ในยุคนี้เกิดโรคมากมาย สิ่งที่ชาว New Normal จะทำได้คือการรักษาสุขภาพตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของไลฟ์สไตล์ รวมทั้งอาหารและวิตามินเสริม

5 วิตามินเสริมภูมิคุ้มกัน
1.วิตามินเอ
มีการวิจัยของ ดร.โรนัลด์ วัตสัน (Ronald R Watson) แห่งมหาวิทยาลัยแอริโซนา กล่าวว่า “การทานผักผลไม้ที่มีเบต้าแคโรทีนสูง (Beta-Carotene) ช่วยส่งเสริมภูมิต้านทานให้แข็งแรงได้” โดยในแต่ละวัน เราสามารถรับวิตามินเอ (Vitamin A) เข้าสู่ร่างกายได้จากการทานเนื้อสัตว์ ปลา ตับ รวมถึงแครอท ฟักทอง หรือ ในรูปแบบอาหารเสริม ขนาด 1,000-5,000 IU ส่วนหญิงตั้งครรภ์ไม่ควรทานอาหารเสริมกลุ่มวิตามินเอ
2.วิตามินซี
พบมากในผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ฝรั่ง ลิ้นจี่จักรพรรดิ รวมทั้งพริกหวาน มีหลายงานวิจัย ระบุว่า วิตามินซีมีส่วนช่วยการทำงานของเม็ดเลือดขาว lymphocyte รวมถึง neutrophil ในกระบวนการจับกินเชื้อโรค (phagocytosis) ขนาดที่แนะนำคือ 500-2,000 มก./วัน และควรกินหลังอาหารลดการระคายเคืองในกระเพาะจากกรด Ascorbic ส่วนช่วงเวลาที่ดีในการทานวิตามิซีคือ ช่วงเช้า เนื่องจากไตจะทำงานได้เต็มที่ ลดโอกาสการตกค้าง
3.วิตามินดี
พบมากในอาหารพวกปลา เช่น ปลานิล ปลาทับทิม ปลาตะเพียน ปลาแซลมอน ปลาแมคคอแรล ปลาทูน่ากระป๋อง ไข่แดง และ ตับ ซึ่งนอกจากจะช่วยเสริมการดูซึมของแคลเซียมเข้าสู่ร่างกายแล้ว ยังมีคุณสมบัติช่วยให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานดีขึ้นมาก ขนาดของวิตามิน D3 ที่แนะนำคือ 3,000-5,000 IU ต่อวัน ส่วนการตากแดดช่วงเช้า หรือเย็นเพื่อไปรับวิตามินดีนั้น เนื่องจากหลายคนไม่มีเวลาและการตากแดดนานๆย่อมเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนัง ดังนั้นควรเลือกทานอาหารหรืออาหารเสริมมากกว่า
4.สังกะสี
พบมากในหอยนางรมและเมล็ดฟักทอง ช่วยลดการเกาะติดไวรัสกับเซลล์ จึงช่วยลดอาหารอักเสบ ช่วยฟื้นฟูกับรับกลิ้นและรสในผู้ป่วย อีกทั้งยังลดอาการแทรกซ้อนต่างๆได้อีกด้วย ในอาหารเสริม ขนาดที่แนะนำคือ 15-30 มิลลิกรัมต่อวัน
5.กรดอะมิโนซีสเทอีน หรือยาละลายเสมหะ N-Acetyl-cysteine
ซึ่งนอกจากจะมีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ เสริมภูมิคุ้มกันในปอด เพิ่มกลูตาไธโอนในตับ ช่วยให้เซลล์เม็ดเลือดขาวมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขนาดที่แนะนำในการป้องกันหรือบรรเทาอาการ คือ 600-1,200 มก./วัน
6.วิตามินบี 6
พบมากในเนื้อสัตว์ ปลา ไก่ กล้วย แตงโม นม ไข่แดง ข้าวกล้อง รำข้าว จมูกข้าวสาลี ถั่วต่าง ๆ บทบาทการป้องกันของวิตามิน B6 ในการบรรเทาความรุนแรงของ COVID-19 ในผู้ที่มีภาวะแทรกซ้อน ในคนที่มีโรคประจำตัวเช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด และเบาหวาน กลไกที่เป็นไปได้คือ ลดการอักเสบของพายุไซโตไคน์ ที่เกิดจากระบบภูมิต้านทานล้มเหลวหลังจากได้รับเชื้อก่อโรค
7.โอเมกา 3
ที่ได้จากน้ำมันปลา ช่วยลดการอักเสบของร่างกาย จากการหลั่งสารอักเสบไซโคไคน์ที่มากเกินหลังการต่อสู้กับเชื้อโรค ขนาดที่แนะนำของ omega-3 ในน้ำมันปลา ควรเลือก EPA/DHA โดยให้ค่าทั้งสองตัวรวมกันเข้าใกล้ 1,000 หน่วย/วัน
8.Probiotic จุลินทรีย์ตัวดีในลำไส้
ที่พบใน กิมจิ นัตโตะ โยเกิร์ต ซึ่งมีความสำคัญกับภูมิคุ้มกันเป็นอย่างมาก เพราะลำไส้ถือเป็นสมองที่สองของร่างกาย มีระบบการสั่งการประสาทอัตโนมัติของตัวเอง และมีต่อมน้ำเหลืองที่มีความสำคัญในการผลิตเม็ดเลือดขาว (Payer’s patches) ดังนั้น การเติมจุลินทรีย์ที่ดีให้ร่างกายก็เสมือนการเติมทหารภูมิคุ้มกันในลำไส้ โดยเฉพาะจุลินทรีย์สายพันธุ์ Lactobacillus plantarum และ Lactobacillus rhamnosus ที่ช่วยลดอาการในทางเดินหายใจได้ดี หรือเสริมด้วยอาหารเสริมที่มีจุลินทรีย์ดีสูงประมาณ 10,000 ล้านตัวต่อวัน
ขอบคุณบทความจาก >> https://www.topsvita.com/blog/post/supplements-boosting-immunity-covid-19.html