ถ้าให้พูดถึงเรื่องระบบแอร์แล้วเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านคงเคยได้ยินเกี่ยวกับระบบแอร์ VRV และ
แอร์ระบบ VRF กันมาบ้างแล้วก็จะรู้เป็นอย่างดีว่าระบบแอร์ทั้ง 2 แบบนี้มีความจำเป็นในการนำมาใช้ในองค์กรมากน้อยเพียงใด แต่ถ้าใครที่ยังไม่ค่อยรู้และอยากที่จะรู้ถึงระบบแอร์ทั้ง 2 แบบนี้ก็ตามเรามาทางนี้ได้เลยค่ะ เดี๋ยวเราจะมาอธิบายถึงระบบแอร์ทั้ง 2 แบบนี้ให้เอง
ระบบแอร์ VRV และ
แอร์ระบบ VRF ก่อนอื่นต้องอธิบายความหมายของชื่อก่อน คำว่า VRV ย่อมาจาก Variable Refrigerant Volume ส่วนคำว่า VRF ย่อมาจาก Variable Refrigerant Flow ทั้งสองคำมีความหมายเหมือนกันไม่ได้มีอะไรแตกต่างกันแต่อย่างใด เพียงแต่ในท้องตลาดจะมีการเรียกอยู่ 2 แบบเท่านั้นเอง เหตุที่มีการเรียกอยู่ 2 แบบก็เพราะว่าผู้ผลิตบางยี่ห้อจะเรียกระบบปรับอากาศประเภทนี้ว่าระบบ VRV ส่วนคำว่า VRF จะเป็นชื่อสามัญที่ใช้เรียกระบบปรับอากาศประเภทนี้ซึ่งใช้เรียกได้ทุกยี่ห้อ
ระบบปรับอากาศ VRV/VRF ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ใช้เป็นระบบปรับอากาศแบบรวมศูนย์สายพันธ์ใหม่ คำว่าระบบปรับอากาศแบบรวมศูนย์นั้นหมายถึงระบบปรับอากาศที่มีอุปกรณ์หลัก ๆ ที่ใช้ในการสร้างความเย็นอยู่ที่ส่วนกลางและกระจายความเย็นไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ในอาคารอีกทีหนึ่ง ซึ่งในยุคนั้นระบบปรับอากาศแบบรวมศูนย์ที่นิยมใช้จะเป็นระบบ Packaged Unit และระบบ Chilled Water System
• ระบบ Packaged Unit จะเป็นระบบที่ใช้ในอาคารขนาดเล็ก คอยล์ร้อนและคอยล์เย็นจะอยู่รวมกันเป็น Package คืออยู่ใน Casing เดียวกันเลย และในส่วนของคอยล์เย็นจะมีพัดลมขนาดใหญ่ที่สามารถส่งลมเย็นไปได้ทั้วถึงทั้งชั้นหรือทั้งอาคาร การกระจายลมเย็นจะใช้ท่อลมเดินไปตามพื้นที่ต่างๆ และถ้าต้องการให้ระบบมีความสามารถในการควบคุมอุณหภูมิได้อย่างอิสระและ
แม่นยำตามแต่ละพื้นที่ ในแต่ละพื้นที่จะมีกล่องปรับปริมาณลมโดยอัตโนมัติ หรือที่เรียกว่า VAV Box ซึ่ง VAV จะย่อมาจาก Variable Air Volume เพื่อปรับปริมาณลมเย็นให้เหมาะสมเพื่อรักษาอุณหภูมิห้องให้คงที่ และพัดลมที่เป็นตัวส่งลมเย็นจากต้นทางก็มี VSD (Variable Speed Drive) คอยปรับอัตราการไหลของลมโดยรวมให้ได้ตามที่ต้องการและเพื่อการประหยัดพลัง
งานเพราะพัดลมไม่ต้องทำงานที่ 100% อยู่ตลอดเวลา
• ระบบ Chilled Water System จะเป็นระบบที่นิยมใช้ในอาคารขนาดใหญ่ ระบบนี้จะมี Chiller หรือเครื่องทำน้ำเย็นอยู่ที่ห้องเครื่อง โดย Chiller จะสร้างความเย็นให้น้ำจนมีอุณหภูมิประมาณ 7 องศาเซลซียส แล้วจึงกระจายน้ำเย็นไปสู่ส่วนต่างๆ ของอาคารโดยปั๊มน้ำ ในพื้นที่ย่อยๆ จะมีคอยล์เย็นสำหรับรับน้ำเย็นและในเครื่องคอยล์เย็นจะมีพัดลมทำหน้าที่เป่าลมเย็นออกมาเพื่อทำความเย็นให้กับห้อง ถ้าต้องการให้ระบบมีความสามารถในการควบคุมอุณหภูมิได้อย่างอิสระและ
แม่นยำตามแต่ละพื้นที่ ปริมาณน้ำเย็นที่ไหลเข้าคอยล์เย็นจะต้องถูกควบคุมด้วย Modulating Type 2-Way Control Valve เพราะจะสามารถหรี่ได้โดยอัตโนมัติเพื่อจ่ายปริมาณน้ำเย็นที่เหมาะสมเข้าไปในคอยล์เย็นตัวนั้นๆ ปั๊มน้ำที่คอยหมุนเวียนน้ำเย็นก็จะมี VSD (Variable Speed Drive) เพื่อคอยปรับอัตราการไหลของน้ำเย็นโดยรวมให้เหมาะสมและประหยัดพลังงานเพราะปั๊มน้ำไม่ต้องทำงาน 100% อยู่ตลอดเวลา
ซึ่งแน่นอนว่า จากที่เราได้ร่ายมายาวทั้งหมดของระบบแอร์VRV และ
แอร์ระบบ VRF นี้สรุปได้ว่า Packaged Unit มีเทคโนโลยีที่ช่วยให้อุณหภูมิห้องมีความอิสระแม่นยำ และระบบสามารถประหยัดพลังงานลงได้โดยใช้หลักการควบคุมการจ่าย “ลมเย็น” ส่วน Chilled Water System นั้นก็มีเทคโนโลยีที่ช่วยให้อุณหภูมิห้องมีความอิสระแม่นยำ และระบบสามารถประหยัดพลังงานลงได้โดยใช้หลักการควบคุมการจ่าย “น้ำเย็น” นั้นเองค่ะ เมื่อรู้แบบนี้แล้วเราหวังว่าข้อมูลเหล่านี้ที่เราเอามาฝากจะมีประโยชน์ต่อการนำระบบแอร์เหล่านี้ไปปรับใช้กับองค์กรของคุณได้อย่างเหมาะสมนะคะ