เรื่องล่าสุดของหมวด
อ่าวมาหยา 2566 เปิดให้เที่ยวแล้ววันนี้ หลังจากปิดไปนานกว่า 2 เดือน
เหมืองหินเก่าถ้ำทองหลาง มุมอันซีนเมืองพังงา ได้ฟีลเหมือนเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์
ภูกระดึง ที่เที่ยวยอดฮิต พร้อมรีวิวการเดินทางไปภูกระดึง
8 ทะเลหน้าฝน ชวนสัมผัสกับความงดงามทางธรรมชาติ
เตรียมเปิดสกายวอล์คดอยสะเก็น (คีรีชัยยามะ) มุมอันซีนแห่งใหม่ของเชียงราย
น้ำตกถ้ำพระ สไลเดอร์ธรรมชาติ กับความชุ่มฉ่ำของสายน้ำในช่วงหน้าฝน
ข้าวหอมรีสอร์ท เขาค้อ สุดฟินทะเลหมอกจากหน้าห้องพัก สวยอลังการในหน้าฝน
ประกาศผล 50 โรงแรมที่ดีที่สุดในโลก 2023 โรงแรมไทยติดลิสต์มาถึง 4 อันดับ!
ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา เช็กอินเที่ยวพัทยา กับชุดบิกินีที่ทำเอาแฟนคลับซูมกันตาแตก!
ขาวทะลุจอ! รวมภาพปันปัน สุทัตตา กับบิกินีตัวจิ๋ว เที่ยวเกาะยาวน้อย
จัดโปรเพื่อคนไทย! "อนันตรา เกาะยาวใหญ่" รีสอร์ทหรูใหม่ล่าสุดบนเกาะยาวใหญ่ เริ่มต้นแค่หลักพัน
13 ที่พักกาญจนบุรี 2566 ติดริมแม่น้ำ พร้อมข้อมูลการเดินทางแบบละเอียด
Kliff Beach Club ร้านอาหารเปิดใหม่วิวทะเลพัทยา พิกัดถ่ายรูปสวยบนเขาพระตำหนัก
นุ่มนิ่มละลายใจ โชกุปังจาก Lalai คาเฟ่บรรยากาศอบอุ่น สุขุมวิท 49
หนมครกยกถาด ร้านนี้ชุดแม่ค้าทำเอาหลายคนหลุดโฟกัส!
“อี_กา กินเช้า” มื้อเช้าจากความทรงจำที่ อี-กา สาขาใหม่ ซอยสาทร 12
ขนมตดหมา อาหารถิ่นเมืองบุรีรัมย์ กลิ่นหอมเย้ายวนใจ!
BEARHOUSE ร้านขนมและชานม “ไข่มุกโมจิ” เจ้าแรกของเมืองไทย บุกไอคอนสยาม
เกาหลีเหนือ เตรียมเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยวเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี!
อัปเดต 33 ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า 2023 คนไทยเที่ยวได้เลย ไม่ต้องรอ!
บ้านพี่เมืองน้อง! รัฐบาลเตรียมเจรจาให้คนไทย ฟรีวีซ่าเข้าเยอรมนี
เรื่องต้องรู้ก่อนไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ฮ่องกง
เที่ยวเวียดนาม เมืองไหนดี รวม 12 เมืองน่าเที่ยว เหนือจรดใต้
5 อันดับ เรือผีสิง ที่เฮี้ยนสุดในประวัติศาสตร์
หน้า: 1
แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?
