นักวิชาการสากลให้หยุดคิดให้ต่างชาติซื้อที่ดินในไทย
AREA แถลง ฉบับที่ 031/2566: วันพุธที่ 11 มกราคม 2566
ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4
เปิดมุมมองนักวิชาการที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์สากล หนุนให้ไทยหยุดคิด “ขายชาติ” หยุดคิดให้ต่างชาติซื้อที่ดินในไทยได้แล้ว เป็นความคิดที่จะนำความเสื่อมเสียต่อประเทศชาติและวงศ์ตระกูล
วันนี้ ดร.โสภณ พรโชคชัย นายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์สากล (FIABCI-Thai) ให้ความเห็นต่อการที่มีนักวิชาการบางคนออกมาให้ความเห็นสนับสนุนการ “ขายชาติ” ว่าแนวคิดแบบนี้ใช้ไม่ได้ในทางสากล สมาคม FIABCI ซึ่งเป็นสมาคมอสังหาริมทรัพย์สากลมีสมาชิกอยู่ทั่วโลก แม้จะสนับสนุนการลงทุนข้ามชาติ แต่ในต่างประเทศเขามีมาตรการคุ้มครองประชาชนในประเทศ ไม่ได้ปล่อยให้ซื้อขายส่งเดช
1. ที่ว่ามีเกือบ 100 ประเทศทั่วโลกที่อนุญาตให้ต่างชาติมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้นั้น เป็นข้อมูลที่เป็นเท็จ เพราะเขามีข้อจำกัดมากมายที่เราไม่ได้นำเสนอ
2. ที่ว่ามาเลเซียเป็นที่เดียวที่ชาวต่างชาติสามารถเป็นเจ้าของที่ดินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้นั้น ก็คลาดเคลื่อน คือเขากำหนดให้ซื้อบ้านได้ในราคา 1-2 ล้านริงกิตขึ้นไป คือประมาณ 8-16 ล้านบาท ไม่ใช่ซื้อในราคาไหนก็ได้ และก็มีผู้มาซื้อไม่มากนักดังหวัง
3. ที่อ้างว่าเกาหลีใต้ ไม่มีข้อจำกัดมากมายในการถือครองที่ดินนั้น เขาก็มีระบบภาษีที่ไทยไม่มี ไทยยังไม่มีมาตรการด้านภาษี การเปิด “ขายชาติ” จึงไม่ถูกต้อง
4. ที่ว่าไต้หวันเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่มีข้อจำกัดในการเป็นเจ้าของทรัพย์สินในต่างประเทศเพียงเล็กน้อยก็เป็นเท็จ เนื่องจากเขามีนโยบาย 3-4-5 คือให้ต่างชาติที่ซื้อที่อยู่อาศัยห้ามขายต่อใน 3 ปี ห้ามอยู่เกิน 4 เดือนต่อเนื่องกัน (กันมาก่อการร้าย) และให้กู้เงินซื้อได้ที่ 50% ของมูลค่าเท่านั้น
5. ที่ว่า ชาวต่างชาติสามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ในญี่ปุ่นได้นั้น หลายท่านอาจไม่ทราบว่าภาษีมรดกของญี่ปุ่นแรงมาก ใครไปหลงซื้อคงต้องตรอมใจแน่ เพราะเก็บแทบไม่มีข้อยกเว้นเช่นไทย ถ้ากองมรดกมีราคาตั้งแต่ 150 ล้านบาทขึ้นไป ต้องเสียภาษีถึง 55%
6. ที่ว่าสิงคโปร์ให้ชาวต่างชาติสามารถเป็นเจ้าของคอนโด บ้าน และที่ดินได้นั้น ก็ไม่บอกความจริงกับประชาชนว่า สิงคโปร์เก็บภาษีซื้อสูงถึง 30-35% ของมูลค่าตลาด ซึ่งไทยไม่เก็บ และที่สำคัญไม่ใช่ว่าจะซื้อได้หมด ที่อยู่อาศัยของชาวสิงคโปร์ 80% สร้างโดยการเคหะแห่งชาติ ส่วนนี้ห้ามขาย
6. การซื้อบ้านโดยใช้นอมินีเป็นสิ่งผิดกฎหมาย รัฐบาลควรปราบปราม พวกคิด “ขายชาติ” กลับพยายามจะ “นิรโทรกรรม” โดยทำให้ถูกกฎหมายเสีย อย่างนี้เท่ากับเป็นการแปลงโจรให้เป็นคนดีไป เข้าข่ายทำร้ายคนดีๆ ในสังคม
7. การที่จะดึงคนต่างชาติมาทำงานในไทย หรือมาอยู่ในไทย ก็ไม่มีชาติใดอำนวยให้ซื้อบ้านอย่างอิสระได้เช่นประเทศไทยอีกแล้ว และประเทศอย่างเวียดนาม อินโดนีเซีย อินเดีย ฯลฯ ที่กำลังเติบโตมากมาย ก็ไม่ได้ต้องเน้นให้ต่างชาติมาซื้อบ้านและที่ดิน แม้แต่ในจีนก็ให้ประชาชนของเขาเองเช่าที่อยู่ได้แค่ 70 ปีเท่านั้น ต่างชาติเช่าที่ได้แค่ 50-70 ปีในเวียดนาม เขาก็ไปลงทุนกันมากมาย เพราะศักยภาพของประเทศเหล่านี้ดี ไม่ได้เกี่ยวกับเปิดให้ต่างชาติมาซื้อที่อย่างเสรี
ทุกวันนี้ตลาดที่อยู่อาศัยกำลัง “บูม” รอบใหม่ในปี 2565-2566 โดยที่ต่างชาติยังไม่ได้มาซื้ออสังหาริมทรัพย์เลย ตลาดที่อยู่อาศัยในขณะนี้เติบโตมากพอๆ กับก่อนวิกฤติโควิดแล้ว และต่างชาติก็มาซื้ออสังหาริมทรัพย์เพียงไม่ถึง 5% ของสินค้าทั้งหมด จึงไมได้มาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจแต่อย่างใด
แม้แต่กรณีการเปิดการค้าเสรี (FTA) ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการให้ต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์เลย การเปิดให้ต่างชาติมาซื้อบ้านโดยไม่ได้มีมาตรการที่ดี ก็คือการ “ขายชาติ” ชัดๆ
ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน
