หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: ผลการจัดอันดับพาสปอร์ตทรงอิทธิพลมากที่สุด (และน้อยที่สุด) ในโลกประจำปี 2566  (อ่าน 7 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 13 ม.ค. 23, 10:41 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 

หลังโลกก้าวเข้าสู่ปีใหม่ ผลการจัดอันดับดัชนีพาสปอร์ตของเฮนลี่ย์ (Henley Passport Index) ครั้งล่าสุดก็ได้รับการเปิดเผย เพื่อนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจเกี่ยวกับทิศทางของโลกที่ถูกกำหนดด้วยการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ธรรมดา พร้อมเปิดเผยให้เห็นสิ่งที่รออยู่เบื้องหน้า นับเป็นปีที่ 5 ติดต่อกันแล้วที่ญี่ปุ่นครองแชมป์พาสปอร์ตทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ซึ่งอ้างอิงข้อมูลจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association หรือ IATA) และจัดอันดับ 199 พาสปอร์ตทั่วโลกตามจำนวนจุดหมายปลายทางที่ผู้ถือพาสปอร์ตนั้นสามารถเดินทางไปได้โดยไม่ต้องขอวีซ่ามาก่อน

ปัจจุบัน พลเมืองญี่ปุ่นสามารถเดินทางสู่จุดหมาย 193 แห่ง จากทั้งหมด 227 แห่งทั่วโลกโดยไม่ต้องขอวีซ่า (visa-free) หรือขอรับการตรวจลงตราที่ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (visa-on-arrival) ในขณะที่เกาหลีใต้และสิงคโปร์ที่รั้งอันดับ 2 ร่วม สามารถเดินทางสู่จุดหมาย 192 แห่งโดยไม่ต้องขอวีซ่า ส่วนเยอรมนีและสเปนที่ครองอันดับ 3 ร่วม สามารถเดินทางสู่จุดหมาย 190 แห่งทั่วโลกโดยไม่ต้องขอวีซ่า ขณะที่สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกายังคงอยู่ในอันดับที่ 6 และ 7 โดยสามารถเดินทางสู่จุดหมาย 187 และ 186 แห่งตามลำดับ และยังไม่มีแนวโน้มว่าจะกลับมาทวงอันดับสูงสุดที่เคยครองร่วมกันเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว

อัฟกานิสถานยังคงอยู่ในอันดับรั้งท้ายในการจัดอันดับดัชนีพาสปอร์ตของเฮนลี่ย์ โดยสามารถเดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่าสู่จุดหมายเพียง 27 แห่ง ซึ่งห่างจากอันดับ 1 อย่างญี่ปุ่นถึง 166 แห่ง นับเป็นช่องว่างด้านการเดินทางที่กว้างที่สุดในประวัติศาสต์ 18 ปีของดัชนี ในโอกาสนี้ ดร. คริสเตียน เอช. เคลิน (Dr. Christian H. Kaelin) ประธานของเฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส (Henley & Partners) กล่าวว่า ผลวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างการเดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่ากับการเข้าถึงเศรษฐกิจโลก เผยให้เห็นว่าอำนาจของพาสปอร์ตมีความหมายอย่างไรในแง่ของการเงินที่เป็นรูปธรรม "สำหรับพลเมืองโลก วิธีการวัดความคล่องตัวทางเศรษฐกิจและโอกาสทางการเงินอันเป็นผลมาจากพาสปอร์ตก็คือ การดูสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ของจีดีพีโลกที่พวกเขาสามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ซึ่งผลวิจัยล่าสุดของเราเกี่ยวกับความสามารถในการเข้าถึงเศรษฐกิจโลกของพาสปอร์ต ถือเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับนักลงทุนและให้ข้อมูลเชิงลึกใหม่เกี่ยวกับช่องว่างความไม่เท่าเทียมและความเหลื่อมล้ำด้านความมั่งคั่งที่กว้างขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยกำหนดโลกของเรา"

ความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างอิทธิพลของพาสปอร์ตกับอำนาจทางเศรษฐกิจ

ในเศรษฐกิจระดับมหภาค ผลการศึกษาใหม่ล่าสุดจากเฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส เผยให้เห็นว่า มีพาสปอร์ตเพียง 6% ทั่วโลกที่ทำให้ผู้ถือเข้าถึง 70% ของเศรษฐกิจโลกโดยไม่ต้องขอวีซ่า และมีพาสปอร์ตเพียง 17% ที่ทำให้ผู้ถือเดินทางสู่จุดหมายเกิน 4 ใน 5 ของจุดหมาย 227 แห่งทั่วโลกได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า

พาสปอร์ตของญี่ปุ่นมอบสิทธิ์ในการเข้าถึงจุดหมายได้ 85% ของทั่วโลกโดยไม่ต้องขอวีซ่า และประเทศเหล่านี้มีสัดส่วนคิดเป็น 98% ของเศรษฐกิจโลก (สัดส่วนจีดีพีของญี่ปุ่นอยู่ที่ราว 5% ในจำนวนดังกล่าว) ในทางกลับกัน พาสปอร์ตของไนจีเรียซึ่งอยู่ในอันดับล่างของดัชนี ทำให้ผู้ถือเข้าถึงจุดหมายโดยไม่ต้องขอวีซ่าได้เพียง 46 แห่ง (20% ของโลก) ซึ่งคิดเป็นเพียง 1.5% ของจีดีพีโลก ขณะที่พาสปอร์ตของอัฟกานิสถานซึ่งอยู่อันดับรั้งท้าย ทำให้พลเมืองเข้าถึงจุดหมายโดยไม่ต้องขอวีซ่าได้เพียง 12% ของโลก ซึ่งน้อยกว่า 1% ของจีดีพีโลก

ดร. อารีฟ สุเลมาน (Dr. Areef Suleman) ผู้อำนวยการฝ่ายการวิจัยเศรษฐกิจและสถิติ สถาบันธนาคารเพื่อการพัฒนาอิสลาม (Islamic Development Bank Institute) กล่าวว่า การเดินทางข้ามประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่าเพื่อเข้าถึงเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงเฉพาะของประเทศหรือเขตอำนาจศาลสำหรับบรรดานักลงทุน "โดยทั่วไปแล้ว การเข้าถึงผลผลิตทางเศรษฐกิจทั่วโลกได้มากขึ้นนับเป็นข้อได้เปรียบ เนื่องจากเป็นการช่วยขยายตะกร้าสินค้าที่แต่ละบุคคลสามารถเข้าถึงได้ แม้ว่าสิ่งนี้จะสามารถทำได้ด้วยการค้าระหว่างประเทศ แต่การเข้าถึงทางกายภาพนั้นดีกว่ามาก เพราะครอบคลุมถึงการใช้บริการที่ไม่สามารถส่งออกได้ เช่น การศึกษาและการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพดีกว่า"

ในแง่สัดส่วนเปอร์เซ็นต์ของจีดีพีโลก สหรัฐอเมริกาและจีนมีส่วนแบ่งมากที่สุดที่ 25% และ 19% ตามลำดับ แต่ผู้ถือพาสปอร์ตของอเมริกาเข้าถึงได้อีก 43% ของผลผลิตทางเศรษฐกิจทั่วโลกโดยไม่ต้องขอวีซ่า ทำให้มีสัดส่วนโดยรวมคิดเป็น 68% ขณะที่ผู้ถือพาสปอร์ตจีนเข้าถึงได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าเพิ่มอีกเพียง 7% ทำให้มีสัดส่วนโดยรวมคิดเป็นเพียง 26% ของจีดีพีโลก

อ่านข่าวฉบับเต็มได้ที่ https://www.thaipr.net/general/3289419

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน

Tags:
Tags:  

หน้า: 1

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม