นอกจากเครื่องยนต์ต้องมีกำลังแรงแล้ว ยางออฟโรด เป็นสิ่งสำคัญอีกประการที่จะช่วยให้การขับขี่เต็มไปด้วยสมรรถนะอันทรงพลัง ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกซื้อหรือเปลี่ยนยางควรทำความรู้จักกับยางออฟโรดให้มากขึ้นเพื่อความคุ้มค่าในการใช้งาน
หน้าที่ของยาง
ยางเป็นส่วนเดียวของรถที่สัมผัสกับพื้นผิวถนนจึงทำหน้าที่ช่วยลดแรงกระแทกและการสั่นสะเทือนจากพื้นถนน ทั้งยังต้องรับน้ำหนักของรถและน้ำหนักบรรทุก เป็นตัวกลางถ่ายทอดพลังงานเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนหรือหยุดรถ และทำงานผสานกับพวงมาลัยในการควบคุมทิศทาง โดยทั่วไปยางออฟโรด มี 3 ประเภท ได้แก่ ยาง H/T หรือ Hi-Way Terrain ยาง A/T หรือ All Terrain และยาง M/T หรือ Mud Terrain ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติแตกต่างกันตามสไตล์การขับขี่
บริเวณหน้ายางมักจะพบกลุ่มตัวอักษรและตัวเลขอันเป็นรหัสบ่งชี้รายละเอียดของยางแต่ละเส้น สำหรับสายออฟโรดมักปรากฏตัวอักษร “ LT ” บนแก้มยาง
ตัวอักษร LT บนแก้มยางคืออะไร ?
LT ที่ปรากฏบนแก้มยางออฟโรดนั้นย่อมาจาก Light Truck ซึ่งเป็นการแจ้งวัตถุประสงค์ให้ทราบว่าสามารถใช้งานได้ในกลุ่มรถกระบะบรรทุกขนาดเล็กหรือกระบะอเนกประสงค์ทั่วไปที่ใช้งานไม่หนักมาก โดยยาง LT จะมีโครงสร้างแข็งแรงกว่ายาง H/T ในขณะที่ให้ความนุ่มนวลน้อยกว่า สามารถใช้ความเร็วได้แต่ไม่ควรเกินเกณฑ์ที่กำหนดไว้บนแก้มยาง ถัดจากอักษร LT จะเป็นตัวเลขขนาดยาง เช่น LT 245/75R16 80S
ตัวเลขขนาดยาง
ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบรายละเอียดของยางแต่ละเส้นได้จากรหัสตัวอักษรและตัวเลขบนหน้ายาง โดยถัดจาก LT จะเป็นกลุ่มตัวเลข เช่น LT 245/75R16 80S ซึ่งสามารถถอดความหมายได้ดังนี้
245 ความกว้างของหน้ายางหน่วยเป็น มม. วัดระยะจากแก้มยางทั้งสองด้านในสภาวะเติมลมยางตามมาตรฐาน
75 อัตราส่วนระหว่างความสูงกับความกว้างของยาง เพื่อความสะดวกจึงมีการคำนวณเป็นจำนวนเต็มด้วยการคูณ 100 แล้วเรียกว่าซีรีส์ จากตัวอย่างอธิบายได้ว่ายางเส้นนี้ซีรีส์ 75 แสดงว่ายางสูง 75% ของความกว้าง
R โครงสร้างยางเรเดียล
16 ความยาวเส้นผ่านศูนย์กลางของล้อ หน่วยเป็นนิ้ว เพื่อบอกขนาดของกระทะล้อที่ใช้กับยางได้ จากตัวอย่างยางเส้นนี้สามารถใช้กับกระทะล้อที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 16 นิ้ว หรือเรียกง่าย ๆ ว่ายางขอบ 16
80 รหัสบอกน้ำหนักสูงสุดที่รับได้ต่อล้อ รหัส 80 แสดงว่าล้อสามารถรับน้ำหนักได้ 450 กิโลกรัม
S ดัชนีระบุความเร็วสูงสุดของยางที่สามารถวิ่งได้ โดย S เท่ากับ 180 กม./ชม.
เมื่อทราบคุณลักษณะต่าง ๆ ของยางแล้วเชื่อว่าจะช่วยให้ตัดสินใจเลือกยางได้สะดวกขึ้น หากกำลังมองหา ยางรถ suv หรือยางกระบะอเนกประสงค์สำหรับการขับขี่แบบออฟโรด ขอแนะนำ “DUELER” ยางออฟโรดคุณภาพดีจากบริดจสโตนซึ่งมีให้เลือกหลากหลายรุ่น ครอบคลุมทุกรูปแบบการใช้งาน
ยาง H/T ให้การขับขี่ที่นุ่มนวล ยึดเกาะถนนดีทั้งสภาวะถนนเปียกและแห้ง เช่น DUELER H/T684II, DUELER H/T 689, DUELER H/T 840
ยาง A/T ให้การขับขี่มั่นใจ นุ่มสบายบนทางเรียบและพร้อมลุยกรุยบนทางขรุขระ ได้แก่ DUELER ALL TERRAIN 697, DUELER ALL TERRAIN 693, DESTINATION A/T
ยาง M/T แกร่ง ทน คล่องตัวบนเส้นทางวิบาก ร่องดอกยางลึก สลัดดินได้ง่าย ได้แก่ DUELER MUD TERRAIN 674
นอกจากตอบสนองทุกสไตล์การขับขี่แล้ว “DUELER” มีส่วนผสมของเนื้อยางสูตรพิเศษและเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะจึงเป็นยางออฟโรดที่แข็งแกร่ง ทนทาน คุ้มค่าต่อการใช้งาน ทั้งยังมีให้เลือกหลายขนาด โดยเฉพาะขอบ 18 ซึ่งกำลังเป็นที่นิยม
ยาง รถยนต์ขอบ 18 ของยี่ห้อไหนดี ?
DUELER H/T 684II ยางขอบ 18 จากบริดจสโตนให้ความปลอดภัยสูง เกาะถนนได้ดี เข้าโค้งอย่างมั่นใจ ให้สมรรถนะเต็มเปี่ยม นุ่มนวล ทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน ตอบโจทย์ความต้องการได้เป็นอย่างดี
เมื่อเลือกยางออฟโรดได้ตรงใจแล้วอย่าลืมดูรักษาความสะอาดด้วยการใช้สเปรย์หรือน้ำยาทำความสะอาดโดยเฉพาะ หากออกทริปสมบุกสมบันมาควรตรวจเช็กตะกั่วถ่วงล้อว่าอยู่ครบหรือไม่และถอดยางออกจากล้อเพื่อทำความสะอาดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อัดอยู่ในซอกระหว่างล้อกับยาง เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานมากขึ้น
