอบคุณครับ...แต่จะไปหาข้อมูลในกูเกิ้ลหรือในเว็บเพิ่มครับ q*004

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Tags:  

หน้า: 1

 
ตอบ
ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:   Go
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม
         

ทางสนุก! จะทำการตรวจสอบ
และขออนุญาตไม่แสดงข้อความ
ที่ไม่เหมาะสม ข้อความที่
ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่
สถาบันชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริย์ รวมถึงข้อความที่
เข้าข่ายหลอกลวง การเผยแพร่
ภาพลามกอนาจาร หรือข้อความ
ใดๆ ที่ทำให้ผู้อื่นได้รับความ
เสียหาย บนกระทู้นี้