ซึ่งรูปแบบการท่องเที่ยวจะแตกต่างจากโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ที่เบิกโรงรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวภูเก็ตแบบไม่กักตัวเป็นแห่งแรกของไทย เมื่อ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา
รัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย ฉายภาพถึงความพร้อมของผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้ง 3 เกาะว่า ขณะนี้มีความพร้อม 100% ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หลังเข้ารับการอบรมมาตรฐานต่างๆ ตามที่
รัฐบาลกำหนด สิ่งที่ต้องการในตอนนี้มีเพียงนโยบายของภาครัฐที่นิ่งและชัดเจนยิ่งขึ้น
ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศเพิ่งเปิดระบบให้นักท่องเที่ยวลงทะเบียนขอใบอนุญาตการเดินทางเข้าประเทศไทย (Certificate of Entry : COE) เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมาเพื่อเดินทางเข้าโครงการสมุย พลัส โมเดล เบื้องต้นรับทราบว่าเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เส้นทางกรุงเทพฯ-สมุย ที่รับเฉพาะผู้โดยสารต่อเครื่องจากต่างประเทศเป็นการเฉพาะ จะเดินทางถึงสมุย เวลา 11.35 น.ของวันพรุ่งนี้ มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไม่ถึง 10 คน ส่วนใหญ่มาจากยุโรป
“ไตรมาส 3 นี้ เราไม่ได้คาดหวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจำนวนมาก เพราะต้องยอมรับว่าปัจจุบันภาพรวมทั่วประเทศไทยมีการระบาดของโรคโควิด-19 สูงมากกว่า 8,000-9,000 รายมาหลายวัน กระทบต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวในการเข้ามาเที่ยวโครงการสมุย พลัส โมเดล เหมือนกัน แม้ขณะนี้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของทั้ง 3 เกาะจะมีน้อยอยู่ที่ 4 รายก็ตาม”
แต่สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือการเริ่มนำร่องรับนักท่องเที่ยวเข้ามาก่อน พร้อมทดสอบระบบให้เป็นไปคู่มือมาตรฐานการปฏิบัติ
งาน (Standard Operating Procedure:SOP) ทั้งด้านการเดินทาง ด้านสาธารณสุข และอื่นๆ ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์ล่วงหน้า เพื่อให้เริ่มเห็นกระแสการเดินทางมากขึ้นในไตรมาส 4 เป็นต้นไป ซึ่งคาดหวังว่าสถานการณ์ผู้ติดเชื้อใหม่รายวันในไทยจะดีขึ้น สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวกล้าเดินทางมากขึ้น โดยส่วนใหญ่จะเดินทางมาจากยุโรป อีกส่วนเป็นนักท่องเที่ยวในไทยที่ลี้ภัยโควิด-19 จากกรุงเทพฯซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เป็นกลุ่มที่สามารถทำงานที่ไหนก็ได้ ทำให้อัตราเข้าพักโรงแรมบนเกาะสมุยเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 20-30% จากปัจจุบันอยู่ที่ 8-10%
ด้านความพร้อมของธุรกิจโรงแรมบนเกาะสมุย ปัจจุบันเปิดให้บริการ 177 แห่ง คิดเป็น 8,629 ห้อง ขณะที่ก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 มีโรงแรมเปิดให้บริการ 671 แห่ง 25,000 ห้อง โดยตามแนวปฏิบัติของนักท่องเที่ยวที่เข้าโครงการสมุย พลัส โมเดล จะต้องอยู่ในพื้นที่ 3 เกาะอย่างน้อย 14 วัน จึงจะออกไปเที่ยวพื้นที่อื่นในไทยได้ ในช่วง 7 วันแรกจะต้องเข้าพักโรงแรมที่เป็น Area Quarantine (AQ) ซึ่งปัจจุบันมี 19 แห่ง ราว 400 ห้อง เมื่ออยู่ในโรงแรมแบบ AQ ครบ 3 วันแรก สามารถท่องเที่ยวตามเส้นทางที่กำหนด (Sealed Routes) ได้ในวันที่ 4-7 ซึ่งบริษัททัวร์และบริษัทเรือที่ให้บริการต้องได้มาตรฐาน Samui Plus
ส่วนวันที่ 8-14 สามารถเข้าพักโรงแรมที่ได้รับเครื่องหมายมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและสุขอนามัย SHA Plus ซึ่งให้บริการ 320 แห่ง และไม่ได้จำกัดว่าจะต้องพักบนเกาะสมุยเท่านั้น สามารถไปเที่ยวและพักบนเกาะพะงัน และเกาะเต่าได้อย่างเสรี
“แพ็คเกจห้องพักแบบ AQ 7 วันแรกบนเกาะสมุย ผู้ประกอบการกำหนดราคาเริ่มต้นที่ 35,000 บาท ถือเป็นราคาที่นักท่องเที่ยวเข้าถึงได้จริง ซึ่งคิดรวมแพ็คเกจค่าสวอบตรวจหาเชื้อโควิด-19 (RT-PCR) จำนวน 3 ครั้ง ค่าบริการทางการแพทย์ และค่าบริการอื่นๆ ที่ 16,000 บาทด้วยแล้ว เมื่อดูเฉพาะค่าสวอบ หากอยู่ในพื้นที่ครบ 14 วันก่อนไปเที่ยวพื้นที่อื่นในไทย ต้องรับการตรวจหาเชื้อ 3 ครั้ง ค่าสวอบจะอยู่ที่ 8,000 บาท แต่ถ้าอยู่ไม่ถึง 14 วัน รับการตรวจหาเชื้อ 1 ครั้ง ค่าสวอบจะอยู่ที่ 4,000 บาท รับการตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง ค่าสวอบจะอยู่ที่ 6,000 บาท ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้รับเงินคืนส่วนต่างที่เหลือ”
รัชชพร เล่าต่อว่า สำหรับ “แผนเผชิญเหตุ” หากพบการระบาดของโควิด-19 มากขึ้นจนเข้าเงื่อนไข “ชะลอ” โครงการสมุย พลัส โมเดล ได้แบ่งหลักเกณฑ์ออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ ส่วนที่ 1 มีการระบาดเฉพาะในกลุ่มภาคบริการ รวมนักท่องเที่ยวและพนักงานผู้ให้บริการ หากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ภาคบริการเกิน 20 รายต่อ 2 สัปดาห์ และมีการระบาดมากกว่า 3 คลัสเตอร์ในช่วง 2 สัปดาห์ จะปรับแผนให้นักท่องเที่ยวเข้ากักตัวอยู่เฉพาะในห้องพักของโรงแรมที่เป็นสถานกักกันทางเลือก (Alternative Local Quarantine : ALQ) ตามกำหนด 14 วัน
ส่วนที่ 2 มีการระบาดในเกาะสมุย (นับรวมนักท่องเที่ยวและพนักงานภาคบริการด้วย) หากจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเกิน 40 รายต่อ 2 สัปดาห์ และมีการระบาดวงกว้างที่ควบคุมไม่ได้ จะมีการปรับแผนเพิ่มความเข้มข้นด้านมาตรการคัดกรอง ส่วนการพิจารณาว่าจะยุติโครงการสมุย พลัส โมเดล หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) อำเภอเกาะสมุย
ด้านยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้รับรายงานเกี่ยวกับโครงการสมุย พลัส โมเดล พบว่ายอดจองตั๋วเส้นทางบิน กรุงเทพฯ-สมุย ของบางกอกแอร์เวย์สที่รับเฉพาะผู้โดยสารต่อเครื่องจากต่างประเทศเป็นการเฉพาะแบบไป-กลับ วันละ 3 เที่ยวบิน ในช่วง 4 เดือนนี้ ตั้งแต่ ก.ค.-ต.ค.2564 มีจำนวนผู้โดยสารจองตั๋วขาเข้าสมุยแล้ว 80 คน แบ่งเป็นเดือน ก.ค. 33 คน เดือน ส.ค. 20 คน เดือน ก.ย. 10 คน และเดือน ต.ค. 17 คน
สำหรับวันแรกของการเปิดโครงการฯ มีผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาจำนวนรวม 11 คน จากเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของบางกอกแอร์เวย์ส กรุงเทพฯถึงสมุยเวลา 11.35 น. จำนวน 6 คน จากสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเยอรมนี, เที่ยวบินที่ 2 ถึงสมุยเวลา 16.05 น. 1 คนจากสิงคโปร์ และเที่ยวบินที่ 3 ถึงสมุยเวลา 18.40 น. 4 คนจากฮ่องกง ส่วนวันที่ 2 (16 ก.ค.) มีผู้โดยสาร 4 คน จากไต้หวัน 3 คน เป็นเจ้าของธุรกิจ 2 คน และมาทำงานไปด้วยเที่ยวไปด้วย 1 คน และจากญี่ปุ่นอีก 1 คน เป็นนักธุรกิจ
ฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวเสริมว่า ผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาวันแรกของโครงการฯ 11 คน ทั้งหมดเป็นสื่อมวลชนที่เดินทางร่วมแฟมทริปทัศนศึกษาเส้นทางท่องเที่ยวของโครงการฯ
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/948776