ดาวมิชลินคืออะไร ต้องมีคุณสมบัติใดถึงจะได้ดาว มิชลินเป็นรางวัลอันทรงเกียรติสำหรับร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งลูกค้าเต็มใจที่จะเดินทางไกลเพื่อไปสัมผัสประสบการณ์ชั้นเยี่ยมในการรับประทานอาหาร การมอบรางวัลนี้ถือเป็นเกียรติประวัติสำหรับคนเป็นเชฟและตัวร้านอาหารเอง “ดาวมิชลินมาจากสิ่งที่อยู่ในจานเท่านั้น” (The stars are in the plate and only in the plate.) เพราะนักชิมของมิชลินนั้นจะประเมินเฉพาะคุณภาพอาหารเพียงเท่านั้น ไม่นำสถานที่ตั้ง การตกแต่งร้าน บริการ หรือปัจจัยอื่นๆมาพิจารณาด้วย โดยผู้ตรวจสอบของมิชลินจะประเมินคุณภาพของร้านอาหารตามเกณฑ์ 5 ที่มิชลินกำหนดขึ้นเอง ได้แก่ คุณภาพวัตถุดิบ, การจัดเตรียมและรสชาติ, ลักษณะเฉพาะตัวของเชฟที่สื่อI ผ่านอาหารที่ปรุง, ความคุ้มค่าสมราคา, เสมอต้นเสมอปลายไม่ว่าจะไปวันไหนของเดือน ทำไมสัญลักษณ์ต้องเป็นรูปมิชลินเลียปาก ‘บิบ กูร์มองด์’ ร้านอาหารที่นำเสนออาหารคุณภาพสูงในราคาที่เอื้อมถึง ในสมัยแรกนั้นเพื่อให้ผู้อ่านสามารถหารายชื่อร้านอาหารกลุ่มนี้ได้สะดวก จึงได้นำตัวอักษร R สีแดงมาใช้เป็นสัญลักษณ์ ในปี 2535 ตัวอักษร R นี้ถูกแทนที่ด้วยคำว่า Repas (เรอปา) ซึ่งแปลว่ามื้ออาหารในภาษาฝรั่งเศส ต่อมาในปี 2540 นักออกแบบได้ปรับปรุงรูปสัญลักษณ์ โดยเปลี่ยนมาใช้รูปบิเบนดัมหรือมิชลินแมนซึ่งเป็นที่รู้จักดีทำท่าเลียริมฝีปาก = ทำให้ ‘บิบ กูร์มองด์’ กลายเป็นทูตสำหรับอาหารสูตรดั้งเดิมที่ผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถันและราคาเป็นกันเอง รางวัลนี้มอบให้แก่ร้านอาหารคุณภาพที่นำเสนออาหาร 3 คอร์ส ได้แก่ อาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก และของหวาน ในราคาที่สมเหตุสมผลเท่านั้นเราเชิญนักชิมมากินที่ร้านตัวเองก็ไม่ได้นะนักชิมจะทำงานโดยไม่เปิดเผยตัว พวกเขาจองโต๊ะในร้านอาหารล่วงหน้า สั่งอาหาร ทานอาหารโดยไม่ได้จดบันทึกข้อมูลใดๆ ระหว่างรับประทานอาหาร รวมถึงชำระค่าใช้จ่ายเองทั้งหมดเหมือนกับลูกค้าธรรมดาคนหนึ่ง เพราะไม่ต้องการที่จะได้รับการปฏิบัติแตกต่างไปจากลูกค้ารายอื่น อาหารของเขาจึงเหมือนกับอาหารของลูกค้าทั่วไป จะเผยตัวในกรณีที่จำเป็นหลังชำระค่าอาหารแล้วเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเท่านั้น และนี่คือที่มาคร่าวๆ ของมิชลินไกด์บุ้ค หนังสือไกด์บุ้คที่สายกินอยากจะตระเวนชิมตาม ต้องขอบคุณมิสเตอร์ อองเดร และมิสเตอร์เอดูอาร์ มิชลิน (Andr & douard Michelin) ที่ทำให้สายกินอย่างเราเข้าถึงของอร่อยได้ง่ายขึ้นส่วนไกด์บุ๊คก็ไม่ต้องไปหาที่ไหน สามารถจิ้มเข้าไปดูรายชื่อร้านได้ที่นี่ https://guide.michelin.com/th/th/restaurants/thai ซึ่งในเว็ปก็จะมีรายละเอียดคร่าวๆ ของแต่ละร้านว่าตั้งอยู่ที่ไหน เวลาเปิดปิดเมื่อไหร่ ราคาอาหารโดยประมาณ เอาจริงๆ ร้านโดยทั่วไปก็จะเป็นร้านที่เราคุ้นๆ ชื่อกันทั้งนั้น อารมณ์แบบถ้าไปประตูน้ำต้องข้าวมันไก่ร้านนี้ ไปเยาวราชต้องก๋วยจั๊บน้ำใสหรือกระเพาะปลาร้านนี้อะไรแบบนั้น วันนี้ขี้เกียจแต่อยากกินของอร่อย เราเลยไปศูนย์รวมร้านมิชลินมาไว้ที่เดียวแล้วกัน แท่แด๊,,,,ที่นั่นคือไทยเทสต์ฮับมหานครคิวบ์นั่นเอง เอาจริงคือสะดวกไงนั่งรถไฟฟ้ามาได้ทั้งไปกลับ แถมยังมีร้านจากมิชลินให้ลองหลายร้านด้วยร้านแรกคือก๋วยจั๊บนายเอ็ก ที่เลือกร้านนี้เพราะคนขายหล่อ เอ้ยไม่ใช่ๆ ที่เลือกเพราะเพื่อนสาวนางอยากกิน สมใจอยากของนางมากเพราะแต่ก่อนถ้านางอยากกินนางต้องถ่อนั่ง MRT ไปโผล่วัดมังกรแล้วเดินไปกิน(แถมร้านก็มีที่นั่งก็น้อยมากๆ ไปสายต้องไปต่อคิวเพื่อรอกินอีกด้วย) เราซึ่งชอบแบบน้ำข้นนั้นเลยได้แต่ขอชิม รสชาติก็แบบก๋วยเตี๋ยวที่เข้มข้นหน่อยรสออกไปทางเผ็ดพริกไทย ซึ่งสายน้ำข้นอย่างเรานั้นเข้าไม่ถึงหมูกรอบนั้นกรอบจริงอะไรจริงคือเพื่อนตักหมูเข้าปากเคี้ยวกรวบๆ เรานั่งตรงข้ามยังได้ยินเสียงฟันกระทบผิวหนังของหมู ที่อึ้งกว่านั้นคือนางซดน้ำซุปด้วยความเอร็ดอร่อย เรานั่งมองด้วยความอยากเข้าถึงรสชาติก๋วยจั๊บน้ำใสมาก วันหลังต้องหาทางเข้าเผ่านี้ให้ได้ร้านที่ 2 สุกี้เมาเวอริค มาถึงร้านทางของเราบ้าง ใครชอบกิ่นกระทะในอาหารผัดแบบเราบ้าง คือสุกี้แห้งเนี่ยทีเด็ดของมันคือรสของซอสสุกี้ในเส้นและความหอมกระทะไหม้เล็กน้อยเวลาเคี้ยว ไม่ใช่ว่าผัดจนสุกี้ไหม้นะ แต่มันคือกลิ่นกระทะไหม้อ่ะมัน ซึ่งถ้าร้านไหนผัดได้แบบนี้นะ เมนูเส้นผัดร้านนี้อนุมานได้ว่าจะอร่อยหมด หมูก็นุ่มเด้งดี เส้นเหนียวและผักยังมีความกรุบกรอบอยู่ ที่ดีสุดๆคือผัดออกมาไม่มันจนเกินไปเพราะถ้ากินช้ามันจะเลี่ยนมากๆ แต่จานนี้สอบผ่านจ้าร้านที่ 3 ผัดไทยไฟทะลุ แค่ชื่อก็แบบจินตนาการตามแล้วว่า เป็นผัดไทยหอมๆ บนกระทะไฟแรงๆลุกโชติช่วง ได้กลิ่นซอสไหม้ๆเป็นคาราเมลหอมๆกระตุ้นต่อมน้ำลายให้ทำงาน รสชาติก็กลมกล่อมได้แต่ไม่ได้กินแบบแล้วว้าววววววววววว คืออร่อยตามมาตรฐานอ่ะ เส้นนุ่มเหนียวดี ผัดมาได้แบบแห้งกำลังดีแบบถ้าเกินไปอีกนิดจะแห้งเกินแล้วอ่ะ ผักใส่ให้มาน้อยไปหน่อย หมูกรอบดี ไข่โปะดี ที่สำคัญตอนผัดไฟลุงท่วมดีด้วย ร้านเป็นแบบเปิดโล่งทำให้เราสามารถเห็นต้องเค้ากำลังผัดได้ด้วย ดีงามร้านที่ 4 เผ็ดเผ็ด(เฮ่) ของดีของเด็ดสั่งตรงมาจากนครพนม อันนี้เพื่อนรีเควสอีกนั่นแหล่ะ นางรักของนาง อาหารเด็ดของร้านนี้คืออะไรที่ใส่ปลาร้าคือเริ่ดหมด แต่เราไม่ได้สายนี้เต็มตัวไงเลยต้องแยกสั่งมาสองจานเลยคงทายออกไม่ยากว่าจานไหนของเรา บ่งบอกได้อย่างชัดเจนจากสีและความเผ็ดระดับชั้นอนุบาลของส้มตำ เรากินปลาร้าได้แต่กินได้แบบไม่เยอะ เพื่อนบอกว่าถ้าตำปลาร้าไม่เผ็ดมันไม่อร่อย เราชิมไปหลายคำ เผ็ดทีก็กินส้มตำตัวเองหายเผ็ดก็ไปจกจานเพื่อนใหม่อีกที ปลาร้าหอมนัวกระแทกจมูกมาก กลิ่นติดโสตจมูกขนาดที่ว่าตอนเห็นรูปเหมือนเพิ่งกินไปเมื่อกี๊ยังได้กลิ่นในจมูกและน้ำลายสอ อิทธิพลของปลาร้านั้นช่างรุนแรงเหลือเกิน ไว้กินเผ็ดได้มากกว่านี้แล้วจะมาลองตำหลวงพระบางดูเพราะตอนที่ไปยืนรอเห็นคนสั่งกันหลายคนน่าจะเป็นเมนูเด็ดแหล่ะกินเสร็จเล่นเอาเหนื่อยเลย ตอนมาถึงมันหิวเห็นอะไรก็น่ากินไปหมด เลยสั่งแบบลืมตัวไปสักหน่อยเพื่อนก็ไม่มีใครห้ามใครเลย ตอนแรกก็จะตบท้ายด้วยของหวานสักหน่อย เล็งไว้สองร้านไม่ร้านขนมไทยก็ร้านปาท่องโก๋ สุดท้ายคุณไม่ได้ไปต่อจ้า ด้วยความเผ็ดส้มตำกินส้มตำคำดูดน้ำคำนึง กินเสร็จแน่นมากกกกกก มีอีกร้านที่อยู่ในมิชลินไกด์ด้วย คือ 26ยี่สับหลก เป็นร้านรุ่นลูกก๋วยเตี๋ยวเนื้อนายโส่ยที่เค้าว่ากันว่าสาวกเนื้อไม่ควรพลาด แต่!กินไม่ไหวแล้วจ้ะแม่จ๋า อะไรที่ดูๆเล็งๆไว้ ไว้ค่อยมาชิมทีหลังแล้วกันนะ
เออ ที่นี่แหละ อร่อยเด็ดดวงมาก เราไปกินปาท่องโก๋มาใช้ได้เลยผัดไทยไฟทะลุก็อร่อยสุดยอดมาก เข้มข้นเครื่องเยอะ ที่ไทยเทสฮับต้องไปลองจริงๆ อยากให้ไปลองกันของอร่อยเยอะ
แจ้งเตือน
ภาพและเนื้อหาต่อไปนี้ ไม่เหมาะสมแก่เด็ก และเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี