รีวิวถ่ายน้ำมันเครื่องแบบสาวโสด

เป็นครั้งแรกเลยค่ะ ที่มาใช้บริการถ่ายน้ำมันเครื่องที่ศูนย์ BMW อมรเพรสทีจ สาขารังสิต

มาตามคำบอกเล่าจากคนใกล้ตัว ที่เคยมาลองใช้บริการที่นี่แล้วก็บอกว่าประทับใจ บริการมาตรฐานของศูนย์ BMW ว่าแล้วที่นี่เค้าก็ Top up ความพิเศษขึ้นไปอีก บอกเล่ามาซะขนาดนี้ก็น่าไปลองใช่ไหมหละ ก็ใช้วันหยุดสุดสัปดาห์ของเรานี่แหละ เอารถไปถ่ายน้ำมันเครื่องซะเลย

ตอนที่เลี้ยวเข้าศูนย์มาก็มีพนักงานมายืนรอรับเราจากทางด้านหน้าเลยค่ะ จากนั้นก็จะมีพนักงานมารับกุญแจรถและขับออกไป

เมื่อเดินเข้ามาที่ศูนย์บริการแล้วจัดการล้างมือวัดอุณหภูมิ ทำตามมาตรการโควิด เซฟๆ หน่อย การ์ดอย่าตก

แล้วพนักงานก็พาเรามานั่งรอค่ะ ระหว่างที่นั่งรถพนักงานไปเตรียมข้อมูล ก็มีพนักงานอีก 1 ท่าน เดินเข้าชาร์จพร้อมกับถามว่า “รับเครื่องดื่มอะไรดีครับ” จัดไปเลยสิคะ ลาเต้ 1 โกโก้ 1 และชาร้อนอีก 1 กินทั้งร้อนและเย็น หยินหยางบาลานซ์กันดี

หลังจากที่ได้นำกุญแจไปซิงค์ข้อมูลเข้าระบบแล้ว พวกรายการต่างๆ ก็จะขึ้นมายังไอแพดของพนักงานว่ามีอะไรบ้าง พนักงานก็จะนำไอแพดนั้นมานั่งคุยกับเรา พร้อมกับบัตรคิวค่ะ

และเนื่องจากลิสต์รายการของเราวันนี้ มีแค่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องอย่างเดียว เรายังคงมี BSI อยู่ ค่าบริการของเพิ่มเติมจึงไม่มีข้อดีของ BMW ก็อยู่ตรงนี้แหละ ยกเว้นเสียแต่ว่าจะมีรายการอื่นที่ต้องทำเพิ่มเติมนอกเหนือจากลิสต์ BSI อันนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ส่วนตัวก็เคยใช้มาแล้วนะ ตอนนั้นล้างห้องเครื่องเพราะมีรอยเท้าน้องหนู เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าน้องไปทิ้งอารยธรรมในห้องเครื่องเราตั้งแต่เมื่อไหร่ มีเป็นภาพขึ้นมาในไอแพดเลย ก็เลยต้อง Said yes ล้างเลยค่ะ

ระหว่างรอ....อย่างที่ทราบกันดีว่าเวลาที่เอารถเข้ามาทำที่ศูนย์บริการก็จะต้องกินเวลาหลาย ชม. ดังนั้น พวกของกิน และการบริการก็สำคัญมากๆ ที่นี่เหมือนเข้าใจลูกค้า อมรเพรสทีจจึงจัดของทานเล่น ทานจริงมาแบบครบครันมาก
อย่างที่เห็นกล่องรูปน้องมะม่วง ที่ทางศูนย์อมรบอกว่าเป็นแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ประจำเดือน พฤษภาคม คือ โดนัทสีฟ้า เมื่อตามไปดูในเพจก็ได้ชื่อเมนูเต็มๆ ว่า Blue Lemon Donut จากคาเฟ่ดังอย่าง Mamuang Cafe คู่กับเมนูเครื่องดื่มสุดฮิตอย่างน้ำมะม่วงโซดา ที่จะทำการเสิร์ฟทุกวันพุธและพฤหัสบดี เสียใจอยู่เหมือนกันที่ไม่ได้ชิม ถ้ารู้อย่างงี้นะ...ไม่มาวันเสาร์ให้อดกินของอร่อยหรอก ฮ่า ฮ่า

แต่ก็ไม่เป็นไร...เพราะทางศูนย์มีตู้ไอติมแท่งไว้คอยปลอบใจสำหรับการพลาดโดนัทในวันนี้ ภายในก็จะมีน้องไอติมแท่งรสกะทิหน้าตามีความมินิมอลมาก เมื่อได้ชิมแล้วก็หยุดไม่ได้จริงๆ เพราะรสชาติคือดีงามเสน่ห์ของไอติมกะทิเค้าสุดยอดอยู่แล้ว สมกับความมินิมอลนี้ “น้อยแต่ (อร่อย) มาก”

แต่!! ก็แอบติดเสียดายนิดนึง ตรงที่ตู้ไอติมกะทิมินิของเรานั้นดูโล่งไป ดูไม่คุ้มค่าไฟ เลยถามพนักงานว่ามีแค่นี้เหรอ? พนักงานยิ้มแห้ง 1 ที พร้อมกับอธิบายว่า ปกติจะมีรสชาติไอติมอีก 2 รส คือบูเบอรี่ บลูบอรี่ กับบลูเบอรี่ + นม ที่จะเป็นโคนหรืออะไรสักอย่างนี่แหละ จำไม่ค่อยได้ บอกว่าวันนี้ไม่มา แงงงงงงง แอบงอนได้มั้ย อกหักจากมะม่วง ยังมาช้ำรักจากบลูเบอรี่ แต่ก็ได้น้องกะทิอร่อย ปลอบประโลมจิตใจแทน และหันไปพึ่งพา น้องเค้ก น้องมัฟฟิน ที่ก็ทำหน้าที่มอบความอร่อยได้ดีเหมือนกัน

นั่งอ่านหนังสือ เม้าท์มอยกับได้สักพักใหญ่กระเพาะก็เริ่มบ่งบอกว่าหิวแล้วจ้า.....หิวแล้วอย่างไรดีหละ จะเดินเข้าฟิวเจอร์ที่อยู่ติดกับศูนย์ ก็ไม่รู้จะทานอะไรดี ไหนๆ ก็ตั้งใจจะใช้บริการที่นี่แบบเต็มที่อยู่แล้ว ก็จัดอาหารกลางวันมาด้วยเลย
อาหารกลางวันถ้าจำไม่ผิดจะมีอยู่ 5 เมนูให้เลือก น่าทานทั้งนั้นเลย เราเลยจัดสปาเก็ตตี้แซลมอนซอสแพสโต้ พะแนงหมู และข้าวฟัดควินัว สมุนไพรมังสวิรัติ เหมาะสำหรับคนที่ไม่นิยมทานเนื้อเป็นอย่างมาก

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน