วันนี้ Global Center on Adaptation (GCA) ได้เปิดเผยรายละเอียดของโครงการสำคัญ ๆ ในงาน Climate Adaptation Summit (CAS2021) ซึ่งจัดโดยเนเธอร์แลนด์ งานประชุมนี้นับเป็นงานประชุมระดับนานาชาติงานแรกที่รวบรวมเหล่าผู้นำจากประเทศต่าง ๆ มาร่วมหารือโดยมีจุดมุ่งหมายที่จะกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบที่จำเป็นเพื่อส่งเสริมการดำเนินงานให้เกิดการปรับตัวสู่โลกที่มีความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ ซึ่งการทำงานของ GCA ได้รับการสนับสนุนจากผู้นำระดับโลกที่มาร่วมประชุมหลายท่าน อาทิ Ali Bongo Odimba ประธานาธิบดีประเทศกาบอง, Nana Akufo-Addo ประธานาธิบดีประเทศกานา, Keith Mitchell นายกรัฐมนตรีของประเทศเกรเนดา, Carlos Alvarado Quesado ประธานาธิบดีสาธารณรัฐคอสตาริกา, Sheikh Hasina นายกรัฐมนตรีของบังคลาเทศ และ Uhuru Kenyatta ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเคนยา
งานประชุมงานนี้ได้ถูกจัดขึ้นในช่วงเวลาที่มหันตภัยโรคระบาดครั้งใหญ่ยังคงดำเนินอยู่และกำลังกัดกร่อนความคืบหน้าในการสร้างความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศซึ่งจะส่งผลให้ประเทศและชุมชนต่าง ๆ เสี่ยงที่จะต้องเผชิญกับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จากข้อมูลในรายงาน "สถานการณ์และแนวโน้มการปรับตัวในปี 2564" ("State and Trends in Adaptation 2020") ของ GCA แสดงให้เห็นว่า มีความจำเป็นที่จะต้องระดมทุนเพิ่มเติมอีก 10 เท่าเพื่อให้มีเงินทุนมากถึง 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี จึงจะเพียงพอสำหรับการรับมือกับความเสี่ยงในด้านภูมิอากาศตามที่โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ได้ประมาณการไว้ ขณะเดียวกัน รายงานเชิงเทคนิคในประเด็นเรื่อง "ความท้าทายด้านการเงินเพื่อรับมือกับการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศในบริบทของโควิด-19" ("Adaptation Finance in the Context of Covid-19") ก็มีการคาดการณ์ไว้ว่า เงินทุนสำหรับการดำเนินการเพื่อปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศได้ลดลง 10% ในปี 2563 ซึ่งสวนทางกับแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของเม็ดเงินดังกล่าวในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่ดำเนินมายาวเป็นเวลานับทศวรรษ
การหารือระดับรัฐมนตรี
GCA ได้เป็นเจ้าภาพจัดเวทีหารือระดับรัฐมนตรีเป็นครั้งแรกในช่วงเริ่มต้นของงาน CAS2021 โดยมีเหล่ารัฐมนตรีและผู้นำจากองค์กรระหว่างประเทศมากกว่า 50 คนมาร่วมพูดคุยกันถึงแนวทางในการขยายความร่วมมือระดับผู้นำทั่วโลกเพื่อเร่งให้เกิดการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และในอนาคตเวทีนี้ก็จะกลายมาเป็นเวทีการประชุมระดับสูงประจำปีในด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และจะทำหน้าที่เป็นตัวผลักดันความเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนทศวรรษแห่งการปรับเปลี่ยนสู่โลกที่มีความยืดหยุ่นต่อการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศภายในปี 2573
Ban Ki-moon ประธานร่วมของ Global Center on Adaptation ซึ่งเป็นเจ้าภาพการประชุมกล่าวว่า:
"ในการเจรจาระดับรัฐมนตรีของ GCA นี้ เราหวังว่าจะบรรลุ 3 สิ่งคือ การเปลี่ยนแปลงขั้นตอนการทำงานซึ่งจะช่วยให้เราได้มีเงินทุนและการสนับสนุนตามที่สมควรจะได้รับ นอกจากนี้ เรายังต้องการให้มีการปรับเปลี่ยนขั้นตอนในการจัดหาเงินสนับสนุนเพื่อให้สามารถระดมทุนได้เป็นจำนวนเงินหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับทศวรรษแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ และในขณะเดียวกัน เราก็มีความจำเป็นที่จะต้องเสริมสร้างความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาและวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน"
Kristalina Georgieva ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และสมาชิกคณะกรรมการของ Global Center on Adaptation กล่าวว่า:
"IMF กำลังยกระดับการสนับสนุนในด้านนโยบาย, แผนการลงทุน และทักษะที่จำเป็นเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศให้กับประเทศต่าง ๆ การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และสร้างความยืดหยุ่นโดยเอื้อประโยชน์ต่อทุกฝ่าย เป็นสิ่งที่จะส่งผลดีทั้งต่อการเติบโตและการจ้างงานเพื่อสุขภาพและโลกใบนี้ของเรา"
John Kerry ทูตพิเศษด้านสภาพอากาศของสหรัฐกล่าวบนเวทีนี้ว่า:
"แม้ว่าขณะนี้ทุกประเทศจะกำลังเรียนรู้วิธีการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ แต่ก็ยังคงไม่มีใครที่สามารถหาคำตอบได้ทั้งหมด ยิ่งเรารวบรวมข้อมูลและมาแบ่งปันกันได้เร็วมากเท่าไหร่ เราก็จะสามารถมาร่วมมือกันเพื่อทำให้สิ่งเราทุกคนรู้ว่าจำเป็นต้องทำบรรลุผลได้เร็วขึ้นเท่านั้น และหากเรานำวิธีการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดมาใช้ได้เร็วมากยิ่งขึ้น เราก็จะสามารถประหยัดงบประมาณที่ต้องใช้ทั่วโลกได้ด้วยความเร็วในระดับเดียวกัน"
Patrick Verkooijen ซีอีโอของ Global Center on Adaptation กล่าวว่า:
"โควิด-19 ทำให้โลกต้องเข้าสู่ยุคที่เกิดแรงสั่นสะเทือนหลากหลายด้านซึ่งต้องอาศัยวิธีการแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพและร่วมมือกัน ซึ่งการปรับตัวก็เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญในการฟื้นตัวของเราด้วย การผสานรวมระหว่างการดำเนินการกำหนดราคาค่าใช้จ่ายสำหรับกิจกรรมที่ส่งผลโดยตรงต่อการปล่อยคาร์บอนให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจะทำให้จีดีพีทั่วโลกขยายตัวได้ราว 0.7% ในอีก 15 ปีข้างหน้า และช่วยสร้างงานให้กับผู้คนอีกนับล้าน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้เรามีความพร้อมที่จะรับมือกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น"
โครงการ African Adaptation Acceleration Program (AAAP)
สถานการณ์โควิด-19 และวิกฤตภูมิอากาศที่กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นได้ทำให้ทวีปแอฟริกาต้องเร่งความเร็วในการปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ โดย African Development Bank และ Global Center on Adaptation (GCA) ได้ออกมาประกาศว่า พวกเขากำลังผนึกพลังเพื่อใช้ความเชี่ยวชาญ, ทรัพยากร และเครือข่ายที่มีอยู่ เปิดตัวโครงการ Africa Adaptation Acceleration Program (AAAP) ใหม่นี้ขึ้นในภูมิภาค โดยมุ่งเน้นไปที่ภาคการเกษตร, โครงสร้างพื้นฐาน, เยาวชน และการเงินที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่ง African Development Bank ได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะระดมทุนในด้านภูมิอากาศให้ได้ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในระหว่างปี 2563-2568 โดยในจำนวนนั้นจะแบ่งออกมาอย่างน้อย 50% (1.25 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อใช้สำหรับการสร้างความยืดหยุ่นและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ส่วนที่เหลืออีก 1.25 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐจะถูกนำมาใช้ร่วมกับพันธมิตรรายสำคัญ ๆ เพื่อมอบการสนับสนุนแก่รัฐบาล เอกชน และภาคประชาสังคมในแอฟริกาให้ได้ประโยชน์ในการพัฒนาโซลูชันการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด